<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การ Hard Fork ของ Bitcoin Cash เป็นการทิ้งผู้ใช้งานบางส่วนไว้เบื้องหลัง แต่สำคัญอย่างไร?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Bitcoin Cash เพิ่งทำการ Hard Fork ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน การ Hard Fork นั้นเกิดใน Block ที่ 530350 โดยขณะที่เขียนบทความนี้มีเพียง 16 ถึง 17 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่กำลังรันซอฟต์แวร์ตัวเก่าเนื่องจากการ Hard Fork และ Nodes เหล่านี้จะทำงานแยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์

นักวิจารณ์ของ Bitcoin Cash โต้แย้งว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีที่ Node จำนวนมากยังไม่ได้อัปเกรดเนื่องจากผู้ใช้เหล่านี้จะถูกตัดออกจากเครือข่ายตัวเดิมไปหมดแล้ว

โดยนาย Kalle Alm กลุ่มนักพัฒนา Bitcoin Core กล่าวใน Social Media ว่า:

“คุณสามารถบอกว่า Bitcoin Cash ไม่ใช่ Bitcoin ที่แท้จริง สังเกตุได้จากการที่ทุกคนก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เท่าไรนัก” โดยเขากล่าวว่า:

“ลองจินตนาการสิ ถ้า 20 เปอร์เซนต์ของ Node Bitcoin ล้มเหลวล่ะ? ทุกคนอาจจะบ้าไปแล้วก็ได้” เขากล่าว

นาย Pacia หัวหน้าทีมพัฒนาที่ OpenBazaar กล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้หลายคนยังไม่อัปเกรดก็เพราะพวกเขาพอใจกับประสิทธิภาพนี้แล้ว”

การ Fork ยอดนิยม

ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานบางส่วนยังไม่ถูกอัปเกรดบนระบบของพวกเขา แต่ว่านักขุด (Miner) ทั้งหมดในเครือข่ายได้รับการอัปเกรดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ Social Media ในหมู่ผู้สนับสนุน Bitcoin Cash ก็ให้ความเห็นแง่บวกกับการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน

นาย Matthew Newton นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์ม eToro กล่าวว่า “การอัปเดตเครือข่ายได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากชุมชน Bitcoin Cash เพื่อแข่งขันกับ Lightning Network ของเครือข่าย Bitcoin”

การแข่งขันอย่างบ้าคลั่ง?

การ Hard Fork ก็ยังคงได้รับการตอบรับจากชุมชนคริปโตอย่างกว้างขวาง

แต่เดิมแล้วการ Hard Fork ของ Bitcoin Cash ก็เกิดจากการโต้แย้งระหว่างทีมพัฒนา Bitcoin นั่นเอง

นาย Alm คิดว่า “มันเป็นสิ่งที่บ้ามาก” ที่นักพัฒนา Bitcoin Cash นั้นไม่สนใจเกี่ยวกับสถิติของ Node ซึ่งสำหรับเครือข่าย Bitcoin นั้น Node ในระบบคือทุกสิ่งพวกเขาคือผู้ใช้งานในระบบ

นอกเหนือจากนั้น นักวิจารณ์หลายคนยังยังให้เหตุผลในการ Hard Fork ในครั้งนี้ว่าไม่ได้ทำให้ระบบโดยรวมมันดีขึ้นสักเท่าไร

อย่างไรก็ตามผู้สนับสนุน Bitcoin Cash ก็ยังคอยที่จะพัฒนา Cryptocurrency ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณในการแข่งขันในวงการคริปโตที่ดี

นาย Newton กล่าวว่า:

“นี่เป็นการแข่งขันระหว่างชุมชน Bitcoin Cash และ Bitcoin ทั้งสองชุมชนต่างก็หลงไหลในเหรียญของตนเองและมั่นใจว่าตัวเองจะเป็นผู้ชนะ”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น