วันที่ 1 เมษายนในฐานะวัน April Fool’s เหล่าผู้คนในตลาดคริปโตต่างไม่พ้นเล่นมุกตลกกันเต็มที่เช่นเดียวกัน โดยหารู้ไม่ว่าเหล่ามุกตลกเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อมูลค่าการซื้อขายเหรียญอย่างไม่น่าเชื่อ
ในช่วงต้นของวันนี้ทางสื่อ CCN ได้มีรายงานถึงมุกตลกที่ร้ายกาจที่สุดของปี 2019 รวมถึงตัวอย่างมุกที่กล่าวถึงการพุ่งขึ้นของราคาขึ้นไปกว่า 20% แต่คำถามก็คือ มุกตลกในวัน April Fools’ Day เหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อเหล่านักลงทุนคริปโตมากกว่าที่พวกเค้าคิดไว้หรือไม่? เมื่อพิจารณาตามเหตุการณ์ในอดีตแล้ว สังคมชาวคริปโตได้ยอมรับวัฒนธรรมการเล่นมุกตลกอันร้ายกาจเหล่านี้เป็นอย่างดีผ่านการทวีต การโพสลงในบล็อกต่างๆ และการเขียนเป็นบทความขึ้นมา
April Fools นั้นอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตลาดได้
แม้ว่าจะเป็นที่รู้กันดีท่ามกลางเหล่านักเทรดว่าการเทรดที่ดีนั้นควรที่จะอยู่บนพื้นฐานของการวางแผน การดำเนินการตามแผนที่วาง และการไม่เอาอารมณ์เข้ามาปะปนกับแผนการดังกล่าว แต่แน่นอนสิ่งเหล่านี้นั้นการพูดมักง่ากว่าการลงมือทำจริงเสมอโดยเฉพาะเมื่อมันเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับเงินของพวกคุณ ดังนั้นด้านล่างนี้เราจึงรวม 3 มุกตลกวัน April Fool’s Day ที่ร้ายกาจที่สุดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนรายวันภายในตลาดได้
อันดับที่สาม : เหรียญ ONECOIN ขึ้นแท่นแซง ETHEREUM
ในวันที่ 1 เดืแนเมษายน ปี 2017 ทาง CoinDesk ได้รายงานถึงข่าวหนึ่งซึ่งมาเพื่อเขย่าวงการคริปโตให้ตื่นตระหนก โดยเฉพาะพวกผู้อ่านซึ่งยังไม่ได้อ่านตัวเนื้อหาของบทความทั้งหมด ทาง CoinDesk ได้อ้างว่าผู้พิพากษาสหรัฐได้มีคำพิพากษาว่าเหรียญ OneCoin นั้นถูกต้องตามกฎหมายและเป็นสกุลเงินคริปโตที่ได้รับการรับรองโดยกฎหมาย ดังที่ทางบทความได้ตั้งประเด็นไว้ OneCoin นั้นจะสามารถที่จะก้าวข้ามยักษ์ใหญ่อย่าง Ethereum ซึ่งอยู่ในลำดับ 2 ตามมูลค่าตลาดได้
นอกจากนั้นแล้ว คำสั่งดังกล่าวยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของทางรัฐบาลในสิ่งซึ่งสมควรที่จะปราศจากการถูกกำกับควบคุมโดยส่วนกลางอย่างยิ่ง ซึ่งการประกาศออกมาของข่าวประเภทนี้นั้นเป็นการเพียงพอที่จะกระทบจิตใจและผลักดันให้นักลงทุนบางคนละทิ้งแผนการลงทุนของตัวเอง อย่างไรก็ตามบรรทัดสุดท้ายของบทความได้กล่าวเฉลยถึงมุกตลกดังกล่าวว่า
“การผันผวนของราคานั้นจะเกิดขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงไม่กี่วันหลังจากนี้ในตลาดของเหล่าสกุลเงินยักษ์ใหญ่ทั้งหลายเพราะเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มันเป็นแค่มุกตลกเท่านั้น!”
