มีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับมหาเศรษฐีผู้ที่ริเริ่มหลากหลายนวัตกรรมเพื่อเปลี่ยนโลกที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Elon Musk เพิ่งประกาศการสนับสนุน Andrew Yang ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ Yang หรือที่รู้จักกันในชื่อทางเลือกที่เป็นมิตรสำหรับ Bitcoin ในปี 2020 เขามีชื่อเสียงด้านนวัตกรรมด้วยจุดยืนที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเกี่ยวกับนโยบายรายได้ขั้นต่ำ , เน้นจุดสำคัญในการพูดคุยเกี่ยวกับ Blockchain และที่สำคัญเขายอมรับการบริจาคด้วยคริปโตเคอเรนซี่ แต่คงต้องรอดูกันต่อไปว่าผู้นำของ “Yang Gang” จะเป็นผู้สนับสนุนตัวยงของ Bitcoin ที่แสดงออกในเรื่องนี้อย่างเต็มที่และไม่มีผู้สมัครคนไหนที่สามารถทำได้ดีกว่าเขา

ผู้สมัครและคริปโต

น่าสนใจที่ Yang ไม่ได้เป็นผู้สมัครที่สนใจในคริปโตเคอเรนซี่เพียงผู้เดียว ผู้สมัครชิงตำแหน่งของพรรคประชาธิปัตย์นาย Eric Swalwell (ปัจจุบัน Swalwell ลาออกจากการเข้าชิงตำแหน่งแล้ว) ได้ประกาศในเดือนพฤษภาคมว่าจะรับเงินบริจาคเป็นสกุลเงิน BTC , BCH , BSV , ETH , XLM และ stablecoin ของ WSD ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกที่รับการบริจาคเป็น Bitcoin คือนาย Rand Paul ในปี 2015 และสำหรับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งของพรรคประชาธิปัตย์คือนาย Tulsi Gabbard ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Yang ก็ดูเหมือนจะลงทุนในคริปโตช่วงปี 2017 ด้วยเช่นกัน 

การวางตัวของ Yang ต่อ Bitcoin

ด้วยทวีตล่าสุดของ Elon Musk ที่ให้การสนับสนุน Yang Gang และข้อเสนอ Universal Basic Income (UBI) ของเขา โดยสื่อข่าวหลายสำนักรายงานว่า Musk กำลังสนับสนุนผู้สมัคร Pro-Bitcoin นาย Yang ได้ให้การสัมภาษณ์กับทาง Being Libertarian เมื่อเดือนมกราคมว่า :

“ผมคิดว่าเราควรมีสกุลเงินดิจิทัลของชาติที่คุณสามารถใส่เครดิตโซเชียลหรืออะไรก็ตามลงไปใน Blockchain”

ระบบโซเชียลเครดิตที่เขาพูดถึงอาจจะเป็นส่วนเสริมข้อเสนอของ UBI ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เมื่อเขาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เขายืนยันว่าอัตราภาษีจะยังคงเหมือนเดิมสำหรับทุกอย่าง บริการนี้มันเหมือนกับโครงการดูแลสุขภาพ ซึ่งเรื่องนี้ดูน่าสนใจเมื่อลองพิจารณาถึงเทรนด์ของโลกในช่วงนี้ที่มีการลดค่าเงินเป็นจำนวนมาก

ในด้านกฎระเบียบ คำแถลงการณ์นโยบายการรณรงค์ในปัจจุบัน เขายืนยันว่า“ กรอบการทำงานระดับชาติสำหรับการควบคุมสินทรัพย์คริปโตเคอเรนซี่ เหล่านี้ล้มเหลวไม่สามารถเกิดขึ้นจริงกับหน่วยงานรัฐบาลกลางหลายแห่งที่อ้างเขตอำนาจศาลที่ขัดแย้งกัน ในขณะเดียวกันรัฐต่าง ๆ ก็มีกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งทำให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลของสหรัฐ ฯ ยากที่จะแข่งขันกับประเทศในเขตอำนาจศาลอื่นโดยเฉพาะจีนและยุโรป”

ในการประชุม Facebook AMA เขาได้กล่าวอย่างละเอียดว่า :

“ผมเป็นแฟนตัวยงของเทคโนโลยี Blockchain  มันมีศักยภาพมากมาย ผมคิดว่าคริปโตเคอร์เรนซีนั้นพัฒนาไปไกลกว่าที่มันเป็น … Blockchain มีศักยภาพมหาศาล … มันสามารถช่วยสร้างรากฐานสำหรับสกุลเงินดิจิทัลทางสังคมที่ผมต้องการอย่างมาก”

Blockchain เสียงที่กำลังดังอยู่

นาย Yang ผู้ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีพยายามผลักดันการออกกฎหมายกำกับควบคุมคริปโตเคอร์เรนซีมาโดยตลอด เขาต้องการนิยามว่า “ โทเค็นคืออะไรและเมื่อไหร่มันถึงจะมีความปลอดภัย” เรียกร้องให้มีกรอบกำกับดูแลด้านกฎระเบียบที่ชัดเจน รวมถึงเขาพยามยามที่จะเรียกร้องให้มีการ “ชี้แจงผลกระทบด้านภาษีของการเป็นเจ้าของ , การขายและการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล” สำหรับผู้ที่สับสนในประกาศของ IRS ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนออกมา

