เมื่อปีที่แล้ว นาย Sindri Stefansson ถูกจับกุมเนื่องจากเป็นผู้ขโมยเครื่องขุด Bitcoin จากประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งถือเป็นการโจรกรรมด้าน Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีเครื่องขุดมูลค่ากว่า 2 ล้านดอลลาร์ที่หายไป จนทำให้ตำรวจยังต้องงุนงงว่าหายไปได้อย่างไร ในขณะนี้เขาได้ถูกจำคุกเป็นเวลา 4 ปีกับอีกครึ่งปี รวมถึงทีมโจรกรรมของเขาด้วย
การโจรกรรมที่ยิงใหญ่
นาย Sindri Por Stefansson ได้กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่สามารถแหกคุก และหลบหนีไปได้ จนกระทั่งถูกจับกุมอีกครั้งได้ในภายหลัง ในข้อหาขโมยเครื่องขุด Bitcoin สื่อท้องถิ่นในได้รายงานว่าเขาถูกจำคุกเป็นเวลา 4.5 ปี และถูกฝากขังแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมอีกหกคนนั้นถูกจำคุกเป็นเวลา 9 ปีกับอีกครึ่งเดือน บริษัท Advania เป็นบริษัทด้านการขุด Bitcoin ที่เสียหายจากการโจรกรรมในครั้งนั้นได้รับเงินชดใช้ค่าเสียหายเป็นมูลค่าเพียง 200,000 ดอลลาร์
การโจรกรรมดังกล่าวนั้นได้ถูกขนานนามว่าเป็น ‘การโจรกรรม Bitcoin ครั้งใหญ่’ โดยสื่อท้องถิ่น โดยพวกเขาเหล่านั้นสามารถขโมยเครื่องขุดจำนวน 600 เครื่องจาก Advania ซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่าเครื่องขุดเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน ภายหลังจากถูกจำคุกรอบแรกนั้น นาย Stefansson สามารถที่จะแหกออกมาจากคุก Sogn และหลบหนีเพื่อเตรียมบินกลับไป Stockholm ณ ที่สนามบิน Keflavik โดยอ้างอิงจากทางตำรวจนั้น เขาได้ใช้พาสปอร์ตปลอมของอีกคนหนึ่ง และที่น่าสนใจคือ นาย Stefansson นั้นได้นั่งเครื่องบินไปไฟลท์เดียวกับนายกรัฐมนตรีของไอซ์แลนด์ในระหว่างการหลบหนีด้วย ภายหลังจากนั้นเขาถูกจับกุมได้ใน Amsterdam
ในการให้สัมภาษณ์กับทาง New York Times นั้น นาย Stefansson กล่าวว่าก่อนหน้านี้เขาพยายามมองหาเที่ยวบินต่างประเทศบนโทรศัพท์มือถือของเขา ที่ไม่ได้ถูกห้ามใช้ในคุก ก่อนที่จะจองเที่ยวบิน และปีนออกมาจากหน้าต่างที่มีการป้องการที่ต่ำ หลังจากที่ขอเกาะรถไปยังสนามบิน Keflavik ได้ เขาก็บินออกจากสนามบินของประเทศ ไปยัง Stockholm และนั่งรถไฟ, รถบัส และแทกซี่ต่อไปยัง Amsterdam
ไม่ใช่การโจรกรรมครั้งแรก
ข่าวการจารกรรมของนาย Stefansson ได้กลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากว่าประเทศไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีอาชญากรรมต่ำ และมีประชาชนอาศัยอยู่เพียงแค่ 338,000 คน โดยในการโจรกรรมนั้น นาย Stefansson และทีมของเขาสามารถที่จะขโมยเครื่องขุด Bitmain จำนวน 225 เครื่องมาได้ ด้วยความช่วยเหลือจากคนภายในบริษัท และพวกเขาได้อำพรางตัวเองเข้าไปในบริษัทด้วยการสวมเครื่องแบบยามรักษาความปลอดภัย
นี่ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกของพวกเขาในการขโมยเครื่องขุด Bitcoin ดังกล่าว เมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 ที่ผ่านมา ทางกลุ่มได้ทำการขโมยเครื่องขุดไปแล้ว 100 เครื่องจาก Algrim Consulting และภายหลังจากนั้นก็พยายามที่จะขโมยจาก Borealis Data Center (BDC) แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีไปด้วยเครื่องขุดได้ หลังจากที่พวกเขาทำสัญญาณเตือนภัยดัง นอกจากนี้ตำรวจยังเผยว่าพวกเขาพยายามที่จะขโมยเครื่องขุดจาก BDC Mines ในอีกไม่กี่วันให้หลัง แต่ก็ล้มเหลว ภายหลังพวกเขาพยายามลองไปขโมยที่ BDC Mines อีกครั้ง แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเช่นกัน เมื่อสองปีที่ผ่านมา ประเทศไอซ์แลนด์ได้กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักขุด Bitcoin ในการเข้าไปทำเหมืองขุดในนั้น เนื่องจากว่าเป็นประเทศที่มีพลังงานเหลือใช้ที่มหาศาล และยังมีสภาพอากาศที่หนาว ทำให้ไม่ต้องลงทุนด้านระบบทำความเย็นให้เครื่องขุดมากนัก
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น