เว็บตลาดแลกเปลี่ยนเหรียญ Cryptocurrency สัญชาติไทยที่เคยถูกปฏิเสธใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไปก่อนหน้านี้ ได้ออกมาประกาศว่าทางบริษัทกำลังอยู่ในแผนฟื้นฟู และ “จะเร่งดำเนินการ โอนเหรียญต่างๆ ที่ลูกค้า ได้ทำการสั่งถอนเข้าบัญชีของลูกค้า” โดยก่อนหน้านี้ทาง ก.ล.ต. ได้ออกมาสั่งให้พวกเขาคืนเงินนักลงทุนให้หมดก่อนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ แต่ดูเหมือนว่าในขณะนี้ยังคงมีนักลงทุนจำนวนมากที่ออกมาร้องโอดครวญว่ายังไม่ได้เงินคืน
ผู้ใช้งานแชนเนล Telegram สาธารณะของ Coin Asset ส่วนใหญ่นั้นกำลังออกมาแสดงความไม่พอใจ เนื่องจากว่าพวกเขากำลังพยายามที่จะถอนเงิน แต่ก็ยังไม่ได้เงินคืน
โดยส่วนหนึ่งของผู้ที่ออกมาบ่นนั้น พวกเขากล่าวว่า
ในขณะที่บางคนก็ทนไม่ไหว ถึงขั้นจะพยายามไปฟ้อง หรือแจ้งความลงบันทึกประจำวัน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางสยามบล็อกเชนรายงานไปแล้วว่านักลงทุนบนแพลทฟอร์ม Coin Asset นั้นกำลังออกมาแสดงความไม่พอใจ เนื่องจากว่าไม่สามารถถอนทั้งเหรียญและเงินออกมาจากระบบได้ ซึ่งก็เป็นเวลาสิบวันผ่านมาแล้ว และในวันนี้ก็ถือเป็นวันสุดท้ายตามที่ ก.ล.ต. ระบุพอดี โดยพวกเขาได้กล่าวเสริมว่า
“ถึงแม้ว่า วันที่ 14 ก.พ. นี้ เป็นวันสุดท้ายที่ กลต ประกาศ แต่เว็บไซต์ ของเรายังเปิด เพื่อทำการทยอยโอนเหรียญต่างๆ ให้ลูกค้า จึงใคร่ขอความเห็นใจ และได้โปรดสบายใจ ว่า Coin Asset ยังคงให้บริการลูกค้าจนกว่า ทางบริษัทจะดำเนินการคืนสินทรัพย์ให้แก่ลูกค้าครบถ้วน”
เว็บไซต์ข่าวสาร Online Newstime ได้ออกมาเผยทางออกให้กับนักลงทุนที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าวว่า พวกเขาสามารถที่จะติดต่อเพจชื่อดังให้ช่วยรับเรื่องเพื่อแก้ไขปัญหาให้
“สำหรับทางออกของนักลงทุนที่ประสบปัญหา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล ต้องผ่านการอนุญาตจาก ก.ล.ต. ตาม พรก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561
ซึ่งหากเกิดกรณีที่ตลาดการแลกเปลี่ยนไม่ผ่านกฏเกณฑ์ของกลต. เงินที่นักลงทุนนำไปฝากไว้ในตลาดแลกเปลี่ยนก็ต้องคืนกลับมาให้เจ้าของ
กรณีไม่คืนเงินให้จะถือว่ามีเจตนาฉ้อโกง ตามพระราชกำหนด การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน. พ.ศ. ๒๕๒๗”
พร้อมทั้งยังแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความ หรือส่งหนังสือให้ ก.ล.ต. รับทราบอีกด้วย
เว็บ Coin Asset เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อประมาณช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2018 โดยเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการด้านกระดานซื้อขายเหรียญ cryptocurrency อย่างเช่น Bitcoin และรวมถึงเหรียญของบริษัทยักษ์ใหญ่ JFIN Coin อีกด้วย
เว็บไซต์ดังกล่าวได้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการธุรกิจสินทรัพย์ไปพร้อม ๆ กับเว็บสัญชาติไทยอื่น ๆ อย่างเช่น Bx, Bitkub และ Satang Pro แต่ก็ไม่ผ่านการพิจารณา เนื่องมาจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหารภายในองค์กร จึงทำให้เว็บดังกล่าวต้องปิดตัวลง
ทว่าก่อนหน้านี้นายศิวนัส ยามดี ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บ Coin Asset ออกมาเผยหลังจากที่ถูกปฏิเสธใบอนุญาตว่าว่าทางทีมงานกำลังพยายามจะ “ทำการย้ายฐานไปยังต่างประเทศชั่วคราว ซึ่งเป็นประเทศที่เราจดทะเบียนเอาไว้ และจะไม่เปิดเทรดคู่ Thai Baht อีกแล้ว และจะดำเนินการขอ License ใหม่อีกครั้งหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม ทาง Coin Asset ได้ทิ้งท้ายไว้ว่าทางบริษัทนั้นกำลัง “เข้า sleep mode ทำให้ลูกค้าที่เดินทางไป อาจไม่พบเจ้าหน้าที่” แต่ก็ยังมีช่องทางเดิมที่ลูกค้าติดต่อได้
แต่กระนั้น พวกเขาก็ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของแผนฟื้นฟูบริษัทว่าจะทำอย่างไรต่อไป และจะใช้เวลาในการดำเนินการนานขนาดไหน
ทางสยามบล็อกเชนได้ทำการติดต่อสอบถามไปยังผู้บริหารเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น