ผู้ผลิตกระเป๋าเก็บคริปโตแบบ Hardware นาม Ledger สามารถขายได้มากกว่า 1 ล้านชิ้นในปี 2017 คิดเป็นกว่ากำไร 29 ล้านดอลลาร์
จากการให้สัมภาษณ์กับทาง Forbes ประธานของ Ledger นาย Pascal Gauthier กล่าวว่าการขาดแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัยในการเก็บคริปโต ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อ Haedware Wallet มากขึ้นนั่นเอง
“ด้วยตัว Blockchain มีความปลอดภัย แต่การลงนามใน Blockchain ยังมีข้อบกพร่อง และถ้าคุณสูญเสีย Private Key ไป ก็ไม่มีทางที่คุณหรือแม้แต่ธนาคารที่ไหนจะกู้สินทรัพย์คืนกลับมาได้” นาย Gauthier กล่าวกับทาง Forbes
คาดร่วมลงทุนกับ Google และ Samsung
เมื่อต้นปี 2018 Ledger สามารถระดมทุนได้ไป 75 ล้านดอลลาร์ จากการระดมทุน Series B จากมหาเศรษฐี Tim Draper และ Draper Venture
“หลังจากที่สามารถทำกำไรได้อย่างน่าประทับใจในปีที่แล้วทาง Ledger คาดว่าจะเริ่มระดมทุนอีกครั้งในปีนี้กับบริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Samsung,Siemens และ Google” ทาง Ledger กล่าวกับทาง Forbes
บริษัทยังกล่าวอีกว่ากำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ในการจัดเก็บข้อมูลสำหรับ Cryptocurrency ใหม่ชื่อว่า “Ledger Vault” โดยสินค้าตัวนี้จะเน้นไปที่นักลงทุนสถาบัน เช่น ธนาคารและกองทุน Hedge Fund อีกด้วย
ความต้องการของ Hardware Wallet มากขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องดี
ในปี 2018 มีข่าวเว็บคริปโตทั้งหลายโดนแฮ็คอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเว็บ Coincheck, Bithumb และ Coinrail ซึ่งเป็นเว็บเทรดคริปโตยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
ความต้องการสินค้าฮาร์ดแวร์ที่เพิ่มขึ้นเช่น Ledger Nano S และ Ledger Vault แสดงให้เห็นถึงความตระหนักที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนและผู้ใช้งาน Cryptocurrency โดยที่ไม่ต้องพึ่งพากระเป๋าเก็บคริปโตบนเว็บเทรดคริปโตอีกต่อไป
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น