<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เครื่องขุดเหรียญคริปโตที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2019

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่ตลาด Cryptocurrency ปีนี้ยังคงซบเซาและเป็นตลาดหมี ผู้คนที่เคยสนใจในการขุดคริปโตหรือทำเหมืองต่างทยอยออกจากธุรกิจไปเป็นจำนวนมากเนื่องจากไม่คุ้มกับทุนที่ใช้ในการขุด ทว่าในอีกแง่หนึ่ง ราคาของเครื่องขุดเหล่านี้กำลังถูกลงเรื่อย ๆ  และอาจจะเป็นโอกาสในการซื้อที่ดีที่สุด

โดยในบทความนี้เราจะพามาดูกันถึงว่าแบบไหนกันที่ดีที่สุดตั้งแต่มือถือเครื่องเก่าไปจนถึง ASICs ที่แพงที่สุดอย่าง Obelisk SC1  ที่สามารถขุด Siacoin ได้เป็นอย่างไรไปดูกันเลยครับ

โอกาสในการซื้อที่ดีที่สุด ?

หากคุณเป็นผู้มีสิทธิในการใช้ไฟฟ้าฟรี หรือมีแผนที่จะเพิ่มความร้อนและทนกับเสียงพัดลมที่ทำงานหนักจนน่ารำคาญให้กับห้องของคุณ นี้คือโอกาสที่จะซื้อของถูกแล้ว

มันคงจะมีเหตุผลที่น้อยมาก ๆ สำหรับคนอื่นในการที่จะขุดคริปโตต่อไปในขณะที่ตลาด Bitcoin กำลังเป็นตลาดหมี และราคาที่ตกลงไปถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในปี 2018 แต่มันก็ดูเหมือนจะเป็นโอกาสที่ดีอย่างมากในการที่คุณจะซื้อเครื่องที่ถูกลงด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่นในตอนนี้คุณสามารถซื้อ Radeon RX 570 4 GB ของ GIGABYTE ในราคาเพียง 183.98 ดอลลาร์ (จากป้ายราคาจริงที่  600 ดอลลาร์) เนื่องจากปัจจุบัน GPU ในตลาดกำลังวางจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าที่มันควรจะเป็นนั้นเอง

สรุปประเภทของเครื่องขุด

CPU : เรื่องตลกที่เป็นเรื่องจริงก็คือบล็อกแรกของ Bitcoin ที่ถูกขุดหรือที่เรารู้จักกันในนาม ‘Genesis Block’ ถูกขุดขึ้นโดยนาย Satoshi Nakamoto บน PC ของเขาเอง ซึ่งในช่วงยุคแรก ๆ ผู้ใช้ Bitcoin สามารถขุดคริปโตผ่านคอมพิวเตอร์ของพวกเองได้ด้วย PC ที่มี Pentium 4 และมีกำลังขุดที่มากถึง 100 BTC ในปี 2010 นั้นเอง

GPU : หลังจากที่เริ่มมีจำนวนการขุด Bitcoin ที่มากขึ้นหลายๆ  คนก็เริ่มหันมาใช้การขุดด้วย GPU มากขึ้นในวันที่ 18 กันยายน 2010 นั้นเอง

ASIC : เมื่อการแข่งขันเพื่อแย่งชิง Bitcoin เริ่มรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลทำให้เริ่มมีแนวคิดในการสร้างเครื่องสำหรับการขุด Bitcoin ขึ้นมาโดยเฉพาะในปี 2013 ซึ่งมีประสิทธิภาพอย่างมากและสูงกว่า GPU สุด ๆ

คำแนะนำในการขุด Bitcoin

ถึงแม้ว่า Bitcoin จะมีราคาที่ลดลงเป็นอย่างมากตั้งแต่ต้นปี 2018 แต่ทว่ายังไรก็ตามมันก็ยังเป็นเหมือนราชาของ Cryptocurrency ทั้งหมดและยังเป็นเหรียญที่สร้างรายได้ให้กับเหมืองขุดคริปโตระดับโลกได้อีกหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากคุณต้องการเป็นส่วนนึงของการขุดและซื้อเครื่องขุดคริปโตตัวนี้ นี่อาจจะเป็นคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีประโยชน์ต่อคุณในการเลือกซื้อเครื่องที่เหมาะสม

Innosilicon T3: นี่เป็นหนึ่งในเครื่องขุดที่ทรงพลังที่สุดในตลาดด้วย Hashrate ที่ 43TH / s ชุดแรกที่คาดว่าจะส่งมอบให้กับผู้ซื้อโดยเร็วที่สุดในเดือนมกราคม 2019 ที่ผ่านมานี้ไปแล้ว

GMO miner B3: เครื่องดังกล่าวถูกวางจำหน่ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมาโดยมีกำลังขุดอยู่ที่ 33 TH/ s แต่ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ GMO พึ่งออกจากธุรกิจทำเหมืองขุดไปด้วยเหตุผลบางอย่างและนั้นทำให้ตอนนี้ GMO miner B3 เป็นหนึ่งในเครื่องขุดที่ทำกำไรแย่ที่สุด โดยคุณจะเสียวันละประมาณ 4.52 ดอลลาร์ต่อวันเมื่อเปิดใช้เครื่องขุดนี้

