หากพูดถึงวงการคริปโตแล้ว ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยที่จะพูดถึงการขุดคริปโตเนื่องจาก มันคือหนึ่งในกลไกหลักที่ทำให้เครือข่ายของคริปโตนั้น ๆ ยังสามารถทำงานอยู่ได้ ซึ่งนอกเหนือจากการเป็นกระดูกสันหลังหลักให้กับเครือข่ายคริปโตแล้ว การขุดคริปโตยังจัดว่าเป็นการลงทุนชนิดหนึ่งอีกด้วย เนื่องจากนักขุดจะได้รับรางวัลตอบแทนหากสามารถช่วยยืนยันธุรกรรมในระบบได้
โดยวิธีการขุดนั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการขุดด้วยเครื่อง ASIC หรือการ์ดจอ อ้างอิงจากโพลสำรวจของสยาม บล็อกเชน นักขุดคริปโตส่วนใหญ่ใช้การ์ดจอในการขุด สำหรับคนภายนอกวงการที่เขามองกันอย่างผิวเผินแล้วมันอาจจะดูง่ายดายจนเกิดจริงสำหรับการลงทุนนี้ เนื่องจากแค่นำอุปกรณ์ขุดมาเสียบปลั๊กก็สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้แล้ว แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าจริง ๆ แล้วการขุดคริปโตนั้นมีอุปสรรคและความยากลำบากอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูแล, ซ่อมแซม, การจัดการความร้อน และค่าไฟฟ้า
สำหรับนักขุดบางคนที่พื้นที่ของตนไม่เอื้ออำนวย พวกเขาก็อาจจะนำไปอุปกรณ์ขุดไปฝากไว้ตามสถานที่ที่รับวาง หรือบางคนอาจจะลงทุนใน Cloud Mining แทน
หากใครไม่ทราบ Cloud Mining คือการที่เราทำสัญญาเช่าเครื่องขุดของคนอื่น โดยที่ไม่จำเป็นต้องลำบากหาอุปกรณ์และดูแลเอง ซึ่งสามารถทำได้ออนไลน์จากนั้นก็รอรับผลตอบแทนที่ขุดได้มาก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก แต่ทว่ากลับมีข้อเสียมากมายเช่นกัน เนื่องจากสามารถโดนโกงเอาเงินเชิดหนีไปได้ง่าย ๆ ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่ตามมาเช่นกัน
SbuyMining ได้เล็งเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงมองเห็นโอกาสว่าพวกเขาสามารถเข้ามาแก้ปัญหา เรื่องความไม่โปร่งใสในวงการ Cloud Mining ได้
SbuyMining คืออะไร
SbuyMining คือบริการ Cloud Mining ที่เคลมว่า ไม่ซับซ้อน และมีความโปร่งใส เนื่องจากปกติแล้ว เว็บที่เราลงทุน Cloud Mining ส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า พวกเขานำเงินของเราไปลงทุนในการขุดจริง ๆ หรือไม่ และหากปิดหนีไปก็ไม่สามารถดำเนินทางกฎหมายได้ แต่ SbuyMining นั้นนำเงินของนักลงทุนไปซื้อการ์ดจอมาขุดจริง ๆ โดยพวกเขามีเหมืองที่มีสถานที่ชัดเจน ณ จังหวัด ชลบุรี ให้ทุก ๆ คนสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถแก้ปัญหาเรื่องความโปร่งใส และลดความเสี่ยงในการลงทุนได้
การจัดการและความปลอดภัย
แน่นอนว่าสถานที่ดังกล่าวนั้นต้องได้รับการสอดส่อง ดูแลเพื่อสร้างความปลอดภัยเป็นอย่างดี อ้างอิงจากคุณโดม เจริญยศ ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของ SbuyMining กล่าวว่า เหมืองมียามรักษาความปลอดภัย และ กล้องวงจรปิด ที่คอยสอดส่องดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งระบบจัดการความร้อนด้วยพัดลมทำให้เรื่องความร้อนสำหรับเหมืองขนาดใหญ่นั้นไม่ใช่ปัญหา
นอกจากนี้พวกเขายังเคลมว่า ได้ไปขอไฟปกติจาก กฟภ. แบบ TOU ทำให้เสียค่าไฟอยู่แค่เฉลี่ยเพียงหน่วยละ 3.7 บาท เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าค่าไฟปกติตามบ้าน และในปัจจุบันยังสามารถรองรับได้ถึง 2,000 ริก
อ้างอิงจากในเว็บไซต์ พวกเขายังระบุด้วยว่า จะใช้ การ์ดจอ Nvidia P104-100 ในการขุด ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะขุดแต่ Ethereum เป็นหลัก เนื่องจากพวกเขาวิเคราะห์ว่า มันจะมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
“มูลค่าเหรียญ Ethereum นั้นมีอนาคตที่ดี ได้รับการวิเคราะห์แล้วว่ามีศักยภาพขึ้นไปแตะ 3,000 ดอลลาร์ ต่อ 1 ETH ได้แน่นอนในอนาคต ดังนั้น หากมูลค่าแตะที่ 3,000 ดอลลาร์ จริง เมื่อครบสิ้นปี ท่านจะได้รับปันผลรวมมูลค่ากว่า 9,500 บาท หรือคิดเป็น 211% จากเงินลงทุน 1 Unit เรียกได้ว่า นอกจากจะคืนทุนทันทีในปีแรกแล้วยังได้ผลกำไรกว่า 111% อีกทั้งปีถัดไปก็ยังคงจ่ายปันผลคืนท่านทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง ลงทุนครั้งเดียว ขุดแบ่งให้จนกว่าจะขุดไม่ไหว”
