อ้างอิงจากประกาศของ Nvidia หรือผู้ผลิตการ์ดจอรายใหญ่ นาย Colette Kress หรือ CFO ของ Nvidia ประกาศยกเลิกลงทุนในการทำการ์ดจอสำหรับขุดคริปโตโดยเฉพาะ
โดยในแถลงการณ์ นาย Kress ระบุว่า:
“เราเชื่อว่าเรากำลังกลับมาสู่ช่วงเวลาปกติแล้ว ในอนาคตจะไม่มี Cryptocurrency อีกในขณะที่เรากำลังพัฒนาตัวการ์ดจอนี้ แนวโน้มของรายได้จากการ์ดจอที่ออกแบบมาขุดคริปโตจะลดลงประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่รายได้จากการ์ดจอที่ออกแบบมาขุดคริปโตโดยเฉพาะอยู่ที่ 18 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งเราคาดว่ามันเล็กน้อยมาก ๆ”
นาย Jensen Huang หรือ CEO ของ Nvidia กล่าวสนับสนุนความคิดของนาย Kress โดยกล่าวว่าการ์ดจอสำหรับขุดคริปโตสามารถทำกำไรได้น้อย ซึ่งเป็นอะไรที่ลดลงอย่างมากเนื่องจากราคาของสกุลเงินคริปโตลดลงนั่นเอง
Bitmain ได้กำไร 1 พันล้านดอลลาร์
แม้ว่าในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีรายงานว่าบริษัท Bitmain มีมูลค่าบริษัทแตะ 15,000 ล้านดอลลาร์ หลังได้เงินระดมทุนจากผู้ถือหุ้น Uber โดยบริษัท Bitmain วางแผนที่จะระดมทุน IPO ที่ Hong Kong Stock Exchange ในเดือนกันยายน ถ้าเป็นไปตามแผนพวกเขาจะมีมูลค่ารวมของบริษัททั้งหมด 30,000 ล้านดอลลาร์
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ Bitmain มีกำไร 1.1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2018 ในขณะที่ Nvidia สามารถทำกำไร 550 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ของ Bitmain เท่านั้น ถึงแม้ว่า Nvidia จะเป็นผู้ผลิตการ์ดจอรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ยังไม่สามารถทำกำไรได้มากกว่า Bitmain
ดังนั้นนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทาง Nvidia ยกเลิกการทำการ์ดจอสำหรับคริปโตเนื่องจากเป็นตลาดขาลงของคริปโต และเหตุผลหลักก็คือ Bitmain ขายเครื่องขุดเป็นหลักและสามารถทำกำไรได้มากกว่า Nvidia
จริงแล้วปัญหาคืออะไร
ปัญหาหลักจริง ๆ ก็คือ ความต้องการขุดคริปโตด้วย GPU ลดลง มีเพียงบางเหรียญเท่านั้นที่นักขุดสามารถใช้ GPU ขุดขึ้นมาได้
เครื่องขุด ASIC หรือเครื่องมือในการขุดเหรียญถูกพัฒนามาขุดเหรียญคริปโตโดยเฉพาะ และได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมขุดคริปโต และการขุดด้วย GPU อาจเป็นเรื่องลำบากสำหรับนักขุดเหรียญที่ต้องมานั่งตั้งค่าในการขุดนั่นเอง
สรุปได้ว่ากำไรจากการขายการ์ดจอสำหรับขุดเหรียญคริปโตโดยเฉพาะจาก Nvidia ไม่ได้รับผลกระทบจากความต้องการในการขุดเหรียญและสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้างแต่อย่างใด แต่ความสนใจในการขุดเหรียญคริปโตด้วย GPU จะลดลงเพราะประสิทธิภาพด้อยกว่าการขุดเหรียญด้วยเครื่อง ASIC นั่นเอง
ถ้าทาง Nvidia ไม่ได้มองตลาด Cryptocurrency เป็นตลาดที่กำลังมา ก็จะทำให้คู่แข่งอย่าง ATI สามารถเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของการ์ดจอในการขุดเหรียญคริปโตได้อย่างแน่นอน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น