อิหร่านกับสวิตเซอร์แลนด์ยังคงซื้อขายกันได้โดยใช้คริปโต แม้จะถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร

ดูเหมือนว่าอิหร่านนั้นกำลังพิจารณาใช้เหรียญ cryptocurrency เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรจากทางรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วยการที่สกุลเงินเหรียญดิจิทัลนั้นมีความสามารถในการโอนหากันได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง และให้อิสระต่อผู้ใช้งานสูง ทำให้ประเทศอิหร่านที่เป็นศัตรูกับสหรัฐฯมานานจึงได้ประโยชน์จากตรงนี้ไป

ในขณะเดียวกันบริษัทหลาย ๆ แห่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็กำลังรอคอยทางรัฐบาลของพวกเขาให้ออกกฎหมายในด้านดังกล่าวมา โดยนาย Simon Fundel หรือประธานของหอการค้าสวิส – อิหร่านกล่าวว่าเขาคาดหวังที่จะ “ทำธุรกรรมระหว่างประเทศสวิตฯกับอิหร่านเป็นธุรกรรมแรกได้ในอีก 3-4 เดือน”

การแบนดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศคว่ำบาตรประเทศอิหร่าน ซึ่งทำให้บริษัทหลาย ๆ แห่งทั้งในสองประเทศต้องประสบปัญหาในการทำธุรกิจร่วมกัน

ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้ออกมารายงานไปแล้วว่า SWIFT หรือผู้ให้บริการด้านการโอนเงินระดับโลกได้ออกมาแบนประเทศอิหร่าน จึงทำให้ไม่มีใครสามารถโอนเงินเข้าออกอิหร่านผ่านระบบธนาคารได้ ซึ่งนาย Mike Pompeo เลขาธิการของสหรัฐฯ ถึงกับออกมาขู่ว่าหากผู้ให้บริการคนใดไม่ยอมทำตามกฎของการคว่ำบาตร พวกเขาจะเจอโทษสถานหนัก

แต่ภายหลังจากนั้นไม่นานทางอิหร่านก็ออกมาตอบโต้ด้วยการออกมาประกาศว่าจะสร้างเหรียญของตัวเองเพื่อตอบโต้ทาง SWIFT ในการออกมาแบนประเทศอิหร่าน

“เหรียญนี้ไม่สามารถทดแทน Bitcoin ได้ เนื่องจากว่ามันมีความเป็น centralized แต่การมีขึ้นของเหรียญนี้จะไม่มีพิษภัยแน่นอน” กล่าวโดยนาย Yashar Rashedi นักพัฒนา Blockchain จากบริษัทในอิหร่าน Radfa ให้สัมภาษณ์กับ Al Jazeera นาย กล่าวต่อในขณะนั้นว่า

“แม้ว่า CBDC (เหรียญคริปโตที่ถูกออกโดยธนาคารกลาง) นั้นจะไม่ถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางในหมู่คนธรรมดาทั่วไป แต่มันอาจจะช่วยเหลือบริษัทสตาร์ทอัพใหม่ ๆ ในแง่ของฟีเจอร์ ที่จะให้พวกเขาสามารถทำการทดสอบระบบ API ของธนาคารได้”