<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Bitcoin กำลังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เหมาะแก่การป้องกันความเสี่ยงสงครามเศรษฐกิจ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Chris Reinertsen หัวหน้าฝ่ายการตลาดของบริษัท Rhythm Technologies เพิ่งกล่าวว่า bitcoin จะได้รับการปฏิบัติในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (safe haven) โดยนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากสถานการณ์ตึงเครียดในปัจจุบัน

Reinertsen เปิดเผยกับ Forbes โดยเขาเชื่อว่าความคืบหน้าล่าสุดในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนระดับโลกและทำให้นักลงทุนหลายคนหันมาใช้ bitcoin เพื่อให้แน่ใจว่าเงินสดของพวกเขาจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย

เมื่อเร็ว ๆ นี้จีนได้ลดค่าเงินหยวนของจีน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ นี่คือการตอบโต้ของประเทศต่อนโยบายภาษีที่กำหนดเพิ่มขึ้นโดยการบริหารงานของนาย โดนัล ทรัมป์ การอ่อนค่าลงของสกุลเงินเห็นได้ชัดว่าจีนกำลังชดเชยผลกระทบบางส่วนจากภาษีที่เพิ่มขึ้น

การเคลื่อนไหวของตลาดเงินทุนได้ร่วงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางความกลัวว่าสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ทำให้บางคนหันไปถือครอง bitcoin

“มีเที่ยวบินของเงินทุนกำลังมุ่งไปสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยทั่วทุกมุมโลก ซึ่งรวมถึง Bitcoin ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นแนวโน้มของ Bitcoin เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการเคลื่อนไหวสัมพันธ์กันในระดับมหภาค เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น”

ตามธรรมชาติของกระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯ  จะมองว่าทองคำและเงินฟรังก์สวิสเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย แต่สำหรับ Bitcoin นั่นมันได้ถูกมองว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับบางคนที่เป็นส่วนหนึ่งบนเส้นทางของคริปโตเคอเรนซี่ที่เรียกว่า “gold 2.0”  Reinertsen ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ความสัมพันธ์นี้ยังไม่ได้ถูกกำหนดอย่างสมบูรณ์” บริษัทของเขากล่าวว่า bitcoin ได้ปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการชะลอตัวของตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ .

เขาเชื่อว่า “เราจะได้เห็นแหล่งเงินทุนบินไปยัง Bitcoin มากขึ้นในอนาคตอันใกล้” นักวิเคราะห์คนอื่น ๆ ก็เห็นด้วยเช่นเดียวกันกับ Reinersten ยกตัวอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ Don Steinbrugge ได้บอกกับ CNBC ว่า “บางคนใช้ bitcoin เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ”

Steinbrugge ซีอีโอของบริษัทที่ปรึกษา Agecroft แย้งว่า bitcoin “จะอยู่ที่นี่อีกนานและผมคิดว่าในระยะยาวมันจะเป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตการลงทุนของเฮดจ์ฟันด์”

Keith Hilden ผู้ก่อตั้ง Relex Capital เขาไม่ได้เข้าซื้อ bitcoin ในช่วงเวลาที่มันเพิ่มขึ้นมาซึ่งสัมพันธ์กันกับการลดค่าเงินหยวน เขาเปิดเผยกับ Forbes โดยเขาเชื่อว่าราคา BTC ที่เพิ่มขึ้นมานั้นเกี่ยวข้องกับการเก็งกำไรเนื่องจากตลาดกำลังพยายามหาจุดที่สมดุล

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น