ในปีนี้เราอาจจะเห็นวงการคริปโตมีเงินอัดฉีดเข้ามามากกว่าปกติ
อ้างอิงจากผลสำรวจของ Thomson Reuters จะมีสถาบันการเงินประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ที่จะกระโจนเข้ามาในวงการคริปโต โดยมีช่วงเวลาในการเข้าที่ต่างกันในแต่ละสถาบัน
บริษัทส่วนใหญ่งานแผนที่จะเทรด Cryptocurrency ในปีนี้ โดย 70 เปอร์เซ็นต์มีความตั้งใจที่จะเริ่มเทรดภายใน 3 ถึง 6 เดือนข้างหน้า และ 22 เปอร์เซ็นต์มีความตั้งใจที่จะเริ่มเทรดใน 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้า ข้อมูลดังกล่าวถูกเก็บมาจากลูกค้ากว่า 400 คนใน Trading Solutions Eikon, REDI, FX platforms ของ Thomson Reuters
ความบังเอิญ
นาย Sam Chadwick ผู้บริหารด้านกลยุทธ์และนวัตกรรมที่ Thomas Reuters และเป็นผู้ที่มีความรู้ด้าน Blockchain
ในปี 2015 เขากำลังศึกษาปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย Oxford ระหว่างที่เขากำลังหาหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับปริญญานิพนธ์ เขาได้บังเอิญไปเจอ White Paper ของ Ethereum ที่นาย Vitalik Butterin เป็นคนเขียน หลังจากที่อ่าน เขาเกิดความสนใจเป็นอย่างมากถึงอิทธิพลที่มันจะมีต่อบริการทางด้านการเงินต่างๆ เขาจึงอีเมลไปสอบถามนาย Vitalik แล้วบังเอิญพวกเขาก็อยู่ใน Switzerland เหมือนกันซึ่งห่างกันไม่กี่กิโลเท่านั้น พวกเขาจึงได้นัดเจอกันที่ร้านกาแฟ
“เราได้พูดคุยกันถึงปริญญานิพนธ์ว่า Thomas Reuters จะถูกผลกระทบอะไรบ้างจาก Smart Contracts และ Blockchain นาย Butterin บอกผมว่ามันจะมีผลกระทบต่อฐานลูกค้าของผม ถ้าเกิดมันสำเร็จไปตามที่คิดไว้ แต่ว่าในส่วนของ Smart Contracts นั้นต้องพัฒนาในเรื่องของการเก็บข้อมูลแบบ Off-chain เช่น สภาพอากาศ, อุณหภูมิ, ดอกเบี้ย หรือมูลค่าราคาของทรัพย์สินต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นวิทยานิพนธ์ ของผม ”
การเทรดคริปโตที่เพิ่มขึ้น
ในเดือนมกราคมปี 2017 นาย Chadwick เคยทำโพลกับลูกค้าระดับสถาบันการเงินเกี่ยวกับ Bitcoin และ Cryptocurrencies ตัวอื่น ๆ สิ่งเขาได้รับกลับมาในเวลานั้นคือ “สายตาที่ว่างเปล่า” แต่ในช่วงสิ้นปี 2017 ซึ่งเกิดกระแส Bitcoin นั้นทุก ๆ อย่างกลับตัลปัตรไปหมด ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มเดสก์ทอปของ Thomas Reuters นาม Eikon ที่มีไว้เพื่อโชว์ข้อมูล และบอกราคานั้นของ Bitcoin
“ในต้นปีนั้นไม่มีใครสนใจมันเลย แต่ว่าช่วงไตรมาสที่ 4 ที่ราคาของ Bitcoin ทะยานขึ้นไปนั้น แพลตฟอร์ม Eikon มีลูกค้าเข้าไปเยอะที่สุดเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากยูโร”
การตื่นขึ้นของ Altcoins ?
นาย Chadwick ได้ถามลูกค้าของเขาว่านอกจากคริปโตที่มีมูลค่ารวม 10 อันดับแรกแล้ว พวกเขายังสนใจตัวไหนอีก
“หนึ่งในคำถามของผลสำรวจเราคือ ‘ถ้าเกิดเราสามารถเพิ่มการดูราคาและเทรดของคริปโตตัวอื่นได้ พวกคุณสนใจคริปโตตัวไหนกัน ?’ แน่นอนว่ามีชื่อคริปโตที่เป็นตัวใหญ่ถูกกล่าวขึ้นมา แต่ที่น่าสนใจคือในบรรดาคำตอบนั้นมีไม่น้อยเลยที่ให้ความสนใจแก่ Altcoins ซึ่งนั่นทำให้ผมคิดว่าลูกค้าของผมอาจจะไม่ได้อยากมีกองทุนแค่สำหรับ Bitcoin 100 เปอร์เซ็นต์ หรือ Bitcoin 50 เปอร์เซ็นต์ Ethereum 50 เปอร์เซ็นต์ แต่อาจจะเป็นกองทุนที่มี คริปโต 10 ถึง 20 ตัวเลยก้ได้ ซึ่งนั่นจะกระจายความเสี่ยงสำหรับกองทุนไปอีกมาก”
แต่ดูเหมือนว่าลกค้าของเขาจะไม่ค่อยสนใจในเหรียญที่เน้นความเป็นส่วนตัวเช่น Monero หรือ Zcash ซึ่งอาจจะไม่ผ่าน KYC แต่ลุกค้าของเขาก็ได้เรียกร้องถึง ICO ด้วยเช่นกัน
โดยภาพรวมนับว่าน่าสนใจมากที่สถาบันการเงินเจ้าใหญ่ ๆ นั้นมีแนวโน้มที่จะเข้ามาในตลาดคริปโตแล้ว ซึ่งเหมาะเจาะกับขาขึ้นพอดี อย่างไรก็ตามนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคตตลาดคริปโตจะขยายไปใหญ่กว่านี้หลายร้อย หลายพันเท่าเลยทีเดียว
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น