<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

วิจัยจาก eToro เผย “คริปโตอาจกลายเป็นตัวกลางหลักในการชำระเงินใน ทศวรรษหน้า”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อ้างอิงจากประกาศของ eToro ในวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา วิจัยใหม่เผย Cryptocurrency เช่น Bitcoin มีศักยภาพที่จะกลายเป็นตัวกลางในการชำระเงินที่คนส่วนใหญ่ใช้ และปัจจุบันมีคุณสมบัติ 1 ในสามของเกณฑ์ในการเป็นเงินแล้ว วิจัยดังกล่าวนั้นเป็นการร่วมมือกันของ Imperial College และ eToro แพลตฟอร์มการเทรดสัญชาติอังกฤษ

วิจัยดังกล่าวมีชื่อว่า “Cryptocurrencies : Overcoming Barriers to Trust and Adoption” ถุกจัดทำขึ้นโดยศาสตราจารย์นาม Wiliam Knottenbelt จากมหาวิทยาลัย Imperial College London และดร. Zeynep Gurguc จาก Imperial College Business School กล่าวว่า Cryptocurrency จะเป็น “อีกขั้น” สำหรับเงิน และกลารกลายเป็นตัวกลางการชำระเงินที่ความส่วนใหญ่ “ยอมรับภายในทศวรรษ”

อ้างอิงจากรายงาน Cryptocurrency ได้เติมเต็มหนึ่งในสามของหน้าที่การเป็นเงิน Fiat แล้ว โดยการเป็นสิ่งที่สามารถเก็บมูลค่าไว้ได้ อย่างไรก็ตามมันยังไม่สามารถเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน และหน่วยของบัญชีได้

ในรายงานระบุไว้ว่า Bitcoin และ Cryptocurrency สกุลอื่น ๆ จำเป็นต้องแก้ปัญหาในเรื่อง Scalability, การใช้งาน, กฎระเบียบ, ความผันผวน, แรงจูงใจ และความเป็นส่วนตัวซะก่อน

รายงานยังย้ำอีกด้วยว่า ระบบการเงินและทรัพย์สินใหม่นี้ “ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน” นาย Iqbal Gandham ผู้อำนวยการด้านบริหารของ eToro สาขาอังกฤษ ระบุว่า อีเมลฉบับแรกนั้นถูกส่งในปี 1971 แต่ใช้เวลาอีกกว่า 3 ทศวรรษ เพื่อที่จะ “กลายเป็นสถานที่ที่ผู้ใช้งานคุ้นเคย โดยที่มี UI ที่ใช้งานง่าย”

นาย Gandham ผู้เป็นประธานของบริษัท CryptoUK กล่าวว่า “ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 8 ปี” ที่การทำธุรกรรม Bitcoin ครั้งแรกเกิดขึ้น และ “ปัจจุบัน พวกเราเห็นแล้วว่ามันเริ่มทำหน้าทที่ของการเป็นเงิน” เขาย้ำว่า ความสามารถของ Cryptocurrency ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งเงินข้ามพรหมแดนอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ “Cryptocurrency เข้าถึงคนส่วนใหญ่ได้”

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ William Knottenbelt จาก Imperial College ยังกล่าวด้วยว่า Cryptocurrency มีศักยภาพที่จะ “เปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เราคิดว่าเรารู้เกี่ยวกับธรรมชาติของระบบการเงินและทรัพย์สินดิจิทัล” จากความเป็น Decentralized ของมัน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น