นาย Miguel Vias หัวหน้าฝ่ายตลาดเหรียญ XRP ของ Ripple ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าตนได้จ่ายเงินให้แก่ Coinbase เพื่อที่จะขึ้นทะเบียนเหรียญ XRP ของตนในกิจการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลคริปโตของบริษัท
ได้มีเสียงตอบรับมากมายต่อกรณีข้อกล่าวการติดสินบนแก่ Coinbase หลังจากที่ได้มีการประกาศการเพิ่มรายชื่อเหรียญ XRP เข้าเป็นคู่ค้าในแพลทฟอร์มในวันที่ 26 เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในทางกลับกันธุรกิจสัญชาติอเมริกันดังกล่าวได้ระวังตัวอย่างมากถึงกรณีการขึ้นทะเบียนรายชื่อเหรียญดังกล่าวตามที่หลายคนคาดเนื่องมาจากกรณีเหตุการณ์ในอดีตของเหรียญ XRP กับ Ripple Labs ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นเจ้าของถึง 60 เปอร์เซ็นของเหรียญ XRP ซึ่งส่งผลให้หุ้นของเค้ามีมูลค่ากว่าล้านล้านดอลล่าร์
สิ่งที่ก่อความไม่วาบใจให้กับบริษัทคือคดีของ Ripple มูลค่ากว่า 167.7 ล้านที่อยู่ในขั้นรอการพิจารณาซึ่งเป็นคดีที่มีโจทย์ร่วมจำนวนมาก ซึ่งจะตัดสินว่า XRP นั้นเป็นสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันหรือไม่
อย่างไรก็ตามความกังวลต่างๆต่อของ Coinbase นั้นได้หายไปในเวลาอันรวดเร็วตามที่ Allistair Milne กล่าวไว้
ในฐานะประธานฝ่ายสารสนเทศของกองทุนสกุลเงินดิจิทัลของแอตแลนตาได้ติดต่อกับ Elliott Suthers หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของ Coinbase ผ่านทางอีเมลล์โดยได้พ่วงคำถามไปด้วยมากมาย โดยเค้าได้ถาม Suthers ว่าทาง Coinbase นั้นได้มีการยื่นคำขอต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) หรือคณะกรรมการ Commodity and Futures Trading Commission (CFTC) ก่อนที่จะได้มีการให้ประชาชนลงทุนในเหรียญหรือไม่
อีกทั้งยังได้ถามเพิ่มเติมว่าได้มีการตกลงกันเป็นการส่วนตัวระหว่าง Coinbase และ Ripple สำหรับการขึ้นทะเบียนรายชื่อเหรียญ XRP หรือไม่
ตามที่ได้มีการเผยแพร่ภาพหน้าจอในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ Suthers ได้บอกแก่ Milne ว่า Coinbase นั้นยินดีที่จะพูดคุยเกี่ยวกับคำถามของเค้าโดยลับ ซึ่ง Milne ก็ได้ตอบรับแก่ข้อเสนอดังกล่าวในฐานะหลักฐานชิ้นสำคัญว่า Ripple ได้ติดสินบนจริง ซึ่งเค้าถึงกับติดแฮชแท็กว่า “ชัดเจนแล้วว่าพวกเค้าติดสินบนกันแน่นอน”
Did Ripple pay Coinbase for their token being listed?
“we’re not discussing publicly”#xrp #youregoddamnrighttheydid pic.twitter.com/cuuxWGt6ch— Alistair Milne (@alistairmilne) February 26, 2019
มันไม่ใช่ Token ของพวกเรา Vias กล่าว
Miguel Vias ได้ตอบเป็นทางตรงกันข้ามกับคำกล่าวของ Milne ในวันที่ 28 เดือนกุมภาพันธ์บน Twitter โดยเค้าได้แถลงไขว่า Ripple นั้นไม่ได้ติดสินบน Coinbase เพื่อให้เหรียญ XRP ขึ้นอยู่ในรายชื่อแต่อย่างใด Vias ยังได้กล่าวอีกว่า XRP นั้นไม่ใช่ Token ของพวกเค้า
We’re happy to go on the record. Coinbase’s listing of XRP (also, not “our token”) was Coinbase’s independent decision – we did not give them anything to make it happen. https://t.co/xTVvACqsQa
— Miguel Vias ⚡ (@miguelvias) February 27, 2019
จากทฤษฏีที่มีการกล่าวว่า “มันไม่ใช่ Token ของพวกเรา” แสดงว่า Ripple ในฐานะบริษัทนั้นไม่ได้เป็นผู้ออก XRP Token
Ripple นั้นได้เผชิญหน้ากับข้อครหาหลายประการจากการที่ตนถือหุ้นส่วนใหญ่ของเหรียญ XRP เพื่อเป็นการตอบโต้ ทางบริษัทได้ทำการเก็บ XRP Token มูลค่ากว่า 55 ล้านล้าน ไว้ไกลตัวพวกเค้าภายใต้การควบคุมดูแลของของบุคคลที่สาม โดยระบบ smart contracts ซึ่งมีเวลาเป็นกุญแจสำคัญนั้นสามารถปล่อยเหรียญมูลค่าถึง 1ล้านล้านออกมาในทุก ๆ เดือน โดยในทุกสิ้นเดือน ทาง Ripple จะนำเหรียญซึ่งไม่ได้ถูกใช้เข้าเก็บไว้ในบัญชีซึ่งถูกตั้งให้หมดอายุภายในเวลา 55 เดือนหลังจากที่เปิดบัญชี
อย่างไรก็ตามทาง Ripple ยังคงมีส่วนได้เสียเมื่อมีการแจกจ่ายเหรียญ XRP อยู่ดี
