อ้างอิงจากประกาศบน Blog Post ของ Brave หรือ Browser ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงนั้น มีผู้ใช้งานมากกว่า 5.5 ล้านรายแล้ว
ผู้ใช้งานมากกว่า 5.5 ล้านราย
ประกาศนี้ถูกเปิดเผยในวันเสาร์ที่ผ่านมา ใน Blog Post ได้รวบรวมสถิติและการเติบโตในปี 2018 ของ Brave เลยถือโอกาสได้ขอบคุณผู้ใช้งานและพันธมิตรที่คอยสนับสนุนพวกเขา โดยพวกเขากล่าวว่าเป็นปีที่ “วุ่นวายมาก”
เมื่อต้นปีที่แล้วมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน ทาง Brave ได้มีการเติบโตอย่างน่าอัศจรรย์ตลอดปี 2018 ทางทีมงานคาดว่าปี 2019 ก็จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเปิดตัวฟีเจอร์ Brave Ads และเวอร์ชั่นใหม่ของ Browser บน Desktop PC 1.0
ด้วย Brave Ads นั้นกำลังถูกทดสอบเพื่อที่จะคอยมอบ Rewards ให้กับผู้ใช้งานด้วย Basic Attention Tokens (BAT) ซึ่งเป็นโทเคนของ Browser Brave นั่นเอง
บน Blog ของ Brave ได้กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญในปี 2018 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า Browser Brave ที่เป็นเวอร์ชั่น Desktop นั้นเร็วขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์ และได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่าง Brave Rewards
และยังคงสนับสนุน Web Extension ต่าง ๆ อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น Brave เวอร์ชั่น iOS ก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นและ บนเวอร์ชัน Android ก็มีการดาวน์โหลดมากกว่า 10 ล้านครั้งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
การเติบโตของเว็บที่ได้รับการตรวจสอบ (Verified Publisher) ก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเช่นกันจาก 4,000 เว็บไซต์เป็น 28,000 เว็บไซต์แล้ว เพราะอาจมีสาเหตุมาจากการที่ Brave ได้เพิ่มการให้ Reward สำหรับผู้ที่ผลิตเนื้อหาบนช่องทาง Twitch และ Youtube นั่นเอง
พันธมิตรและความเป็นส่วนตัว
ทีมงาน Brave พยายามอย่างหนักในการพัฒนาและปรับปรุงฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวของ Brave นอกจากนั้น Brave ได้เปิดสำนักงานวิจัยในลอนดอน ซึ่งสำนักงานใหม่จะรับผิดชอบในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านความเป็นส่วนตัว (Privacy) ที่ชื่อว่า SpeedReader ซึ่งจะทำให้ความซับซ้อนในการอ่านเว็บไซต์น้อยลงและอีกตัวหนึ่งก็คือ AdGraph ซึ่งเป็น Machine Learning ในการทำ ad Block นั่นเอง
นอกจากคุณสมบัติด้าน Privacy แล้วนั้น ทาง Brave ยังทำงานร่วมกับนักโฆษณาและหน่วยงานภาครัฐรวมถึงวุฒิสภาของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเพื่อนำกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวมาปรับปรุงและมาใช้กับการกระจายรายได้อย่างยุติธรรมให้กับ Publisher
นอกจากนี้ในปี 2018 ที่ผ่านมาทาง Brave ได้จับมือกับสื่อมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Dow Jones Media Group, Qwant และ DuckDuckGo และบริษัทด้าน Blockchain อย่าง Civic อีกด้วย
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น