<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บทความ: คุณสามารถหารายได้จากคริปโตแทนการทำงานประจำได้ไหม ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ด้วยกระแสคริปโตที่ร้อนแรงในประเทศไทยที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยในช่วงที่ Bitcoin ราคาขึ้นไปแตะเกือบ 20,000 ดอลลาร์ ได้มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาในวงการคริปโต โดยหวังว่ามันจะทำให้พวกเขารวยขึ้นได้

ความผันผวนอันรุนแรงของราคา Bitcoin ที่ภายใน 1 เดือนเท่านั้นราคาก็เพิ่มขึ้นไป 1 เท่า ทำให้หลาย ๆ คนที่เข้ามาคาดหวังกำไรในระยะสั้น และคิดว่ามันคือทางลัดสู่ความร่ำรวย หลาย ๆ อาจเริ่มพิจารณาการลาออกจากงานเพื่อมาขุดหรือออกมาเทรดคริปโตแบบเต็มเวลาแทน แต่ความจริงแล้วนั้นวงการคริปโตหอมหวานเหมือนที่คิดหรือไม่ ?

ในวงการคริปโตนั้น สามารถหารายได้หลัก ๆ ประมาณ 3 ทาง คือ

สายขุดคริปโต

หนึ่งในแนวทางการลงทุนที่นิยมที่สุดของวงการคริปโตคือการขุดคริปโต ไม่ว่าจะเป็นการขุดด้วยการ์ดจอ, ASIC หรือ Cloud Mining ซึ่งสกุลเงินหลัก ๆ ที่ขุดกันคือ Ethereum รองลงมาคือ Bitcoin

ดูเหมือนว่า สาเหตุที่คนนิยมขุดกันนั้นเนื่องจากมันเป็นรายได้ที่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก เพียงแค่ลงทุนซื้ออุปกรณ์มาติดตั้ง และคอยเฝ้าดูให้มันทำงานตลอด ก็สามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาได้ โดยไม่จำเป็นต้องตีกราฟวิเคราะห์ราคาเทียบเท่ากับการเทรด

สายเทรดคริปโต

การเทรดคริปโตนั้นอาจจะดูยากสำหรับมือใหม่ เนื่องจากมันจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจในกราฟ และตลาดคริปโตเป็นอย่างดีจึงสามารถสร้างรายได้กับมันได้มิเช่นนั้น หากไม่มีสิ่งดังกล่าวก็ไม่ต่างอะไรจากการพนันสักเท่าไรนัก

สิ่งที่น่าดึงดูดสำหรับแนวทางนี้ คือมันสามารถทำกำไรได้ในช่วงข้ามคืน เนื่องจากราคาที่ผันผวนของคริปโตที่สามารถเพิ่มขึ้นได้ 50 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์เพียงไม่กี่คืนเท่านั้น ซึ่งได้กำไรมากกว่าสายขุดที่ต้องใช้เวลานานกว่า แต่แน่นอนว่าก็สามารถขาดทุนได้เช่นกัน

สายลงทุน ICO

การลงทุน ICO จัดว่าเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในวงการคริปโต เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนในคริปโตเติบโตมาถึงทุกวันนี้ สำหรับคนที่ไม่ทราบการลงทุนใน ICO คือการที่เรานำเงินไปลงทุนกับโปรเจกต์ที่กำลังระดมทุนอยู่คล้าย ๆ การระดมทุนแบบ IPO และโปรเจกต์เหล่านั้นจะนำเงินของเราไปต่อยอดในการสร้างโปรเจกต์ ซึ่งจะให้ผลตอบแทนเรากลับมาเป็นโทเคนของพวกเขา ซึ่งนักลงทุนคาดว่าราคาของโทเคนนั้น ๆ จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น OmiseGo, ICON หรือ EOS ที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 ปีก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาเกือบ 100 เท่า

