<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รัฐบาลจีนกำลังเสนอให้มีการแบนการขุด Bitcoin ในประเทศโดยสมบูรณ์แบบ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่ประชาชนชาวจีนสามารถหาวิธีในการเข้าถึงโลกคริปโตผ่านเหรียญ stablecoin (เหรียญที่มีมูลค่าผูกกับเงินจริงแบบ 1:1) อย่างเช่น USDT และเว็บเทรดแบบ crypto-to-crypto ก็ได้มีข่าวออกมาเมื่อปีที่แล้วว่าทางรัฐบาลคอมมิวนิสต์กำลังหามาตรการใหม่ในการแบนการขุด แต่ทว่าภายหลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวใด ๆ จากทางรัฐบาลให้เห็นอีก และก็ไม่ได้มีการประกาศแบนการขุดคริปโตอย่างใด

ล่าสุดนั้น หน่วยงานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน (NDRC) ได้ออกมาเสนอให้มีการแบนการขุดเหรียญคริปโต โดยจะมีการเปิดฟังความคิดเห็นของของประชาชนซึ่งจะจบลงในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้

ซึ่งหากมีการบังคับใช้หลังจากปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว นั่นหมายความว่าการลงทุนทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการขุดเหรียญคริปโตนั้นจะถูกแบนหมด ไม่ว่าจะเป็นการผลิต, หรือการขายเครื่องขุดคริปโต ไปจนถึงการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนเหมืองอีกด้วย

ดังนั้น ผู้ผลิตเครื่องขุดเหมืองคริปโตรายใหญ่อย่าง Bitmain อาจได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรุนแรง และอาจเป็นการเปิดโอกาสให้คู่แข่งในประเทศสหรัฐฯ, แคนาดา และไอซ์แลนด์ สามารถก้าวขึ้นมาเป็นที่หนึ่งแทนก็ได้

และก็เช่นกัน เราอาจจะได้เห็น ‘การอพยพครั้งใหญ่’ ของนักขุดเหมืองคริปโตจากจีน ไปยังประเทศใกล้เคียงอย่างกัมพูชาม เวียดนาม หรือไทยเรานี้เอง

“ตลาดการขุด Bitcoin นั้นจะไม่ถูกผูกขาดโดยกลุ่มนายทุนในจีนอีกต่อไป แต่จะมีความเป็น decentralzied มากขึ้น” กล่าวโดยนาย Michael Zhong นักวิเคราะห์จากบริษัทด้านการวิจัยคริปโตจากปักกิ่ง

กลุ่มนักลงทุนในจีนเริ่มหันมาให้ความสนใจใน Bitcoin ตั้งแต่ปี 2013 ตั้งแต่ตอนที่ประเทศของพวกเขาเริ่มมีการปฏิวัติดิจิทัล ซึ่งบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Baidu, Alibaba, Tencent และอื่น ๆ ต่างก็ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำตลาดโลกในขณะนั้น ด้วยการประกาศรับ Bitcoin เป็นช่องทางการซื้อขายสินค้า โดยภายหลังจากนั้นราคาของมันก็ได้พุ่งขึ้นแตะ 1,200 ดอลลาร์ ก่อนที่ทางรัฐบาลจีนจะประกาศแบนในภายหลังจากนั้น จนทำให้ราคาร่วง

ภายในปี 2017 ช่วงตลาดขาขึ้นของ Bitcoin อีกรอบหนึ่ง รัฐบาลจีนก็ประกาศแบนมันอย่างจริงจังมากขึ้น ด้วยการออกคำสั่งให้ปิดตัวเว็บกระดานซื้อขายคริปโตในประเทศทั้งหมด จนทำให้เว็บเทรดใหญ่ ๆ ในประเทศในขณะนั้นอย่าง BTC China, OKCoin, Huobi และอื่น ๆ อีกมากมายต้องปิดตัวลง บางส่วนก็ต้องย้ายออกไปนอกประเทศเพื่อเอาธุรกิจของตัวเองให้รอด

แต่ทว่าการขุดนั้นก็ยังสามารถดำเนินการมาได้เรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันในตอนนี้ จนกระทั่งมีการเสนอการแบนมันเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราก็ต้องดูกันต่อไปว่าความเกลียดชังของรัฐบาลจีนต่อเทคโนโลยีที่มีความเป็น decentralized สูงอย่าง Bitcoin และการขุดนั้น หากเทียบกับความต้องการของผู้ที่อยากรวยในประเทศแล้ว อะไรกันแน่ที่จะชนะ

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น