<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สื่อนอกรายงาน แชร์ลูกโซ่คริปโตในจีนเป็นสาเหตุทำให้ราคา Bitcoin ร่วง 10% ในวันนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ท่ามกลางการร่วงลงของราคาเหรียญ Bitcoin และตลาดเหรียญ cryptocurrency อย่างรุนแรงในวันนี้ ที่ส่งผลทำให้ราคาของ BTC นั้นร่วงลงมาจากระดับ 5 หลักลงมาเหลือแค่ 4 หลักนั้น ดูเหมือนว่าจะมีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่าสาเหตุของการร่วงลงของราคานั้น มีสาเหตุมาจากธุรกิจแชร์ลูกโซ่ในจีนที่มีตัวเลขความเสียหายกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณเก้าหมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา นาง Dovey Wan หรือผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้านการลงทุนใน Blockchain นาม Primitive Ventures ได้ออกมาประกาศถึงการแย่งกันเทขายเหรียญคริปโตหลอกลวงในจีนเหรียญหนึ่ง นามว่า PlusToken

นักลงทุนกว่า 10 ล้านคนถูกฉ้อโกงกว่า 9 หมื่นล้านบาท

ตามที่ Wan ได้รายงานไปนั้น เหรียญ PlusToken ถูกสร้างขึ้นมาตอนช่วงกลางปี 2018 โดยได้มีการสัญญาผลตอบแทนต่อนักลงทุนเป็นจำนวนที่สูงมาก อีกทั้งยังมีการจ่ายผลรางวัลตามเปอร์เซนต์ ตามโมเดลแพคเกจการทุนอีกด้วย โดยภายหลังจากนั้นช่วงต้นปี 2019 โครงการดังกล่าวนั้นได้มีการอ้างว่ามีนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนโคนงการดังกล่าวกว่า 10 ล้านคน

Wan ได้หยิบยกเอาข้อมูลของกระเป๋าเก็บเหรียญทั้งหมด ซึ่งมีทั้ง Bitcoin (BTC), Ether (ETH) และ EOS ที่คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหรียญ PlusToken และได้เรียกร้องให้เว็บเทรดหลายแห่ง รวมถึงเว็บเทรดแบบ OTC ทำการ blacklist เหรียญดังกล่าว

Wan ได้กล่าวว่าทางตำรวจจีนนั้นกำลังไล่จับทีมผู้บริหารหลักของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ดังกล่าวอยู่เมื่อสองเดือนที่แล้ว พร้อมเผยว่านักลงทุนนั้นได้ถูกโกงไปกว่า 3 พันล้านดอลลาร์

โดยหากดู address เหล่านี้ จะเห็นว่ามีการแนบข้อมูลจากบริษัท audit และด้านความปลอดภัยนาม Peckshield ที่เผยให้เห็นถึงการเคลื่อนย้ายคริปโตจาก wallet ของ PlusToken ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งถือเป็นช่วงที่การเทขายนั้นเริ่มมีขึ้นมา

การเทขายอย่างรุนแรง

แม้ว่าจะถูกจับกุมตัวได้ แต่เหรียญคริปโตนั้นก็ไม่สามารถที่จะถูกตามคืนมาได้ โดย Wan อธิบายว่า

“Address Bitcoin เป็นจำนวนมากนั้นขึ้นต้นด้วย P2SH ซึ่งแปลว่ามันเป็น wallet แบบ multi-sig ซึ่งผู้คนที่ถือ key บางคนนั้นยังไม่สามารถถูกจับกุมได้ ดังนั้นตำรวจจึงไม่สามารถปลดล็อค wallet ได้ ส่วนในกรณี wallet ของ EOS/ETH นั้นมันแตกต่างออกไป แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้ทางตำรวจนั้นยังไม่สามารถที่จะติดตามเอามันคืนมาได้แต่อย่างใด”

Wan พยายามที่จะขอความช่วยเหลือจาก Peckshield และบริษัทด้านการวิเคราะห์ Blockchain อย่าง Chainalysis ให้ช่วยสอดส่องดูการเคลื่อนไหวของเหรียญที่ถูกขโมยไปอย่างใกล้ชิด ว่ามีการเคลื่อนย้ายไปเข้าเว็บเทรดอีกหรือไม่ เพื่อรับมือกับการเทขายอีกรอบ โดยก่อนหน้านี้มีการเคลื่อนย้ายเข้าไปทีละ 50-100 BTC เข้าไปในเว็บกระดานซื้อขาย

นักลงทุนคริปโตจีนหลายคนได้อ้างว่ามี address ที่ไม่ทราบที่มาได้ทำการเทขาย 100 BTC เข้าไปในเว็บ Binance ซึ่ง Wan คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับผู้บริหารแชร์ลูกโซ่ดังกล่าว

ตามที่เคยมีรายงานไปก่อนหน้านี้ ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ PlusToken นั้นถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างความเสียหายอย่างมากในปี 2019 อ้างอิงจากบริษัทด้านความปลอดภัยด้าน blockchain นาม CipherTrace ซึ่งได้ฉ้อโกงนักลงทุนไปเป็นมูลค่ากว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น