แต่การลงทุนในรูปแบบดังกล่าวต้องดูให้ดี เนื่องจากเรานำเงินไปฝากกับพวกเขาโดยที่เชื่อว่าพวกเขาจะนำเงินไปต่อยอดโปรเจกต์จริง ๆ แต่ถ้าเกิดโปรเจกต์ดังกล่าวหายพร้อมกับเงินเราเลย ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน

รายได้จากคริปโตแทนงานประจำ

การลงทุนในแต่ละแบบนั้นมีความเสี่ยง และผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป ก่อนอื่น หากจะพิจารณาว่า รายได้จากคริปโตสามารถแทนงานประจำได้มั้ย ต้องถามตัวเองก่อนว่า พอใจที่รายได้เท่าไร และการลงทุนที่เราลงทุนอยู่นั้นสร้างผลตอบแทน หรือรายได้ให้กับเราเท่าไร จากนั้นคำนวณว่าเพียงพอหรือไม่ สำหรับค่าใช้จ่ายต่อเดือนของเรา เช่นค่าดำเนินการของการลงทุนนั้น ๆ , ค่าอาหาร หรือค่าน้ำค่าไฟเป็นต้น

ยกตัวอย่างเช่น เราลงทุนที่จะขุด Bitcoin โดยใช้เครื่อง Antminer S9 14 TH ของ Bitmain ขุดได้กำไรวันละ 100 บาทหลังหักค่าไฟแล้ว โดยเครื่องขุดราคา 30,000 บาท คิดเป็นกำไรเดือนละประมาณ 3,000 บาท ซึ่งต้องใช้เครื่องขุดทั้งหมด 6 เครื่อง ถึงจะมีเงินเดือน 18,000 บาท โดยจำเป็นต้องลงทุน 180,000 บาท

และสำหรับสายเทรดและ ICO นั้นยิ่งคำนวณยากขึ้นไปอีกเนื่องจาก สภาพตลาดขาขึ้น ขาลงนั้นไม่แน่นอน ไม่ชัดว่าช่วงไหนจะทำกำไรได้มากหรือน้อย รวมทั้งไม่รู้ว่าโปรเจกต์ที่ลงทุนไปก็ไม่รู้ด้วยว่าจะใช้เวลาเท่าไรถึงจะสามารถนำโทเคนนั้นไปซื้อขายในเว็บเทรดได้ ทำให้ไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก

โดยความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน เป็นเรื่องจริงที่การลงทุนในคริปโตนั้นสร้างรายได้ให้กับเราได้ ตลาดคริปโตในปัจจุบันนั้นพึ่งถือกำเนิดได้ไม่นาน ทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างยังไม่ลงตัว เช่นกฎหมายข้อบังคับ, ภาษีต่าง ๆ การ หรือค่า Diff ที่อาจจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นต้น ทำให้การลาออกมาจากงานประจำและพึ่งรายได้จากคริปโตโดยเต็มตัวนั้นยังเสี่ยงเกินไป

ไม่มีใครทราบว่าในอนาคตรัฐบาลจะออกนโยบายเป็นแบบไหน อาจจะเพิ่มภาษีหรือ ห้ามนำเข้าอุปกรณ์ขุดคริปโตเหมือนเช่นที่ประเทศอื่น ๆ ทำก็เป็นได้ รวมทั้งยังไม่คำนึงถึงราคาต่าง ๆ ของคริปโตในตลาดที่อาจจะไม่ขยับเป็นเวลาหลายปีก็เป็นได้ ไม่เหมือนช่วงปลายปีที่ผ่านมาก็เป็นได้ ซึ่งการที่ราคาของคริปโตนิ่งเป็นปี ๆ นั้นเคยเกิดขึ้นมาในอดีตแล้วเช่นกัน

ผู้เขียนคิดว่าควรจะคิดว่าคริปโตเป็นการลงทุนแทน เป็นอีกนึ่งช่องทางของรายได้เท่านั้น แต่ก็ยังจำเป็นต้องทำงานประจำอยู่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้อ่านเองว่ามีลู่ทาง, ทุน และความรู้ขนาดไหนด้วยเช่นกัน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น