Ebit E11+: อีกหนึ่งในเครื่องขุดที่มี Hashrate อยู่ที่ 34 TH / s ทำให้เครื่องขุดนี้โดดเด่นและแข่งขันกับเครื่องอื่น ๆ ได้เนื่องจากปัจจุบันราคา Bitcoin กำลังปรับตัวสูงขึ้นและทำให้มันมีกำไรอยู่บ้างประมาณ 2.65 ดอลลาร์ก็ถือว่ายังพอรอดไป

Antminer S9: สำหรับเครื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นรุ่นในตำนานของ AISC เลยก็ว่าได้เนื่องจากได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

ตัวเลือกในการขุด Ethereum  

ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่าง Susquehanna เปิดเผยว่ากำไรจากการขุดด้วยอุปกรณ์ GPU ลดลงเหลือศูนย์ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน Bitmain บริษัทชั้นนำด้านเครื่องขุดได้มีการออกเครื่องขุดใหม่ขึ้นมานาม E3 ASIC ซึ่งเป็น ASIC รุ่นแรงที่ถูกออกแบบมาเพื่อขุด Ethereum ทำให้หลาย ๆ คนเป็นกังวลอย่างมากโดยเฉพาะคนในชุมชนเรื่องจากว่าจะเป็นการผูกขาดการซื้อขายกับ Bitmain เจ้าเดียว

เมื่อหากเปรียบเทียบกันแล้วระหว่าง GPU กับ ASIC มีสิ่งหนึ่งที่ GPU ได้เปรียบเป็นอย่างมากนั้นก็คือเรื่องของราคาที่จะขายต่อ เนื่องจากว่า ASIC E3 ถูกออกแบบมาเพื่อขุด  Ethereum เท่านั้นและหมายความว่าเมื่อมันล้าสมัยไปแล้วการขายต่อก็จะเป็นไปได้ยากมาก ๆ แตกต่างจาก GPU ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นที่หลากหลายกว่านั่นเอง

การขุด ZenCash, Zcash และเหรียญอื่น ๆ ที่ใช้ Equihash

ย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เหรียญ Zcash (ZEC) กลายเป็น cryptocurrency ที่ทำกำไรได้มากที่สุดซึ่งสามารถทำกำไรได้ถึง 400 เปอร์เซ็นต์มากกว่า Bitcoin และสกุลเหรียญอื่น ๆ ที่ใช้ Proof of Work (PoW) โดยนักขุดสามารถสร้างผลตอบแทน (ROI) ได้มากถึง 8,000 ดอลลาร์ด้วยมินิ Antminer Z9 ในเวลา 2 ปีในขณะนั้น

ASICminer Zeon 180K เป็นเครื่องขุดที่ได้สมญานามว่าเป็นอีกหนึ่งในเครื่องที่ดีในตลาดด้วยกำลังขุดที่ทำได้มากถึงวันละ 10 ZCASH โดยมีปริมาณ Hashrate อยู่ที่ 180 Ksol/s นอกเหนือไปจากนี้แล้วมันยังเป็นเครื่องรุ่นแรกที่มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและถูกใช้อย่างกว้างขวาง ซึ่งนั้นหมายความว่าคุณจะแทบไม่ได้ยินเสียงมันทำงานจนเหมือนมันไม่ได้ทำงานอยู่เลย (ซึ่งจริง ๆ แล้วมันทำงานตลอดเวลา) และระหว่างที่เรากำลังเขียนบทความนี้อยู่เครื่องขุด ASICminer Zeon 180K  ก็ให้ผลตอบแทนได้ดีเป็นอันดับที่ 2 ของตลาดเลยทีเดียว

แน่นอนว่าด้วยประสิทธิภาพที่ดีขนาดนี้ใคร ๆ ก็อยากที่จะจับจองมันเพื่อให้ได้กำไรที่ดีที่สุดทำให้ราคาของเจ้าเครื่อง ASICminer Zeon 180K พุ่งขึ้นไปสูงถึง 20,000 ดอลลาร์ต่อเครื่อง และหลาย ๆ คนยังคาดว่ามันจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าการต้องนำเงินไปแยกซื้อ Bitmain Antminer Z9s หลาย ๆ ตัว ทว่ายังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญก็คือการขัดขวางไม่ให้ Bitmain เป็นเจ้าที่ผูกขาดนั้นเอง

Decred หรือ SiaCoin?

