ดูเหมือนว่าเหรียญ cryptocurrency นั้นยังคงเป็นสิ่งที่ครองใจคนรุ่นใหม่อย่างมาก ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเพราะเป็นรุ่นที่มีความเข้าใจในเทคโนโลยีเป็นอย่างดี
งานวิจัยจากบริษัทด้านกฎหมายจากอังกฤษนาม Michelmores LLP ที่เก็บกลุ่มตัวอย่างคนเจเนอเรชัน Y (กลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่ช่วงปี 1981-1996) ที่ลงทุนเงินจำนวน 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 9 แสนกว่าบาท) หรือมากกว่านั้นกับสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยรายงานเผยว่าประมาณ 20% ของจำนวนนั้นถูกนำมาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง cryptocurrency หรือ Bitcoin
ตัวเลขดังกล่าวนี้เผยให้เห็นถึงสัดส่วนที่เกิน 3% ของทั้งประเทศอังกฤษ อีกทั้งยังคิดเป็น 29% ของกลุ่มคน Gen Y ที่มีสินทรัพย์เกิน 75,000 ปอนด์ (2.8 ล้านบาท) อีกด้วย
กลุ่มคนยุค Gen Y นี้มักจะเป็นกลุ่มคนที่จริงจังกับการลงทุน, มักจะค้นคว้าหาข้อมูลก่อนลงทุนด้วยตนเอง และยังทำการลงทุนกับบริษัท หรือกระดานซื้อขายเองผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์อีกด้วย โดยจำนวน 35% ของทั้งหมดนั้นกล่าวว่าพวกเขาลงทุนผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ ในขณะที่อีก 27% นั้นได้มีการปรึกษาผู้คนบนโซเชียลที่เกี่ยวกับการเทรดสินทรัพย์
อีกยุคสมัยของนักลงทุน
คนหนุ่มสาวในยุคก่อนหน้านี้มักจะถูกมองว่าไร้ความรอบคอบในด้านการลงทุน โดยพวกเขาถูกมองว่าเป็นกลุ่มคนที่มัวเมาและหลงระเริงไปกับชีวิต มากกว่าการนำแนวคิดด้านการลงทุนมาใส่ในหัว
ทว่างานวิจัยล่าสุดเผยว่ามุมมองดังกล่าวนี้ควรที่จะถูกนำมาปัดฝุ่นและดูใหม่อีกครั้งสำหรับคนหนุ่มสาวยุคปัจจุบัน เมื่อ 70% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 501 คนนั้นเผยว่ารายได้ส่วนใหญ่ของพวกเขาทั้งหมดนั้นมาจากเงินเดือนและค่าจ้าง ในขณะที่ 40% นั้นมาจากการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง นาย Andrew Oldland QC หุ้นส่วนของบรษัท Michelmores กล่าวว่า
“มันมักจะมีแนวคิดดั้งเดิมเกี่ยวกับคนเจ็น Y ที่กล่าวว่า ไม่ว่าพวกเขาจะใช้จ่ายเงินของพวกเขาอย่างไร้สาระหรือพวกเขาจะเชื่อมั่นในการแบมือขอเงินจากพ่อแม่ของพวกเขามานานจนเกินไป แต่ดูเหมือนว่างานวิจัยของเราได้มาลบล้างความคิดเหล่านี้ไปเยอะเลย มันเผยให้เห็นว่าสัดส่วนจำนวนหนึ่งของคนรุ่นนี้ที่มีเงิน 25,000 ปอนด์ขึ้นไป มักจะหาและรวบรวมสินทรัพย์เหล่านี้มาได้ด้วยตนเอง”
การเพิ่มพูนสินทรัพย์ของกลุ่มคน Gen Y
ในขณะที่รายงานของ Michelmores ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มคนเจ็น Y นั้นมักจะเก็บเงินและนำเงินนั้นไปลงทุนเพื่อเพิ่มพูนสินทรัพย์ของพวกเขา แต่มันก็ยังชี้ให้เห็นว่ามันยังมีเม็ดเงินจำนวนมากจากกลุ่มคนยุคพ่อแม่ของพวกเขา หรือ Baby-boomer ที่ถูกส่งต่อไปให้รุ่นลูกด้วย
รายงานที่เคยถูกเผยแพร่เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมโดยบริษัท Grayscale ชี้ว่าอัตราการลงทุนในสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างทองคำนั้นจะลดลงในอีกหลายปีที่จะถึง เมื่อนักลงทุนรุ่นใหม่นั้นหันมาลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแทน
นาย Barry Silbert หรือหัวหน้าฝ่ายบริษัทด้านการลงทุนแห่งหนึ่งกล่าวว่าในอีกหลายปีที่จะถึงนี้ จะมีเม็ดเงินจำนวน 68 ล้านล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯที่ถูกส่งต่อไปให้ยังคนรุ่นลูก พร้อมเสริมว่า
“สำหรับคนยุคเจ็น Y นั้น ทองคำมักจะถูกมองว่าเป็นรากฐานของทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร หรือแม้แต่คนแก่ แต่สำหรับ Bitcoin นั้นพวกเขามองว่ามันสำหรับคนรุ่นใหม่ และมีความเป็นนวัตกรรมสูงมาก อีกทั้งมันยังเป็นการลงทุนที่มีวิสัยทัศน์อีกด้วย”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น