ดูเหมือนว่าปัจจุบัน หากพูดเกี่ยวกับการลงทุนเราจะได้ยินคำว่าคริปโต หรือ Blockchain อยู่เสมอ เนื่องจากปีที่ผ่านมา ราคาของเหรียญคริปโตอันดับหนึ่งอย่าง Bitcoin พุ่งขึ้นแตะ 20,000 ดอลลาร์ ทำให้มันเริ่มมีความแพร่หลายมากขึ้นไปทั่วโลก และปัจจุบันการลงทุนในคริปโตนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสร้างผลตอบแทนในการลงทุน แต่ด้วยความใหม่ของมันนั้น การเรียนรู้ถึงเทคนิคเพื่อให้เราปลอดภัยจากความเสี่ยงในการลงทุนดังกล่าวจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ดร ศุภชัย สุขะนินทร์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Five Whale และหนึ่งในผู้บริหาร Ultra Wealth เผยความตั้งใจในการจัดคอร์สอบรมด้านบล็อกเชนนามว่า Blockchain Business for Executive Program ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมหลักสูตรสามารถสนทนาและทำ Workshop ร่วมกับวิทยากรชั้นนำและผู้ลงทุนรายใหญ่ตัวจริงในวงการคริปโตจากทั้งในและนอกประเทศ
คุณ ศุภชัย กล่าวว่า “ผู้ที่เข้าร่วมงานนั้น จะได้รับมุมมองและประสบการณ์จากผู้รู้ตัวจริง และยังเน้นการสร้าง Connection เครือข่ายของกลุ่มผู้ลงทุนในคริปโตและ Blockchain เป็นหลัก”
ดร ศุภชัย กล่าวถึงประสบการณ์ในการจัดคอร์ส Ultra Wealth ว่า “ความสำเร็จของหลักสูตร Ultra Wealth ที่ผมทำ คือ การรวบรวมเอาเหล่านักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศมารวมตัวกันและเชื่อมให้กลุ่ม Ultra Wealth มี Connection เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน รักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง ด้วยความสำเร็จจากประสบการณ์นี้ ทำให้ผมชอบ Concept แบบนี้และเชื่อมั่นว่าด้วยแนวคิดแบบนี้ถึงจะทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง”
และยังกล่าวต่ออีกว่า
“ค่าเรียนของหลักสูตรจริงๆ แล้วไม่แพงเนื่องจาก นอกเหนือจากโอกาสใหม่ ๆ ของการลงทุน เรายังเชิญกูรูซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่จากต่างประเทศหลายคนให้มาร่วมบรรยายให้พวกเราฟังแล้ว เรายังต้องการสร้างเครือข่ายของคนที่เป็นนักลงทุนชั้นนำเพื่อให้เขาเหล่านั้นมาสร้าง Connection กัน”
“นอกจากนี้ หลักสูตรยังเหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการระดมทุนในธุรกิจในรูปแบบใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกในการหา Funding มาสนับสนุน Business Model ใหม่ๆ ให้บริษัทของท่านทันสมัยและดูน่าสนใจ ด้วยต้นทุนทางการเงินที่ต่ำมากๆ เทียบได้กับ Crown Funding ซึ่งหลักสูตรนี้จะเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างผู้ระดมทุนและผู้ลงทุนให้ได้มีโอกาสมาพบกันตัวเป็นๆ นอกโลกการลงทุนเสมือน (Virtual Investment Market)”
แต่เดิมนั้น ดร ศุภชัย มีความสนใจในเรื่องเทคโนโลยี และ IT เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่อยู่ในยุคดอทคอมรุ่นแรก ๆ และเป็นผู้สร้าง Siamweb ซึ่งแต่เดิมรู้จัก Bitcoin มานานแล้ว แต่ไม่ได้สนใจมากเพราะเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวของคนไทย และเมื่อปลายปีที่แล้วเขาเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง แล้วพบว่า