อันดับที่ 2: ETHEREUM ได้ยอมรับแนวคิดสังคมนิยมของประเทศเกาหลีเหนือ
ในวันก่อนหน้าวัน April Fools ในปี 2017 นาย Vitalik Buterin โฆษกและผู้ร่วมสร้างของ Ethereum ได้ประกาศผ่านทางบล็อกของทาง Ethereum โดยมีการเกริ่นพอประมาณตามปกติถึงการที่เหล่านักพัฒนาและทีม whizz-kid ได้มีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากถึงความคืบหน้าของ protocol และความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้คนทั่วไปได้ใช้ในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อ Buterin กล่าวต่อไป มุกตลกที่เค้าต้องการจะสื่อก็เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ และแม้เค้าไม่ได้กล่าวเป็นนัยถึงการเล่นมุกตลกดังกล่าวเลยในประกาศดังกล่าว ในประโยคสุดท้ายของเค้านั้นค่อนข้างที่จะชัดเจนว่ามันเป็นเพียงแค่มุกตลกเท่านั้น
“ในท้ายที่สุดนี้ ทางทีมพัฒนา DevCon3 ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองเปียงยางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ”
เหล่าผู้อ่านซึ่งฉลาดพอก็สามารถที่จะจับมุกตลกดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามมันก็อดไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบต่อราคาของเหรียญ Ethereum จากการผันผวนอย่างรุนแรงเกือบถึง 10% ในวันดังกล่าวโดยอ้างอิงจากข้อมูลโดย coinmarketcap.com
การเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรุนแรงนั้นอาจจะเกิดขึ้นจากข่าวและข้อมูลที่ถูกส่งผ่านไปทั่วตลาดหรืออาจจะเกิดจากเหตุผลที่ว่าผู้คนต่างอ่านแค่เพียงผ่านหัวข่าวเท่านั้นก็ด่วนตัดสินเนื้อหาทั้งๆที่ยังไม่ได้อ่านเนื้อในเลย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องเงิน สกุลเงินคริปโต และข่าวลวงต่างๆ การอ่านข่าวให้เข้าใจมากกว่าที่ปรากฎบนพาดหัวข่าวนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
อันดับที่ 1: SEC ได้อนุญาตให้ดำเนินการกองทุนเปิดสำหรับ Bitcoin หรือ Bitcoin ETF ได้
ในเช้าวันที่ผ่านมานี้นิตยสาร Finance Magnates ได้ออกข่าวปลอมเกี่ยวกับการที่ก.ล.ต. สหรัฐฯได้อนุมัติกองทุน ETF สำหรับ Bitcoin ขึ้นถึงสองกองทุน โดยแม้ว่าจะมีหลายสิ่งที่บ่งบอกว่าเรื่องนี้เป็นเป็นเพียงการปั่นกระแสเท่านั้นแต่ด้วยความที่เนื้อหาของข่าวมีความจริงจังจึงอดไม่ได้ที่จะทำให้นักออ่านหลายคนต้องตกหลุมพราง โดยบทความดังกล่าวได้ติดรายชื่อผลการค้นหาสูงสุดบน Google เมื่อผู้คนต้องการที่จะค้นหาโดยใช้คำว่า Bitcoin ให้การสืบค้น นอกจากนั้นแล้วภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากมีการประกาศบทความดังกล่าว ราคา Bitcoin นั้นพุ่งขึ้นไปสูงถึง 0.5%
ราคาของ Bitcoin นั้นค่อนข้างที่จะผันผวนเป็นอย่างมาก และเราไม่อาจที่จะรู้ได้เลยว่าเหล่ามุกตลกวัน April Fool’s นั้นจะมีส่วนในการดีดขึ้นของราคามากน้อยเพียงใด อีกทั้งมันยังเป็นไปได้ที่เหล่าบทความนี้จะล่อให้นักเทรดมือใหม่หลายรายตัดสินใจอย่างบุ่มบ่ามและเข้าซื้ออย่างรวดเร็ว และยังเป็นไปได้อีกว่าพาดหัวข่าวเหล่านี้นั้นจะส่งผลให้เหล่า trading bots สนับสนุนให้ผู้ลงทุนต่างๆเข้าซื้อมากขึ้น
มุกตลกวัน April Fool’s นั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวในช่วงหนึ่งปี
ด้วยความที่วัน April Fool’s นั้นได้จบลงไปแล้ว เหล่าผู้ลงทุนต่างๆนั้นไม่ควรที่จะมานั่งใจเย็นและอ่านเพียงแค่หาดหัวข่าวอีกต่อไปได้ เนื่องจากข่าวลวงและการปั่นกระแสต่างๆถูกส่งผ่านไปทั่ววงการคริปโตตลอดทั้งปี นอกจากแค่ในวัน April Fool’s เท่านั้น เหล่านักข่าวๆต่างได้รายงานข่าวอันไม่เป็นความจริงมากมายตั้งแต่ข่าวการตายของ Vitalik และในขณะเดียวกันมันอาจจะใช้เวลาหลายชั่วโมงจนถึงหลายวันในการพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากการลอกลวงของเหล่าพาดหัวข่าวคริปโตทั้งหลาย การที่นักลงทุนมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนและทำตามตามแผนการนั้นๆเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุดในการรักษาสินทรัพย์คริปโตของตนเอาไว้ ท่ามกลางวงการที่แสนจะผันผวนและเปราะบางนี้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น