น่าแปลกที่เขาไม่มีการตอบโต้ใด ๆ ต่อผู้ที่มีอคติต่อคริปโตอย่างประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งมันดูขัดกับภาพที่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นมิตรกับ Bitcoin หรือสิ่งที่คนอื่นกำลังพูดถึงคริปโตทั้งหมดส่วนใหญ่เขาจะไม่ออกเสียงใด ๆ  เขาเหมือนบอกคุณบางอย่างแต่ก็กลับไม่ทำตามที่พูด ไม่มีการต่อต้านนักการเมือง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ทำงานเป็นเสรีนิยมอะไรทำนองนั้น

มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เทคโนโลยี Blockchain อาจยังไม่ได้รับความสนใจมากพอ แม้แต่อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐนาย Ben Bernanke ก็ยังหาทางแบน Bitcoin เช่นเดียวกับประเทศจีนนาย Xi Jinping ก็หาช่องทางที่จะแบน Bitcoin เช่นกัน

อย่างไรก็ตามหลายคนใช้งาน Blockchain ด้วยจุดประสงค์อย่างอื่นที่ไม่ใช่แค่การขุดเหรียญ และประโยชน์ของมันมีไว้สำหรับชนกลุ่มน้อยตามที่ Satoshi เขียนไว้ใน Bitcoin whitepaper “ เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบเพียร์ทูเพียร์จะช่วยให้การชำระเงินออนไลน์สามารถส่งหากันโดยตรงจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่ต้องผ่านสถาบันการเงิน” และไม่ต้องมีกฎเกณฑ์ใด ๆ ทางคณิตศาสตร์

คำแถลงการณ์ของ Elon Musk และ ผู้สมัครคนอื่น ๆ

นอกจากนักการเมืองอย่างนาย Yang ที่สนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจนในนโยบายของเขา เราลองมาดูทัศนคติของคนอื่น ๆ ที่มีต่อคริปโตเคอร์เรนซีบ้าง

• Elon Musk: “ ผมไม่ได้ถือคริปโตอื่นไว้เลย ผมถือแค่ 0.25 BTC ที่เพื่อนส่งมาให้ผมเมื่อหลายปีก่อน” (กุมภาพันธ์ 2018) “ Dogecoin อาจเป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่ชื่นชอบของผม” (เมษายน 2019)
• Donald Trump (R): “ ผมไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Bitcoin และคริปโตเคอเรนซี่ตัวอื่น ๆ ซึ่งมันไม่ใช่เงินและมีค่าผันผวนอย่างมากและสร้างมันขึ้นมาจากกลีบเมฆ…” (กรกฎาคม 2019)
• John Delaney (D): “ คำปราศรัยของประธาน Giancarlo’s ในการประชุม DC Blockchain Summit ที่ได้รับการสนับสนุนโดยสภาหอการค้าดิจิทัลชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการแก้ปัญหาด้านกฎระเบียบทางเทคโนโลยี เราต้องการผู้นำที่มีความรอบรู้ในเรื่อง Blockchain” (มีนาคม 2019)
• Tulsi Gabbard (D): (อาจจะยังถือครองคริปโตอยู่แต่เขาก็ไม่ออกเสียงใด ๆ )
• John McAfee (L): “ เรากำลังสร้างสังคมที่ไม่มีการกีดกันในการเข้าถึงข้อมูล” (กันยายน 2018) “ Bitcoin อยู่ในช่วงกลางทศวรรษที่ 10 และผู้คนกำลังกังวล ทำไมคุณถึงใส่ใจกับความผันผวนรายสัปดาห์ ดู FFS ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาแล้วจะเห็นว่าราคามันเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผมยังคงมองในแง่บวกเกี่ยวกับราคา BTC ผมคิดมันจะไปแตะ 1 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2020 เหรียญ Altcoin บางเหรียญเช่น MTC และ Apollo มูลค่าของมันจะเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า” (กรกฎาคม 2019)

ทัศนคติเกี่ยวกับคริปโตข้างต้นเป็นคำพูด เล็ก ๆ น้อย ๆ และเป็นความคิดเห็นส่วนใหญ่ที่แสดงความรู้สึกออกมาอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับคริปโต จากผู้สมัครในปัจจุบัน โดยคำพูดของ McAfee ส่วนใหญ่พูดเกี่ยวกับ Blockchain, เทคโนโลยีพื้นฐานของคริปโตเคอเรนซี่และความต้องการในด้านกฎระเบียบ ในขณะที่สื่อข่าวหลายสำนักต่างชื่นชอบคำกล่าวของนาย Elon Musk ที่ให้การสนับสนุนผู้สมัคร Pro-Bitcoin หรือบางทีก็อาจเรียกว่าผู้สมัคร “pro-Blockchain”

ที่มา : news.bitcoin