“Crypto & Bitcoin ขยับเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้น การมี Blockchain ทำให้เกิด Trust ในระบบ หากเราอยู่กับที่ไม่ทำอะไร เราเองจะถูก Disrupt และยืนอยู่แบบเดิมต่อไปอีกไม่ได้ เพราะจะโดนการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เบียดเราออกไปจากจุดที่ยืนอยู่ในที่สุด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจอย่างเลือกไม่ได้”
นอกจากนี้เขายังให้สัมภาษณ์กับทาง Siam Blockchain ว่า ในระหว่างที่เขาศึกษาเกี่ยวกับคริปโตและ Blockchain นั้น เขาได้เดินทางไปร่วมงานสัมมนาใหญ่ ๆ ในต่างประเทศหลายงานและพบเจอ พูดคุยกับผู้ลงทุนและเจ้าของโปรเจคต์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น CEO ของ Upbit, CEO ของ Ripple, ผู้สร้าง Ethereum หรือ เจ้าของโปรเจค ICO Switcheo ที่พึ่งระดมทุนเสร็จไป โดย ดร ศุภชัย มีความคิดเห็นต่อ Blockchain ในเมืองไทยว่า ในอนาคตนั้นจะมีธุรกิจหลาย ๆ อย่างต้องปรับตัวตามกระแสเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทที่อยู่เบื้องหลังเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่แนวหน้าอย่าง Bitcoin
“ในทุกสัมมนาในช่วงปีที่ผ่านมาผมตามไปฟังบรรยายมาหมด เลยได้เรียนรู้และได้ไอเดียอะไรหลายอย่าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ครั้งนี้ผมจึงขออาสาเป็นตัวแทนถามตอบผู้รู้ให้พวกเราได้ฟังและทำความเข้าใจเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิด”
เขามีความเชื่อว่า ปัจจุบันเรื่องดังกล่าวในเมืองไทยนั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะเราขาดคนที่เป็นผู้รู้และเข้าใจในการลงทุนด้านนี้เป็นอย่างดี “ประเทศเราหลายๆ คนมัวแต่กลัวว่าจะเกิดการขาดทุนจากการลงทุน ทั้งๆ ที่ในต่างประเทศเรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวแล้วมากๆ เช่น ในประเทศเกาหลีใต้ที่รัฐบาลได้สนับสนุนคริปโตในประเทศของตัวเองนาม ICX , ประเทศญี่ปุ่นร้านค้าต่างๆ เช่น บิ๊กคาเมร่ารับ Bitcoin ในการจ่ายชำระเงิน, ประเทศสวิสใช้จ่ายค่าเดินทางรถไฟ และในแคนนาดาใช้ซื้อไก่ทอด มารับประทาน ล่าสุด มีการวางเครื่อง ATM Bitcoin ที่เชียงใหม่แล้ว การที่เรามองว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว ทำให้เราไม่สนใจ ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจทำให้เราเสียโอกาสและยังเสียเปรียบต่างประเทศ “ผมเชื่อว่า Blockchain จะสร้างปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนแปลงโลกของเรา ได้เช่นเดียวกันกับอินเตอร์เน็ตเช่นเดียวกันกับในอดีต” กล่าวโดย ดร ศุภชัย
นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า ปัจจุบันคริปโตและ Blockchain นั้นจะถูกเข้าใจผิดอยู่มาก
“ศักยภาพของ Blockchain ทำได้หลายอย่าง อย่าคิดว่าเมื่อพูดถึงมันก็จะต้องเกี่ยวกับการเทรดอย่างเดียว ถึงแม้ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายออกมายอมรับอย่างเป็นทางการ แต่จริง ๆ แล้วมันมีอะไรมากกว่านั้น มันมีศักยภาพเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงธุรกิจปกติของโลกได้”
ลองลงทุน ICO ครั้งแรก
หลังจากเพื่อน ๆ ของเขาชักชวนว่า “ใคร ๆ เขาก็ลองเทรดกัน” จากประสบการณ์ที่เจอด้วยตัวเองบ้าง เพื่อนเจอบ้าง เขาได้พบเจอปัญหาหลายอย่างที่คิดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นการโดนหลอก หรือ ปัญหาด้านเทคนิคต่าง ๆ ที่เขาอยากมาแชร์ให้ทุกคนได้ฟังเพื่อปิดความเสี่ยงให้มากที่สุด
“คุณจะทำอย่างไรครับ ถ้าลงทุนไปแล้ว ICO พุ่งไป 20 เท่า แล้วไม่รู้ขายทำกำไรได้อย่างไร กว่าจะรู้คำตอบด้วยการหาข้อมูลเอง เสียเวลาไป 4 วัน ราคาหล่นไปติดลบ 50 เปอร์เซ็นต์” เขากล่าว