ในวันที่ 13 ตุลาคม ปี 2017 ทาง Ripple ได้เปิดตัวโปรแกรม RippleNet accelerator ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มประโยชน์ของเหรียญ โดยทางบริษัทได้แจกจ่ายเงินกว่า 300 ล้านดอลล่าร์จากกองทุน XRP จากบัญชีซึ่งเปิดไว้กับบุคคลที่สาม และได้กล่าวว่าเงินจำนวนนี้จะเป็นรางวัลแก่สถาบันทางการเงินซึ่งร่วมกับเหรียญ XRP ในการทดสอบโดครงสร้างการจ่ายเงินผ่านระบบ RippleNet ผลลัพธ์ที่ได้คือการที่ Ripple นั้นสามารถที่จะดึงดูดให้มีการร่วมมือกันกับบริษัททางการเงินใหญ่ๆหลายแห่งได้
“เงินจำนวนนี้ซึ่งอยู่ในรูปของดอลล่าร์สหรัฐฯหรือเหรียญ XRP ได้ถูกสร้างให้ผลักดันให้มีการเข้าสู่ตลาดและการนำวิธีการของ Ripple ไปใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น”
การจูงใจโดยให้ผลประโยชน์ตอบแทนนี้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของ Ripple ในการผลักดันให้มีการเข้าสู่ตลาดและนำผลิตภัณฑ์ XRP ไปใช้ ซึ่ง Bloomberg ก็ได้มีการรายงานในเดือนเมษายนปี 2018 ในเนื้อหาอย่างเดียวกัน
แรงจูงใจซึ่งมีมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลล่าร์?
จากรายงานของ Bloomberg เผยว่า Ripple ได้จ่ายสินบนเพื่อให้เว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโต Gemini และ Coinbase เพื่อให้นำเหรียญขึ้นกระดานเทรดของเว็บดังกล่าว ในกรณีของ Coinbase ได้มีการกล่าวหาว่า Ripple เสนอให้ยืม XRP มูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อให้ผู้ใช้งานเทรดเหรียญ XRP และทาง Ripple ก็ได้ทำข้อเสนอเดียวกันนี้ให้กับทาง Gemini ด้วยการเสนอให้ยืมเงินกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทางผู้สื่อข่าวนาย Milne ที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ Ripple รับสินบนในหัวข้อข่าวของ Bloomberg ได้สอบถามไปยังนาย Vias ว่า Ripple นั้นได้ยื่นข้อเสนอให้ทรัพย์สินกับทาง Coinbase เพื่อแลกกับการที่ Coinbase จะต้องลิสต์เหรียญ XRP ขึ้นกระดานเทรดของเว็บไซต์หรือไม่ซึ่งทาง Coinbase ก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ทั้งนี้ทาง Coinbase กำลังอยู่ระหว่างฟ้องร้องคดีกรณีที่บริษัททำการซื้อขายภายใน (Insider Trading) หรือใช้เว็บไซต์ของตนเทรดเหรียญ Bitcoin Cash
Has there been *any* transfer of assets between Ripple and Coinbase in the past year or so? Of any sort (loan, donation, deposit, etc.)?
Extremely hard to believe Ripple offered $100mil of assets and then Coinbase decided to receive 0 benefit https://t.co/O9KETqsQuS— Alistair Milne (@alistairmilne) February 27, 2019
บริษัทผู้โหยหาอดีต : Coinbase
ในวันที่ 19 เดือนธันวาคมปี 2017 Coinbase ได้ออกประกาศที่าร้างความประหลาดใจให้แก่หลายฝ่ายว่า พวกเค้ากำลังเพิ่ม Bitcoin Cash เข้าเป็นตัวเลือกในแพลตฟอร์มของตัวเอง โดยก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้ปฏิเสธที่จะขึ้นทะเบียนรายชื่อสินทรัพย์ดังกล่าวมาก่อนแล้ว ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจดังกล่าวจึงทำให้คนในวงการต่างต้องประหลาดใจ และเป็นที่แน่นอนว่าราคาของ Bitcoin Cash นั้นดีดตัวขึ้นตามกระแสข่าว ขึ้นไปแตะเพดานที่ $1,000 อย่างไรก็ตามทาง Coinbase ได้ยกเลิกการซื้อขายในอนาคตทั้งหมดที่เกิดขึ้นแก่ Bitcoin Cash เนื่องจากปัญหาทางสภาพคล่องของตัวเหรียญ
นาย Jeffery Berk ผู้เป็นโจทก์หลักในคดีซึ่งฟ้องในเดือนพฤษภาคม ปี 2018 ได้อ้างว่าได้มีการเทซื้อ Bitcoin Cash ที่เกิดขึ้นภายในอย่างล้นหลามบนแพลทฟอร์ม GDAX ของ Coinbase หลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวออกมา อย่างไรก็ตามทาง Coinbase ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงผลการตรวจสอบภายในซึ่งอ้างว่าไม่ได้มีการซื้อขายเกิดขึ้นภายในแต่อย่างใด
ยังคงเป็นคำถามที่คาใจต่อไปว่า เหตุใดบริษัทซื้อขายแลกเปลี่ยนชื่อดังแห่งนี้ถึงยอมเสี่ยงเพื่อหลักทรัพย์ที่ยังไม่ได้รับการรับรองเช่นนี้? โดยยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนแน่นอน
ที่มา : CCN
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น