วงการคริปโตในประเทศกัมพูชาเริ่มรุดหน้า แม้ว่าจะยังอยู่ในพื้นที่สีเทาก็ตาม

วงการ cryptocurrency ในประเทศเพื่อนบ้านเรากัมพูชาดูเหมือนว่าจะเริ่มรุดหน้าไปไกลขึ้นแล้ว แม้ว่าจะยังไม่มีกฎหมายที่แน่ชัดออกมากำกับ

ความไม่แน่ชัดทางกฎหมายคริปโตในกัมพูชา

รายงานจากหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์เผยว่าอุตสาหกรรม cryptocurrency ในประเทศนั้นกำลังเริ่มรุดหน้าแล้ว แม้ว่าปัจจุบันทางรัฐบาลจะยังไม่มีกฎหมายกำกับก็ตาม

ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ “เขมรคริปโตฟาวเดชัน” นามว่านาย อิน มีน กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ดังกล่าวว่าประชาชนทั่วไปกำลังเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมกับ cryptocurrency ในประเทศอย่างระมัดระวัง เนื่องจากว่าความไม่แน่นอนทางกฎหมาย “มันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามันเป็นหน้าที่ใครที่จะออกกฎหมายกำกับ cryptocurrency” กล่าวโดยนายอิน “มันอาจจะเป็นหน้าที่ของธนาคารกลางแห่งประเทศกัมพูชา (NBC) หรือคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ก็ได้ แต่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะได้ดูแลในส่วนนี้”

แม้ว่าทางกัมพูชาจะไม่ได้ประกาศทำให้ cryptocurrency ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน แต่ทางรัฐบาลเขมรก่อนหน้านี้เคยประกาศไม่ให้ “ธนาคารทุกธนาคารรวมถึงสถาบันการเงินในการซื้อขายและโฆษณาเกี่ยวกับ cryptocurrency” เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา

ชาวกัมพูชาสร้างเหรียญคริปโตเป็นของตัวเอง

นายอินกล่าวว่าเขาเคยเปิดตัวเหรียญ cryptocurrency เป็นของตัวเองไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2017 ที่ผ่านมา โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า “สภาพกฎหมายที่ยังเป็นสีเทาทำให้เขาไม่สามารถสร้างรายได้จากมันได้” โดยนายอินยังเผยว่า “เขาได้แจกเหรียญที่เขาสร้างขึ้นมาให้กับผู้คนแบบฟรี ๆ และยังบอกว่ามันไม่มีมูลค่าใด ๆ เลยอีกด้วย” โดยเหรียญดังกล่าวมีชื่อว่า Khcoin มีจุดประสงค์ในการใช้งานเพื่อการศึกษาเท่านั้น นอกจากนี้นายอินยังได้สร้าง wallet สำหรับเหรียญดังกล่าว และเคลมว่าปัจจุบันมีชาวเขมรประมาณ 5,000 คนที่กำลังถือเหรียญ Khcoin อยู่ และที่สำคัญ เขาได้พัฒนาเว็บเทรดสำหรับให้นักเทรดคริปโตในประเทศได้ใช้งานแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดให้บริการซื้อขายแต่อย่างใด เนื่องจากว่ากำลังรอกฎหมายอยู่

นายอินเผยว่าการทำเว็บเทรดคริปโตของเขานั้นถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย โดยเขากล่าวว่า “ผมใช้เงินของตัวเองและสูญเสียมันไปนับพันดอลลาร์ให้กับแฮคเกอร์ในระหว่างที่ทดสอบระบบ แต่ผมไม่อยากจะคิดเล็กน้อย เนื่องจากว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับชาวกัมพูชาที่จะได้แสดงให้โลกรู้ว่าพวกเราก็มีเงินคริปโตเป็นของตัวเองได้เหมือนกัน”

เป็นที่คาดการณ์ว่าถ้าหากกฎหมายด้านคริปโตในประเทศกัมพูชามีขึ้นแล้วนั้น อาจจะมีนักลงทุนจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้าไปกันมากขึ้น ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่ากฎหมายดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกให้ฝั่งนักลงทุนมากน้อยขนาดไหน

ภาพจาก Shutterstock