ผู้ก่อตั้ง Gokhshtein Magazine นาย David Gokhshtein ได้โพสต์ลงทวิตเตอร์ของตนเองเผยว่า Ripple ( XRP) จะเข้ามาครองระบบการเงินของโลกเพราะเทคโนโลยีของ Ripple ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกและสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เข้าถึงได้โดยธนาคารไม่จำเป็นต้องสร้างระบบ Blockchain ของตนเองที่มันทั้งกินเวลาและมีค่าใช้จ่ายสูง
โดยนาย David Gokhshtein ได้โพสต์ว่าการที่ธนาคารตัดสินใจเข้าร่วมมือกับ Ripple นั้นมันมีต้นทุนต่ำกว่าการที่ธนาคารต้องสร้างเหรียญคริปโตของตนเอง
It costs the banks less to partner up with $XRP than it does for banks to create their own #crypto.
— David Gokhshtein (@davidgokhshtein) May 19, 2019
นอกจากนี้เค้ายังโพสต์ต่อไปอีกว่ามันง่ายกว่ามากที่ธนาคารจะนำผลิตภัณฑ์ที่ถูกทดสอบแล้วมาใช้งานเลยดีกว่าต้องไปสร้างเหรียญแล้วทดสอบระบบเอง
Facebook could have develop their own Instagram. Instead, they bought the project.
Point being, it’s easier to just partner up with something that’s already tested and proven to work.
— David Gokhshtein (@davidgokhshtein) May 19, 2019
ทาง Ripple เองก็ออกตัวว่าผลิตภัณฑ์ของตนนั้นมาแทนที่ระบบ SWIFT ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สำหรับการโอนเงินข้ามประเทศในปัจจุบัน ซีอีโอของ Ripple นาย Brad Garlinghouse ก็ได้เข้าไปพูดคุยกับบุคคลภายในของระบบการเงินโลกรวมถึงประธานผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศนาย Christine Lagarde เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ Ripple จะเข้ามาแทนที่ระบบ SWIFT เป็น SWIFT 2.0
นอกจากนี้นาย David Gokhshtein ยังได้พูดถึงประเด็นสำคัญว่าสถาบันการเงินและธนาคารจะไม่หายไปเพราะเทคโนโลยีแน่นอน เพราะสถาบันเหล่านี้สามารถพัฒนาตนเองให้เข้ากับเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันไปได้เรื่อย ๆ และ Ripple ก็มองว่าตนนั้นได้เข้ามาปฏิวัติระบบการโอนเงินข้ามประเทศแต่ก็ลดช่องว่างระหว่างระบบแบบเดิมและระบบใหม่ให้ก้าวตามทันกันได้
bottom line: banks aren’t going to fade out. they will always find a way to adapt to the current environment.
that being said; @ripple has the perfect system in place for them and that’s why most of them are teaming with them. $XRP #SundayThoughts
— David Gokhshtein (@davidgokhshtein) May 19, 2019
นอกจากนี้นาย David Gokhshtein ยังได้พูดถึงประเด็นสำคัญว่าสถาบันการเงินและธนาคารจะไม่หายไปเพราะเทคโนโลยีแน่นอน เพราะสถาบันเหล่านี้สามารถพัฒนาตนเองให้เข้ากับเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันไปได้เรื่อย ๆ และ Ripple ก็มองว่าตนนั้นได้เข้ามาปฏิวัติระบบการโอนเงินข้ามประเทศแต่ก็ลดช่องว่างระหว่างระบบแบบเดิมและระบบใหม่ให้ก้าวตามทันกันได้
ที่มา investinblockchain
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น