MicroBT Whatsminer D1 นี่คือหนึ่งในเครื่องขุดประเภท ASIC ที่ทรงพลังที่สุดซึ่งมีพลังในการขุด ที่น่าตื่นตาที่ 48th / s มันใช้อัลกอริทึม Blake256R14 ซึ่งหมายความว่า Decred (DCR) เป็นสกุลเงินเดียวที่คุณสามารถขุดด้วยฮาร์ดแวร์นั้นได้

หากคำนึงถึงราคาไฟฟ้าโดยเฉลี่ย (3.84 บาทต่อ กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง) เจ้าเครื่อง MicroBT Whatsminer D1 เป็นหนึ่งใน ASICs เพียงไม่กี่เครื่องที่ยังคงสามารถทำกำไรได้ในช่วงตลาดขาลงที่คาดว่าจะยังอยู่ไปอีกยาวนานในโลกของคริปโต

Obelisk SC1 อีกหนึ่งในเครื่องขุดมูลค่า 4,000 ดอลลาร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการขุด Siacoin (SC) เป็นเครื่องขุดที่ทำกำไรได้มากที่สุดในตอนนี้ ซึ่งสามารถสร้างรายได้สูงถึง $ 20.69 ต่อวันเลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับราคาของเหรียญในขณะนั้นด้วย)

เพิ่มศัพยภาพของ CPU คุณเพื่อขุด altcoins

ความจริงแล้วนั้นการขุดด้วย CPU ได้รับความนิยมที่น้อยลงตั้งแต่ปี 2010 ที่ผ่านมาแต่ทว่ายังมีเหรียญคริปโตอีกมากมายที่สามารถขุดได้ทั้งบน CPU และ Laptop ของคุณ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Monero (XMR) อีกหนึ่งในเหรียญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดกับพวกขโมยขุดคริปโต Crypojacke ถึงยังใช้วิธีติดตั้งบนคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ้คเพื่อขุดอยู่นั้นเอง

Monero เป็นอีกหนึ่งเหรียญสำคัญเพียงเหรียญเดียวก็ว่าได้ที่สามารถขุดและทำกำไรกับ CPU ในปี 2018 เนื่องจากความต้องการที่จะต่อต้าน ASIC อย่างไรก็ตามวิธีใช้ CPU อาจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับ GPU เนื่องจาก CPU อาจจะไม่ให้ผลตอบแทนที่ดีหากต้องทำเป็นเวลาหลายเดือน

ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุดในการขุด Monero ด้วยแล็ปท็อปของคุณ (แม้ว่าจะมี Intel Core i7 9700K ที่ยอดเยี่ยม) หากให้เราแนะนำ เนื่องจากพวกมันอาจจะร้อนง่ายเกินไป

AEON เป็นอีกหนึ่งที่น่าสนใจในบรรดาเหรียญที่เป็นมิตรกับ CPU มากที่สุดเนื่องจากอัลกอริทึมของ CryptoNight-light PoW

ในขณะที่ Bitmain ผู้ผลิต ASIC ชั้นนำกำลังดิ้นรนที่จะโฆษณาชวนเชื่อ IPO ของตัวเอง แต่หารู้ไม่ว่า การขุดด้วย CPU กำลังจะกลับมาอีกครั้ง อัลกอริทึม VerusHash 2.0 ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2018 คาดว่าจะเป็นอัลกอริทึมการขุดซีพียูที่เร็วที่สุดในโลกอ้างอิงจากตามการโพสต์บล็อกของทีมนักพัฒนา

มือถือก็ขุดได้

อีกหนึ่งวิธีในการขุด crypto นั้นก็คือการขุดด้วยสมาร์ทโฟนของคุณ มีเหรียญมากมายที่คุณสามารถใช้มันขุดได้ โดยหนึ่งในนั้นคือ Electroneum

Electroneum (ETN) เป็น cryptocurrency ที่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2017 มันเป็นเหรียญที่ถูกสร้างมาเพื่อช่วยผู้ทไม่มีเงินซื้อเครื่อง ASIC โดยใช้อัลกอริธึม Cryptonite-light ดังกล่าวข้างต้น วิธีการทำงานนั้นง่ายมาก – คุณเพียงต้องดาวน์โหลดแอพ Android เพื่อเริ่มการขุดเหรียญดังกล่าวเท่านั้นเอง

แน่นอนว่าการขุดด้วยโทรศัพท์ดูจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการขุด Bitcoin เนื่องจากมันต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าคุณจะขุดได้เศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของ 1 BTC อย่างไรก็ตามหากย้อนกลับไปในปี 2017 C-Lab ทีมวิศวกรจากซัมซุงได้คิดค้นวิธีที่สร้างสรรค์ในการใช้ Galaxy S5 เก่าโดยการสร้างริกขุด Bitcoin ขึ้นมา แต่มันก็เป็นแค่กิมมิคสนุก ๆ เท่านั้น

ตลาดการขุด cryptocurrency นั้นเต็มไปด้วยฮาร์ดแวร์ทุกประเภทตั้งแต่สมาร์ทโฟนเครื่องเก่าไปจนถึงเครื่องขุดระดับตำนานอย่าง ASIC ที่ทรงพลังและมีราคาสูงถึง $20,000 และเป็นทางเลือกให้กับคุณในการเข้ามาเป็นส่วนนึงได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกแบบไหน

ที่มา: u.today

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น