เมือง Zug หรือหมู่บ้านแห่งคริปโต ได้รับการขนานามว่าเป็นชุมชนที่มีความเติบโตทางด้านเทคโนโลยีมากที่สุดของยุโรป Zug เป็นรัฐในยุโรปที่เรียกได้ว่าเป็น “เมืองแห่งเทคโนโลยีของภาคพื้นยุโรป”
เทคโนโลยีในเมือง Zug ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
จากการรายงาน เมือง Zug เป็นศูนย์รวมการพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีมากขึ้นกว่า 177 เปอร์เซ็นต์ในปี 2018 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว กิจกรรมที่จัดเกี่ยวกับเรื่องคริปโตเคอร์เรนซีก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลของสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ก็ยังมีการออกกฎเกณฑ์ทางการเงินและนโยบายเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีเพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน
“ในยุโรปมีศูนย์รวมด้านเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีความหลากหลายถูกจัดอันดับเป็น top 20 ด้วยกันและจากการประเมินพบว่าเมือง Zug เป็นศูนย์ที่มีการเจริญเติบโตทางด้านเทคโนโลยีมากที่สุด”
ตามมาด้วยเมือง Novosibirsk แห่งประเทศรัสเซียซึ่งมีการจัดกิจกรรมทางด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 173 เปอร์เซ็นต์ และลำดับถัดมาคือเมือง Ghent (Belgium), เมือง Hague (Netherlands) และเมือง Katowice (Poland) เป็น top 5 ของเมืองที่มีการเจริญเติบโตทางเทคโนโลยีมากที่สุด
ศูนย์วิจัย Akademgorodok ในเมือง Novosibirsk เป็นศูนย์รวมสำหรับการจัดกิจกรรมสตาร์ทอัพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือที่รู้จักกันในนาม “Siberian Silicon Valley” ซึ่งหนึ่งในบริษัทที่ได้มาจัดกิจกรรมที่นี่ก็คือบริษัทนาโนเทคโนโลยี Ocsial, บริษัทผลิตเลเซอร์ Tekhnoscan และบริษัทซอฟต์แวร์เกี่ยวกับการธนาคาร CFT
ในยุโรปตอนนี้เน้นเรื่องการสร้างคชุมชนที่เป็นแหล่งจัดประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านเทคโนโลยีเพื่อให้มีการลงทุนในแต่ละเมืองของยุโรปเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในปีนี้มีการกิจกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีไปแล้วกว่า 200 กิจกรรมต่อวันตลอดทั้งปี
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก้าวหน้าไปอีก
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีหัวก้าวหน้าในเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซี มีการออกกฎหมายมารองรับการใช้งานคริปโตเคอร์เรนซีและมีการอนุญาตให้ทำธุรกรรมทางคริปโตอย่างเป็นทางการ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มองว่าเงินคริปโตและเทคโนโลยีนี้เป็นนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาทางการเงินของโลกและทำให้อุตสาหกรรมเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้นและนอกจากนี้ยังก่อให้เกิดสายอาชีพในด้านนี้มากขึ้นอีกด้วย
โดยเฉพาะในเมือง Zug มีอัตราการเจริญเติบโตด้านเทคโนโลยีมากที่สุด พิจารณาจากการรายงานของ CV Venture Capital ในเดือนตุลาคม บริษัทคริปโตเคอร์เรนซีและ Blockchain กว่า 50 แห่งในเมืองนี้มีมูลค่ากว่า $44 พันล้าน แสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมคริปโตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ตามรายงานพบว่าบริษัทจำนวนมากทำเกี่ยวกับเหรียญดิจิทัลหรือเทคโนโลยี Blockchain ในเมือง Zug มีเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่าถึง 600 บริษัทในปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีที่แล้วมีบริษัทอยู่เพียง 350 แห่งอ้างอิงจาก CV Maps database ในเดือนเมษายนปี 2017
ในบรรดาบริษัทกว่า 50 แห่งที่ถูกจัดอันดับ บริษัทแรก ๆ ที่ตั้งขึ้นใน Crypto Valley รวมถึงบริษัทขุด Bitcoin รายใหญ่อย่าง Bitmain รวมถึงองค์กรชั้นนำเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ คือ Cardano, Dfinity, Ethereum และ Xapo ทั้งนี้รายได้ของ Bitmain เพิ่มขึ้น 700 เปอร์เซ็นต์คือ $2.5 พันล้านในปี 2017 โดยสองปีก่อนหน้านี้มีรายได้อยู่ที่เพียง $137 ล้าน กำไรที่ได้รวมทั้งหมด $1.2 พันล้าน
แต่ก็ยังคงเดินตามหลังบางประเทศ
จากการสำรวจพบว่าธนาคาร Zürcher Kantonalbank ของสวิตเซอร์แลนด์มีการให้บริการกับนักลงทุนมากที่สุดเป็นอันดับที่สองในยุโรป มี financing round กว่า 20 ครั้งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในแง่ของจุดหมายของการลงทุน สวิตเซอร์แลนด์ยังเดินตามหลังสหราชอาณาจักร เยอรมันและฝรั่งเศสอยู่ 10 อันดับ นอกจากนี้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ยังไม่อยู่ใน 12 อันดับจุดหมายสำหรับ software engineer ของสหรัฐในการที่จะเข้ามาทำงานในยุโรป
อย่างไรก็ตามบริษัทต่าง ๆ ของสวิตเซอร์แลนด์ได้นำคริปโตเคอร์เรนซีเข้ามาใช้งานในหลายด้าน ทั้งบริษัทไปรษณีย์ Swiss Post, ผู้ให้บริการโทรคมนาคม Swisscom ร่วมมือกันภายใต้โปรเจ็ค “100 percent Swiss” นำเทคโนโลยี Blockchain มาเป็นโครงสร้างพื้นฐานและได้ทำตามมาตรฐานความปลอดภัยของธนาคารและเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ภายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดังนั้นประเทศสวิตเซอร์แลนด์จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นประเทศที่ “blockchain-friendly” แห่งภาคพื้นยุโรปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
นอกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้ว สหรัฐอเมริกาและสถาบันการเรียนรู้รวมถึงสถาบันทางการเงินก็ได้พิจารณาเกี่ยวกับ framework ของคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งรวมถึงการเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มการเข้าถึงทางด้านนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่มา news.bitcoin
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น