บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวที่ถูกเขียนขึ้นโดยนักเขียนกิตติมศักดิ์คุณ “ต้น” สกลกรย์ สระกวี อดีต CEO ของบริษัทด้านเกม Gareana และผู้ก่อตั้งกลุ่มชุมชนด้านคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในไทย Bitcoin Thai Club โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ตั้งแต่เป็น Bitcoin Trader ตอนปลายปี 2013 รู้จัก Blockchain มาก็นานมากแล้ว แต่ไม่เคยอินกับ Blockchain เลย เพราะเราเป็นแค่ผู้ใช้ รู้แค่ว่าเออ มันเอามาเทรดกันได้นะ มันเอามาขุดกันได้นะ ซื้อถูกขายแพงนะ
สิ่งที่หลายๆ คนเคยบอกว่า เออ Blockchain มันจะมาเปลี่ยนโลก ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่า ไม่เห็นจะเปลี่ยนโลกตรงไหน ส่งก็ช้า กว่าจะ confirmed มันก็แค่ปลอดภัยกว่าปกติล่ะมั้ง แต่พอเมื่อปีที่แล้วมันเริ่มอิน…
เมื่อผมได้มารู้จัก Ethereum เริ่มมารู้จัก Smart contact เริ่มมี บริษัท Startup ออกมาทำ Token ทำ Dapp ทำ Plattform ทำ Service เออ นี่มันกำลังจะมาเปลี่ยนแปลงโลกจริงๆ
เรื่องที่ง่ายๆ ใกล้ตัวก็คือการออมเงินและการลงทุน เมื่อก่อนเราก็เออ ฝากเงินนะ ฝากเงินธนาคารได้ดอกเบี้ย อยากเสี่ยงหน่อยก็ไปลงกองทุน ไปซื้อหุ้นที่เราคิดว่าจะมีอนาคต
แต่เมื่อไปดูดอกเบี้ยธนาคารก็แบบ.. เมื่อไปดูกองทุนก็พอโอเคนะ ทำประกันไปในตัว แต่พอเราอยากจะลงทุนซื้อหุ้น … ไอ้เราก็เป็นพวกบ้าเทคโนโลยี ก็ลองมาดูหุ้นไทยที่เน้นเทคโนโลยีเจ๋งๆ…. เอิ่มมันมีด้วยเหรอ ? เห้ยอยากซื้อ TESLA , อยากซื้อ APPLE อยากซื้อ Facebook แต่ก็อยู่ต่างประเทศ ลำบากจัง
สุดท้าย การลงทุนใน Crypto ก็คือคำตอบใหม่ให้กับผม
นอกเหนือจากการลงทุนซื้อเหรียญเพื่อหวัง Capital gain อนาคต BlockchainTechnology จะปฏิวัติการฝากเงินออม ผลตอบแทนดอกเบี้ย การลงทุนต่างๆ อยากซื้อก็แค่ “hodl” เหรียญตัวนั้นๆ ไว้ที่ address ตัวเอง รอดอกเบี้ย รอ Airdrop หรือแม้แต่การ Lending
ที่เจ๋งคือ ในอนาคตคนทั้งประเทศจะต้องมี mobile wallet กันหมดอยู่แล้ว อยากซื้อของอะไรก็ไม่ต้องใช้เงินสด เพราะมีเงินกลาง (เงินบาท digital โปรเจคอินทนนท์) และมีระบบ decentralize build-in อาจจะใช้ เทคโนโลยี kyber network+wanchain แลกข้าม blocochain หรือ smart contact ได้ตลอด 24hrs
ทรัพย์สินทุกอย่างเก็บในรูปแบบ Digital ความเป็นเจ้าของก็อยู่ในรูปแบบ Digital บ้าน ที่ดิน อยากซื้อขายโฉนดที่ดิน บ้าน ก็เห็นราคา ณ. ปัจจุบัน นั้นๆ เลย
มีธุรกิจอยากกู้เงิน ก็เอาทรัพย์สินไปค้ำประกันในรูปแบบ Digital จ่ายดอกเบี้ยผ่าน smartcontact,blockchain หรือระดมทุน ico โดยเอาทรัพย์สินไปค้ำประกันไว้ ถึงเวลาเบี้ยวหนี้ ก็ยึดทรัพย์ ผู้ให้กู้ก็แบ่งทรัพย์สินกันไปตามสิทธิหรือเหรียญที่ตัวเองถือบน blockchain
หรือระบบการเช่าซื้อ ต่อไปสิทธิการถือครองจะไม่ได้อยู่บนกระดาษแต่อยู่ในเหรียญ มีบริการพิเศษ ข้อมูลส่วนตัวพาสเวิร์ด key กุญแจก็จะอยู่ใน token ที่เราถือ ต่อไปไม่ต้องมีแล้วบัตรสมาชิกเพราะมือถือคุณจะเก็บสิทธิ เป็น token ของแต่ละที่ อยากขายสิทธิก็แค่ขาย token
นี่แค่ตัวอย่าง..
อนาคตนี้มาแน่นอน ปัญหาคือสิ่งที่กำลังจะเกิดต่อจากนี้ จะให้คนต่างประเทศทำกันอีกแล้วหรือ เปิดมือถือมามี App อะไรที่เป็นของคนไทยมั้ง ? Dapp ก็กำลังจะมา ถ้ากฏหมายออกมาไม่เอื้ออำนวยต่อบริษัทคนไทยด้วยกัน แล้วประเทศไทยอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป… เราเป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยีกันชั่วลูกชั่วหลาน ?
เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการพัฒนาประเทศจะสู้เพื่อนบ้านได้ในตอนนี้ ผมเห็นทางออกเดียวคือ ผู้นำต้องเป็นคนรุ่นใหม่ คนทำงานต้องเป็นคนรุ่นใหม่ เราควรต้องข้ามรุ่นได้แล้ว อย่าปล่อยให้คนแก่ที่แม้แต่คอมพิวเตอร์ หรือมือถือยังใช้ไม่ค่อยเป็นมาเป็นรัฐมนตรี
นี่ก็คิดสนุกๆ เล่นๆ ลองเอากระทรวงดิจิทัล กระทรวงศึกษา กระทรวงวิทย์ “มาให้คนรุ่นพวกผมทำสิ เดี๋ยวจะเปลี่ยนประเทศให้ดู”
เลิกเถอะการให้เก้าอี้ต่างตอบแทน!!
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น