เว็บผู้ให้บริการซื้อขายเหรียญ cryptocurrency ที่เก่าแก่ที่สุด Bitfinex อาจจะออกเหรียญโทเค็นประจำเว็บเทรดที่เหมือนกับ BNB ของ Binance อ้างอิงจากผู้ถือหุ้นในบริษัท
นาย Dong Zhao หรือนักเทรดเหรียญคริปโตในจีน ผู้ที่ถือหุ้นส่วนหนึ่งของบริษัท Bitfinex ได้ออกมาประกาศบน Weibo ว่าทางเว็บเทรดดังกล่าวนั้นกำลังวางแผนที่จะออกเหรียญเป็นของตัวเอง แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดถึง 100% ก็ตาม
ก่อนหน้านี้ทาง Bitfinex นั้นถูกสำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์คกล่าวโทษว่าทาง Bitfinex นั้นได้ทำเงินของลูกค้าและบริษัทรวมกันสูญหายไปกว่า 850 ล้านดอลลาร์ และนี่คือสิ่งที่คอนเฟิร์มได้ในขณะนี้
นอกจากนี้ทางสำนักงานอัยการยังได้กล่าวว่าทาง Bitfinex นั้นได้ทำการดัลกับทางบริษัท Tether อย่างลับ ๆ เพื่อให้พวกเขาเสกเหรียญ USDT มาโปะจำนวนเงินที่สูญหายไป
แต่อย่างไรก็ตาม ภายหลังทาง Bitfinex ออกมากล่าวว่าจำนวนเงินที่สูญหายไปกว่า 850 ล้านดอลลาร์นั้น ถูกยึดไปโดยหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง และพวกเขากำลังหาทางนำมันกลับคืนมา
ที่น่าสนใจคือนาย Zhao นั้นกล่าวว่าทางเขาเป็นผู้แนะนำให้ Bitfinex ออกเหรียญโทเค็นเป็นของตัวเอง โดยเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เขาได้ออกมากล่าวใน Weibo ของเขาว่า Bitfinex ควรที่จะหาโอกาสในการออกเหรียญโทเค็นจำนวนมูลค่า 850 ดอลลาร์เพื่อให้เหรียญ Tether นั้นมีจำนวนเท่ากับที่ถูก freeze ไว้ และทางผู้ที่เข้าร่วมซื้อ ก็จะได้เหรียญโทเค็นกลับไป
เขาให้สัมภาษณ์กับทาง Coindesk ว่าทางผู้ใช้งานจะ “สามารถนำเหรียญโทเค็นไปแลก เพื่อให้ได้สภาพคล่องที่ดีกว่า เพราะมันเป็นเหรียญโทเค็นจริง ๆ ที่ไม่ใช่ shitcoin”
“การออกเหรียญที่ว่านี้อาจจะเหมือนกับการออกเหรียญโทเค็นของเว็บอื่น ๆ โดยเราจะทำการแจกจ่ายเหรียญผ่านระบบแพ็คเกจค่าธรรมเนียมการซื้อขาย” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันใช้งานได้จริง
กระนั้นนาย Zhao ก็กล่าวว่าตัวเขานั้นยังคงมีความเคลือบแคลงใจปนกันไป โดยตั้งคำถามถึงบริษัทที่เขาลงทุนไปว่าจะสามารถนำเงินที่ถูก freeze ไว้กลับคืนมาได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีทุก ๆ คนที่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว โดยผู้ใช้งานรายหนึ่งออกมากล่าวว่า
“ทาง Bitfinex ไม่ได้บอกไว้หรอว่าจำนวนเงินที่ว่าสามารถนำกลับมาได้ ดังนั้นมันก็ไม่จำเป็นต้องมีแผนอื่น ๆ มาสำรองแล้ว แต่ถ้าพวกเขาออกเหรียญโทเค็นมาเพื่อ swap หนี้ให้เป็นหุ้น นั่นหมายความว่าจำนวนเงินนั้นคงหายไปจริง ๆ และชื่อเสียงของแพลทฟอร์มก็จะหายตามไปด้วย”
ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าทาง Bitfinex จะออกมาแก้ไขวิกฤตนี้ได้อย่างไร
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น