หนึ่งในเหตุการณ์ครั้งสำคัญของวงการ cryptocurrency ที่ทำให้นักลงทุนหลาย ๆ คนกำลังให้ความสนใจอย่างมากในตอนนี้ก็คือการยื่นคำขอ Bitcoin ETF ของ VanEck/SolidX ต่อทาง ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) โดยคำขอดังกล่าวได้ถูกลงทะเบียนบนแพลทฟอร์ม Federal Register ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งทำให้ทาง SEC มีเวลาทั้งหมด 90 วันในการตัดสินใจ และวันที่พวกเขาต้องออกมาประกาศว่าจะอนุมัติหรือไม่นั้นก็คือวันที่ 21 พฤษภาคม
วันที่ 21 พฤษภาคม วันสำคัญของ Bitcoin
มหากาพย์ของคำขอ Bitcoin ETF ของ VanEck/SolidX นั้นกินเวลายืดเยื้อมาหลายเดือนมาก โดยเมื่อปีที่แล้วคำขอของพวกเขานั้นได้ถูกเพิกถอนไปอีกรอบหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยถูกทาง SEC ยืดเยื้อมานานด้วยสาเหตุหลายอย่าง อย่างไรก็ตามภายหลังจากนั้นไม่นาน ทาง VanEck/SolidX ก็ได้ยื่นคำขอของพวกเขาอีกครั้ง ถือเป็นการสร้างความหวังให้กับนักลงทุนคริปโตในสหรัฐฯอีก และเชื่อว่า Bitcoin ETF จะมาเป็นตัวดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาในตลาดคริปโต และจะผลักดันราคาให้สูงขึ้นไปอีก
แบบคำขอดังกล่าวถูกนำขึ้นบนแพลทฟอร์ม Federal Register เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งทาง SEC นั้นมีเวลา 90 วันหลังจากนั้นในการตัดสินใจว่าจะอนุมัติ, ปฏิเสธ, หรือยืดเยื้อไปอีก นอกจากนี้ยังมีคำขอ Bitcoin ETF ของ Bitwise ที่ถูกยื่นลงบนแพลทฟอร์มดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วย แต่ภายหลังก็ถูกเลื่อนออกไปอีก 90 วัน ตามประกาศเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา และในวันพรุ่งนี้คือวันตัดสินของ VanEck/SolidX
โดยอ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายในวงการคริปโต นาย Jake Chervinsky เขาได้ออกมากล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ว่าโอกาสในการถูกเลื่อนหรือปฏิเสธนั้นสูงกว่าโอกาสในการอนุมัติเสียอีก
0/ This is no time for ETF hopium. If the SEC doesn’t delay the VanEck bitcoin ETF proposal, the most likely result is rejection, not approval.
The SEC delayed Bitwise last week, but still hasn’t made a decision on VanEck. Here’s why that’s a bad sign for ETF bulls.
Thread ?
— Jake Chervinsky (@jchervinsky) May 19, 2019
การคาดคะเนของเขามาจากการที่ทาง SEC นั้นควรจะต้องใช้ช่วงเวลาทั้งหมด 240 วันทั้งหมดตามที่กฎหมายเอื้ออำนวยในการพิจารณาอนุมัติ Bitcoin ETF ยิ่งไปกว่านั้นเขายังค้นพบว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกมากที่ทาง SEC ไม่ได้เลื่อนการอนุมัติคำขอของ VanEck ไปพร้อม ๆ กับของ Bitwise
นาย Jake ยังได้กล่าวถึงเหตุผลในการที่คำขอของ Bitwise นั้นถูกเลื่อนออกไป ซึ่งประกอบด้วย
- สภาพโดยรวมของตลาด Bitcoin
- ประสิทธิภาพของตลาด
- การที่ตลาดนั้นถูกปั่นราคาได้โดยง่าย
- การที่ตลาด Bitcoin นั้นมีความคล้ายคลึงกับตลาดโภคภัณฑ์อื่น ๆ
- รายงานที่เผยออกมาว่ามีโวลลุ่มการซื้อขายจำวนมากที่เป็นของปลอม
นาย Jake ชี้ว่าถ้าหาก VanEck มีโอกาสจะได้รับอนุมัตินั้น นั่นหมายความว่าทาง SEC “จะต้องทำการเลื่อน และถามคำถามเหล่านี้ต่อพวกเขาเช่นเดียวกัน”
สิ่งนี้จะส่งผลต่อ Bitcoin อย่างไร
อย่างไรก็ตามหากพูดกันตรง ๆ แล้ว ทางกลุ่มชุมชนคริปโตก็ยังไม่มีใครรู้ว่า Bitcoin ETF นั้นหากได้รับอนุมัติหรือปฏิเสธแล้วมันจะส่งผลต่อราคาของ Bitcoin มากน้อยขนาดไหน
นาย Josh Roger หรือนักลงทุนคริปโตชื่อดังได้ออกมาทำนายถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อราคาของ Bitcoin โดยเขาชี้ว่ามันจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาของ Bitcoin แน่นอน ซึ่งมันประกอบไปด้วย
- ถูกปฏิเสธ = ราคาจะมีการร่วงเพื่อปรับฐาน ไม่ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมากราฟจะดูดีขนาดไหนก็ตาม
- ได้รับอนุมัติ = ส่งผลทำให้ราคาพุ่งไปทำจุดสูงสุดในรอบปี และทำให้เกิดการแห่กันซื้อแบบ FOMO
- เลื่อน = เป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ และไม่มีผลกระทบอะไรมากนัก
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น