และในฐานะที่เขาได้คลุกคลีอยู่กับนักลงทุนและนักธุรกิจชั้นนำในประเทศอยู่เป็นประจำ พบว่ากลุ่มมหาเศรษฐีเหล่านี้มีความสนใจ แต่พวกเขาไม่รู้จะเริ่มอย่างไรและไม่กล้าจะถาม เขาเลยถือโอกาสเปิดคอร์สนี้ขึ้นมา
“หลักสูตรนี้จัดขึ้นเพื่อให้คนที่อยากศึกษาในเรื่องนี้จริง ๆ ได้รับรู้ถึงความเสี่ยง, เทคนิคการลงทุน, ข้อดีและข้อเสียของมัน เราจะเน้นแนะนำเทคนิคการลงทุนในตลาดคริปโตนี้ กลโกงที่เจอจะมาในรูปแบบไหน จนกระทั่งถึงวิธีการเลือกดูโปรเจคต์ ICO แบบเจาะลึก ว่าตัวไหนน่าลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีได้”
“เราจะเอา Case Study จริง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้ถามตอบแบบตรง ๆ เช่น JFin, Digit coin และเหรียญอื่น ๆ รวมถึงนักลงทุน ICO ชั้นนำระดับโลกมาเข้าร่วมเป็นวิทยากรในงานนี้ด้วย
“วิทยากรที่มานี้ปกติจะไม่อยากเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะมากนักเนื่องจากปัญหาที่ตามมา แต่งานของเราเป็นกลุ่มเล็ก จึงสามารถสอบถามข้อมูลแบบ Exclusive ได้ และพวกเขาก็ได้ Connection กับ Whales (นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดคริปโตที่มีเงินลงทุนสูง) ในประเทศไทย เผื่อจะร่วมกันทำ Private Sale ICO ในอนาคต หรืออาจจะหาคนมาลงทุนในโปรเจค ICO ที่พวกเขามีแผนจะออกมาขายในอนาคต วิน-วิน ได้ทั้งคู่”
Ultra Wealth สู่ Five Whale
โดยอ้างอิงจาก ดร ศุภชัย นั้น ภายในงานจะมีการปูพื้นฐานตั้งแต่อธิบายว่า Blockchain คืออะไร, วิธีการสมัครเว็บเทรด, วิธีการใช้ Wallet Ethereum และ NEO ไปจนกระทั่งการระดมทุนผ่าน ICO ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งผู้เข้าเรียนยังสามารถเอาคอมพิวเตอร์ไปเรียนรู้พร้อมกันได้อย่างเต็มที่
หลังจากงานในวันสุดท้าย จะมีปาร์ตี้แบบสำหรับผู้ที่เข้าร่วมงานที่เปิดโอกาสให้ทุก ๆ คนสามารถสร้าง Connection พุดคุย สังสรรค์ได้อย่างเต็มที่
“เหมือน Silicon Valley ที่จะมีโรงแรม ๆ นึงที่ทุก ๆ วันพุธ หรือพฤหัสจะมีปาร์ตี้ที่ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าไปสร้าง Connection ได้”
“ผมคาดหวังไว้ประมาณ 30 คน ในรอบนี้ เพราะเยอะกว่านี้อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง เพราะผมเน้น Target ตามชื่อหลักสูตรว่าเป็นผู้บริหารและเจ้าของกิจการ ซึ่งสำหรับคนที่ยังไม่มีพื้นฐานนั้น ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และดูต่อไปว่าหากดูแลไหว รอบหน้าอาจเปิดรับเพิ่มในจำนวนที่มากกว่านี้”
และทิ้งท้าย ดร ศุภชัย ฝากถึงวงการคริปโตและ Blockchain ในไทยว่า :
“คริปโตและ Blockchain ยังเป็นอะไรใหม่ มีเหรียญใหม่ในโลกเกิดขึ้นเยอะแยะตลอดเวลา อยากให้ทุก ๆ คนศึกษาถึงข้อเสียมัน ไม่ใช่เพียงแต่ข้อดีอย่างเดียว และต้องแยกให้ออกระหว่างคริปโต และ MLM หรือการ Scamในรูปแบบต่าง ๆ ผมอยากให้คนมองเหรียญทั้งสองด้าน”
งาน Blockchain Business for Executives จะจัดขึ้นที่ FYI Center อาคาร 2 ชั้น 3-4 ในวันที่ 14, 15, 20 และ 21 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ โดยมีค่าเข้าร่วมกิจกรรมอยู่ที่ 89,000 บาท โดยผู้ที่สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.Fivewhale.com หรือ www.facebook.com/fivewhale
ที่มาภาพ Fav Forward, Marketoops
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น