สัญญา
หากเทียบกับ Cloud Mining เจ้าอื่น ๆ เช่น Hashflare จะพบว่า สัญญาส่วนใหญ่นั้นมีอายุเพียงแค่ 1 หรือ 2 ปีเท่านั้น พอหมดระยะเวลาเครื่องขุดที่เราลงทุนไปตอนแรกก็จะกลายเป็นของพวกเขาทันที แต่ที่ SbuyMining จะขุดให้เรื่อย ๆ จนกว่าการ์ดจอจะพัง ซึ่งอายุเฉลี่ยของการ์ดจอหากได้รับการดูแลอย่างดีนั้นจะอยู่ที่ 3 ปี ขึ้นไป แต่สำหรับสัญญาของเจ้าอื่น ๆ เช่น Hashflare จะหยุดขุดและยกเลิกสัญญา หากขุดไม่คุ้มค่าไฟตามระยะเวลาที่กำหนด
และในสัญญาการเช่ากำลังขุดของเจ้าอื่น ๆ นั้นมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยเต็มไปหมด ซึ่งทำให้นักลงทุนสับสนและคำนวณการลงทุนของพวกเขาได้ยาก แต่ที่ SbuyMining นั้นจะไม่มีค่าใช้จ่ายยิบย่อย แอบแผงดังกล่าว พวกเขาจะแบ่งให้ 85 เปอร์เซ็นต์ของกำไรจากที่ขุดได้ในปีแรก และปีที่สองที่ 75 เปอร์เซ็นต์
โดยราคาสัญญาขั้นต่ำ 1 Unit นั้นจะอยู่ที่ 5,350 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ตอนนี้มีส่วนลด 10 เปอร์เซ็นต์เหลือ 4,815 บาทต่อ Unit
ขุดด้วย Linux และ Kubernetes
อ้าอิงจากเว็บไซต์ SbuyMining ทีมงานของพวกเขาเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และรู้ Know How ในการให้บริการ Cloud มาก่อน จึงนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ในการดูแลเหมืองให้มีประสิทธิการขุดได้ดียิ่งขึ้น โดยพวกเขาออกแบบระบบขุดด้วย Linux และจัดการริกขุดคริปโตด้วย Kubernetes
คุณโดม เจริญยศ อธิบายเพิ่มเติมว่า:
“ระบบนี้พัฒนาโดยบริษัท DomeCloud และจากการรันมา 4 เดือนพบว่า ระบบแทบจะไม่ต้อง Maintain เลย”
ทีมงาน
แน่นอนว่าก่อนที่จะทำการลงทุนกับใครนั้น ก็ควรจะรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดีซะก่อน โดยทีมงานของ SbuyMining ประกอบไปด้วย 6 คนหลัก ๆ นำโดย:
- คุณฐิติกร โลหะคุปติ ผู้ร่วมก่อตั้ง SbuyMining และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท SbuyCard ซึ่งเขาเป็นผู้ให้บริการ VOIP ระหว่างประเทศ
- คุณศุภกฦษ์ วินา ผู้ร่วมก่อตั้ง SbuyMining ผู้ก่อตั้บริษัทติดเน็ต ซึ่งให้บริการในด้าน IT และ Fibre Optic มาแล้วกว่า 5 ปี โดยเคยทำงานให้กับบริษัทชั้นนำอย่าง TOT,TRUE และ AIS
- คุณโดม เจริญยศ ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของ SbuyMining เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท DomeCloud มีความรู้ ความสามารถและ Know How เกี่ยวกับการดูแลจัดการเซิฟเวอร์ ซึ่งให้บริการมาแล้วกว่า 3 ปี
- คุณคณิต ศาตะมาน ที่ปรึกษาด้าน Financial Technology ของ SbuyMining
- คุณณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร ที่ปรึกษาของ SbuyMining ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
- คุณนเรศ เก็จรัมย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโครงสร้างพื้นฐานของ SbuyMining
สรุป
โดยภาพรวมหาก SbuyMining สามารถให้บริการได้ตามที่พวกเขาเคลมไว้จริง ๆ ก็อาจจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องความโปร่งใส ที่เป็นหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับวงการ Cloud Mining ได้ เนื่องจากนักลงทุนสามารถไปตรวจสอบได้ มีที่อยู่ สถานที่ดำเนินการที่ชัดเจน และอาจจะคุ้มกว่าลงทุนเอง ด้วยค่าไฟที่ถูกและการดูแลอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมกว่าดูแลเองที่บ้าน ซึ่งจะยืดอายุอุปกรณ์ได้นานกว่า นอกจากนี้สัญญาที่ทำกับที่นี่ยังมีระยะเวลาที่นานกว่า Cloud Mining เจ้าอื่น ๆ อีกด้วย นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับวงการ Cloud Mining เลยก็ว่าได้
SbuyMining จะเปิดให้ชมเหมืองในวันที่ 1 กค. ที่จะถึงนี้ และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์หลักของ SbuyMining
หมายเหตุ: การลงทุนในตัวเหรียญ Cryptocurrency มีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียในทุกกรณี บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น