รายงานจากสำนักข่าวด้านการเงินอีไฟแนนซ์ไทย ได้ออกมาเผยว่าทาง ก.ล.ต. นั้นได้ออกมาประกาศเตรียมแก้ไขกฏระเบียบเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยวางไว้บนรากฐานของเทคโนโลยี Blockchain
โดยอ้างอิงจากนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ที่เผยในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า จะเสนอร่างกฏระเบียบให้กับคณะกรรมการ ก.ล.ต.พิจารณาแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมเป็นผู้ประกอบการ SME เและสตาร์ทอัพในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ที่น่าสนใจคือ ก.ล.ต. ร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จะเข้าร่วมงานสิงคโปร์ ฟินเทค เฟสติวัล 2019 ที่สิงคโปร์อีกด้วย โดยนางสาวรื่นวดีกล่าวว่า
“ธุรกิจเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ถือเป็นธุรกิจที่จะมีบทบาทผลักดันการเติบโตของประเทศอีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันมีการจ้างงานมากกว่า 14 ล้านราย หากสนับสนุนให้สามารถเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ต้องผลักดันให้เป็นรูปธรรม”
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปรับปรุงและแก้ไขกฏระเบียบ แต่ทุกขั้นตอนต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะการเปิดเผยข้อมูลและระบุความเสี่ยงให้ครบถ้วน
ยิ่งไปกว่านั้นทาง ก.ล.ต. ยังเตรียมหารือร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (บล.) เพื่อพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมโบรกเกอร์ โดยจะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นแบบดิจิทัลทั้งหมด (ดิจิทัล อินฟราสตรัคเจอร์) โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนเข้ามาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความสะดวก,รวดเร็วและทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งยังส่งผลดีต่อนักลงทุนและประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการในต้นทุนที่ถูกลง
โดยสรุปก็คือ ก.ล.ต. ได้นำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้ปรับปรุงตลาดหลักทรัพย์แบบดั้งเดิมเพื่อง่ายต่อการลงทุน สิ่งนี้จะทำให้เกิดความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนต่างชา่ติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตเราอาจจะได้เห็นสกุลเงินคริปโตเคอเรนซี่โลดแล่นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็เป็นไป
ขอบคุณรูปจาก ThaiPublica
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น