<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มหาเศรษฐีนาย Tim Draper ทำนายว่า “อีก 5 ปีข้างหน้าจะมีแต่ Crypto และอาชญากรเท่านั้นที่จะใช้เงินสด”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาย Tim Draper เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin อย่างแรงกล้า เขามองโลกในแง่ดีใน Bitcoin อยู่เสมอถึงแม้ว่าคนอื่นจะคิดว่าเขาบ้าก็ตาม

ถึงแม้ว่าเค้าจะมั่นคงกับ Bitcoin แต่นาย Jamie Dimon CEO ของ JPMorgan ก็เคยออกมากล่าวว่า Bitcoin จะเป็นวิกฤตการณ์ดอกทิวลิป

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า JPMorgan จะเปิดตัวเหรียญดิจิทัลของตัวเอง โดยจะมีชื่อว่า JPM Coin ข่าวนี้ทำให้ชุมชนทางการเงินตกใจเป็นอย่างมากเพราะว่าตัวเขาเองออกมาโจมตี Bitcoin อยู่ตลอดเวลารวมไปถึงกล่าว Bitcoin ว่าฉ้อฉลอีกด้วย

ไก่ทอดและกาแฟ

ก่อนหน้านี้นาย Draper ได้พูดเกี่ยวกับการที่ Crypto เช่น Bitcoin หรือคริปโตตัวอื่น ๆ จะมาเปลี่ยนวิถีชิวิตความเป็นอยู่ในการซื้อของหรือซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค

เข้าชี้ไปที่ร้านอาหาร Fast Food ยักษ์ใหญ่อย่าง KFC ว่าพวกเขาจะเปิดตัวคริปโตของตัวเองโดยกล่าวว่า “คุณสามารถซื้อไก่ทอดด้วยคริปโตได้”

กาแฟก็เช่นกัน คุณสามารถให้โทรศัพท์มือถือกับทาง Barista ในการ Scan เพื่อจ่ายเงินด้วยคริปโตและได้ลาเต้อย่างที่พวกเขาต้องการ โดยเขากล่าวว่า:

“Lightning Network จะทำให้ผู้ใช้งานมือถือแบบพวกเรานั้นทำงานง่ายในการซื้อกาแฟ เพียงแค่เรายื่นมือถือให้ Barista ผมคาดการณ์ในอีกห้าปีว่าเราจะลองเดินเข้าไปร้านกาแฟโดยซื้อกาแฟด้วยเงิน Fiat ตัว Barista จะหัวเราะเยาะแน่ ๆ และถามเราว่า:

ไม่มีคริปโตหรอ?”

เงินสดเป็นของอาชญากร

คนที่ยังใช้เงินสดน่าจะเป็นพวกอาชญากรนาย Draper กล่าว:

“ไม่มีการใช้เงินสดแล้ว ยกเว้นแต่พวกอาชญากร พวกเขายังต้องใช้เงินสดเพราะว่าพวกเขาได้จับทุกคนที่จะใช้ Bitcoin ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้ Bitcoin พวกเขาก็จะถูกตรวจสอบได้ ฉะนั้นเงินสดยังคงเป็นสิ่งที่อาชญากรต้องการ” และนาย Draper กล่าวเพิ่มเติมว่า:

“ผมรู้สึกว่าเงินในธนาคารมีความปลอดภัยน้อยกว่า Bitcoin ของผม ธนาคารของผมอยู่ภายใต้การโจมตีของแฮ็กเกอร์ ผมว่า Bitcoin ผมปลอดภัยกว่าเงินดอลลาร์”

นาย Draper ยังคงถามต่อว่า “เมื่อไรคุณจะขาย Bitcoin”

“ผมพูดอะไรออกไป? มันเหมือนกับการเปลี่ยนทองคำเป็นหอย ทำไมผมต้องทำแบบนั้น? ทำไมผมต้องย้อนเวลากลับไปทั้งที่รู้ว่าอนาคตมันจะกลายเป็นยุค Bitcoin และคริปโตตัวอื่น ๆ”

สุดท้ายนาย Draper ก็ได้กล่าวว่า “ผมคิดว่ามันจะกลายเป็นศูนย์กลางของกระเป๋าเงินทั้งหมดที่คุณมี โดยเมื่อเราทำการใช้จ่ายใน Starbucks กระเป๋าเงินของคุณจะทำการสลับสกุลเงินใด ๆ ก็ตามที่มีมูลค่าสูงสุดขึ้นมาเพื่อชำระค่าบริการหรือสินค้าเหล่านั้น”

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น