นาย Remi Quirion หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Quebec ได้ตีพิมพ์เอกสารที่อธิบาย และทำลายความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ Bitcoin ว่ามันถูกนำไปใช้แบบผิดกฎหมาย
นาย Quirion กล่าวว่า :
“Bitcoin ชอบถูกคิดว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการฟอกเงิน แม้กระทั่งนาย Christine Lagarde ประธานของ IMF ยังกลัวว่าคริปโตนั้นจะส่งเสริมการฝ่าฝืนกฎหมาย”
ความเป็นส่วนตัว ถูกจัดว่าเป็นอาชญกรรม
นาย Quirion เห็นด้วยว่า Bitcoin ให้ความเป็นส่วนตัวก็จริง แต่แค่ในระดับหนึ่งเท่านั้นไม่ถึงขนาดระบุตัวตนไม่ได้เลย ซึ่งส่วนนี้จะทำให้กระจ่างว่ามันแทบจะไม่มีศักยภาพที่จะทำสิ่งผิดกฎหมายเลย
เขาอ้างอิงถึงคำพูดของนาย Jonathan Hamel ผู้ช่วยนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Montreal ที่กล่าวว่า :
“ข้อมูลของการทำธุรกรรมของมันนั้นโปร่งใส และเป็นสาธารณะ ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกเก็บลงไปในระบบที่ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ และมีสำเนาของข้อมูลส่งกระจายไปยังทุกคนในเครือข่าย”
และในเอกสารยังได้มีการอ้างอิงถึงนาย Erwan Joncheres นักวิเคราะห์ Cryptocurrency เขากล่าวว่า :
“ความไม่มีตัวตนของ Bitcoin นั้นเป็นแค่ความเชื่อ” เขาโต้แย้งว่าจริง ๆ แล้วว่า “Bitcoin ก็โปร่งใสพอ ๆ กับเงินปกตินั่นแหละ ทุก ๆ คนจะต้องให้ข้อมูลส่วนตัวกับแพลตฟอร์มที่ใช้งานก่อน”
เรื่องเล็กน้อย
ในเอกสารดังกล่าวยังอ้างอิงไปถึงงานวิจัยที่ถูกจัดทำโดย Center for Sanctions and Illicit Finance of the Defense of Democracies Foundation รายงานว่า หลังจากที่พวกเขาได้ทำการวิเคราะห์ธุรกรรมของ Bitcoin ในปี 2013 ถึงปี 2016 มีแค่ 0.61 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดเท่านั้นที่เกียวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย
นาย Quirion กล่าวว่า :
“ในหลายปีมานี้ ข้อกล่าวอ้างที่ว่า Bitcoin นั้นถูกใช้ในกระบวนการฟอกเงินต้องได้รับการตั้งคำถาม”
นาย Quirion ได้ปฎิเสธถึงการใช้ Bitcoin ในหนีภาษี ด้วยการอ้างอิงถึงคำพูดนาย Karl Lavoie พนักงานตรวจสอบรายได้ประเทศแคนนาดา กล่าวว่า “Bitcoin ก็เหมือนเงินปกติ ทุก ๆ คนต้องมารายงานว่าคุณทำอะไรกับมัน”
นอกจากนี้นาย Johncheres ยังยืนยันด้วยว่าปัญหาเรื่องหนีภาษี และการฟอกเงินของ Bitcoin นั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย :
“ผมคิดว่าปัญหาการหนีภาษี และการฟอกเงินนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเครือข่ายคริปโต เนื่องจากข้อมูลในเครือข่าย Bitcoin นั้นโปร่งใส และก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากในการระบุตัวตนคนที่ใช้เว็บเทรดต่าง ๆ ”
เอกสารสรุปว่า “ Bitcoin นั้นไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย หรือเป็นตัวดึงดูดการกระทำที่ผิดกฎหมาย มันเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ในการหมุนเวียนเงินของอาชกรรมเท่านั้น”
นาย Quirion กล่าวว่า :
“Bitcoin ไม่ได้เป็นที่น่าดึงดูดสำหรับคนที่ไม่อยากจะทิ้งร่องรอยการทำธุรกรรมอะไรไว้เลย แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการโจรกรรมเกิดขึ้น ไม่มีตำรวจหรือหน่วยงานที่ไหนมาช่วยทั้งนั้น ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเอง”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น