<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เชี่ยวชาญเผย Tether (USDT) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin จาก $4,000 สู่ $13,800

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักวิเคราะห์บนทวิตเตอร์รายหนึ่งเชื่อว่าเหรียญ USDT ของ Tether นั้นถูกใช้เพื่อปั่นราคาจากระดับ 4,000 ดอลลาร์สู่ 13,800 ดอลลาร์

Bitcoin นั้นไม่ใช่เงินที่ปลอดภัย

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งนามว่า Andrew Rennhack ได้ออกมาคาดการณ์ว่าการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin จากระดับ 4,000 ดอลลาร์มาที่ 13,800 ดอลลาร์นั้นถูกปั่นโดยเหรียญ USDT ของ Tether ที่ถูกเสกออกมาเป็นจำนวนมาก โดยอ้างอิงจาก Rennhack เขากล่าวว่า Bitcoin ไม่ใช่ “เงินที่ปลอดภัย” อีกต่อไป เนื่องจากว่าตลาดเหรียญคริปโตทั้งตลาดนั้นกำลังตั้งอยู่บนเหรียญที่ไม่มีความโปร่งใสอย่าง USDT

ที่น่าสนใจคือนาย Rennhack นั้นอ้างว่าการพิมพ์เหรียญ USDT ของ Tether นั้นจะทำให้ “FED นั้นต้องถึงกับอาย” พร้อมชี้ว่ามันไม่น่าจะมีเหตุผลอื่นอีกแล้วที่ทำให้ราคาของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นมาได้ขนาดนี้ และเขายังกล่าวต่ออีกว่ามันไม่เกี่ยวกับการที่ “นักลงทุนที่รีบเข้ามาซื้อ Bitcoin” เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นแต่อย่างใด

ทฤษฎีสมคบคิดที่มีมานาน

นาย Rennhack นั้นไม่ใช่บุคคลแรกที่คาดากรณ์ว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของมูลค่าตลาดรวมของ Tether นั้นส่งผลกระทบต่อราคาของ Bitcoin โดยตรง แต่ก่อนหน้านี้ก็มีนักวิเคราะห์หลายรายที่ออกมากล่าวในลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาอีกด้วย

ตั้งแต่ตอนเริ่มเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีเหรียญ USDT จำนวนกว่า 750 ล้านดอลลาร์ที่ถูกเสกขึ้นมา และแต่ละครั้งที่มันถูกสร้างออกมานั้น มันมักจะตามมาด้วยการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin เสมอ

นาย Will Harbourne หรือผู้ก่อตั้งเว็บ Ethfinex อธิบายว่า

“เมื่อคุณลองดูจำนวนการเสกเหรียญ Tether ที่ผ่านมานั้น มันหมายความว่ามีลูกค้ากระเป๋าหนาจำนวนมากที่ที่ได้พรีออเดอร์เหรียญ USDT ล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก จากนั้นการร่วงลงของราคาในตลาดมักจะเกิดขึ้นก่อนการเพิ่มขึ้นของราคา การซื้อเหรียญ USDT เป็นจำนวนหนึ่งยังส่งผลทำให้นักลงทุนกระเป๋าหนาสามารถซื้อขายบนเว็บกระดานซื้อขายคริปโตที่มีสภาพคล่องสูงมาก และไม่มีการแลกออกมาเป็นสกุลเงินธรรมดา”

นักลงทุนนั้นจะต้องสั่งซื้อเหรียญ Tether ขั้นต่ำที่ 100,000 ดอลลาร์ ถึงจะสามารถกดซื้อจากเว็บไซต์ของ Tether ได้โดยตรง

นักลงทุนในวงการคริปโตส่วนใหญ่มักจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า WhaleBot เพื่อรับการแจ้งเตือนการทำธุรกรรมบน blockchain ที่มีจำนวนโวลลุ่มมหาศาลอย่างเช่นจาก USDT เพื่อคาดการณ์ถึงความผันผวนของตลาดเหรียญ Bitcoin ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีเหรียญ USDT จำนวนประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ถูกเสกออกมา และมีคนเชื่อว่า USDT เหล่านี้อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin จากระดับ 8,500 ดอลลาร์สู่ 11,000 ดอลลาร์ โดยเฉพาะนาย Harborne ที่เชื่อว่าตัวอย่างดังกล่าวนั้นถือเป็นหลักฐานอย่างดีที่ว่า Tether เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปั่นราคาของ Bitcoin และเขาก็ยังได้หยิบยกงานวิจัยมารองรับมันอีกด้วย

ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย

ผู้ติดตามบนทวิตเตอร์ของนาย Rennhack บางคนนั้นดูเหมือนว่าจะไม่เห็นด้วยกับเขาสักเท่าไร โดยเฉพาะนาย Nick Core ที่กล่าวว่า

“เกี่ยวกับเหรียญ Tether และปัญหาของพวกเขาที่ผมไม่อยากจะมาเถียงด้วย คือคุณไม่สามารถกล่าวได้ว่าสาเหตุที่ราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับจำนวนการเข้ามาในตลาดของ Tether ได้ คือว่ามูลค่าตลาดรวมของ USDT นั้นเพิ่มขึ้นมาจาก $1.8 พันล้านสู่ $4 พันล้าน มันไม่สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของมูลค่าตลาดของ Bitcoin ที่เพิ่มจาก $5.6 หมื่นล้านสู่ $1.98 แสนล้าน นี่มันคือ FUD ชัด ๆ”

งานวิจัยจาก JP Morgan เมื่อปี 2017 ดูเหมือนว่าจะช่วยส่งเสริมการกล่าวของนาย Rennhack ได้อย่างดี โดยเผยว่ามูลค่าตลาดรวมคริปโตนั้นได้เพิ่มขึ้นถึง 50 เท่า

โดยอางอิงจากนาย Rennhack นั้น เหรียญ USDT จำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ได้ถูกเสกขึ้นมาแล้วเพียงเฉพาะแค่ในปี 2019 นี้ปีเดียว และ Bitcoin นั้นก็มีส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุด โดยอยู่ที่ 67%

ตัวเลขมูลค่าตลาด Bitcoin วิ่งตามของ Tether

กราฟอีกหนึ่งกราฟที่น่าสนใจได้มีการเปรียบเทียบตัวเลขมูลค่าตลาดรวมของ Tether กับของ Bitcoin

หากลองพิจารณากราฟดังกล่าวให้ดีจะเห็นว่ามูลค่าตลาดของ Bitcoin นั้นมักจะไล่ตามหลังของ Tether เสมอ

แม้กระทั่งในขณะนี้มูลค่าตลาดของ Bitcoin นั้นก็ยังไม่สามารถไล่ตามของ Tether ได้ทัน และนักวิเคราะห์หลายคนก็เชื่อว่ากรณีนี้ช่วยรองรับทฤษฎีที่ว่าราคา Bitcoin จะเพิ่มขึ้นในระยะสั้น

เรื่องราวนั้นเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ

หลาย ๆ คนเชื่อว่าการที่ Tether พิมพ์เหรียญ USDT เข้ามาในตลาดคริปโตนั้นก็ไม่ต่างจากการปั่นราคาเท่าไรนัก ก่อนหน้านี้ศาลสูงสุดแห่งนิวยอร์คได้ออกมาไต่สวนคดีดังกล่าวแล้ว และนอกจากนี้ Tether ก็ต้องตกอยู่ในปัญหาจากการฟ้องร้องเกี่ยวกับการที่พวกเขาและ Bitfinex นั้นเปิดให้บริการอย่างผิดกฎหมายในนิวยอร์ค

ผู้เขียนบล็อกนาม Bitfinex’ed ที่คอยออกมาเปิดโปงการเคลื่อนไหวของ Tether อยู่บ่อย ๆ นั้นเชื่อว่า

“การออกเหรียญ Tether ของ Bitfinex เพื่อให้นักเทรดของพวกเขาใช้ปั่นตลาด, ทำการปั่นขึ้นแล้วก็ทุบ หลังจากนั้นก็จ่ายคืนให้กับ Tether ในภายหลัง”

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลฎีกาสูงสุดของนิวยอร์คได้ออกมาเลื่อนการตัดสินคดีดังกล่าว เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมอีกด้วย

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น