นาย Eric van Miltenburg รองประธานอาวุโสฝ่ายการดำเนินการระหว่างประเทศของ Ripple ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสยามบล็อกเชนในวันนี้ที่งาน Swell เกี่ยวกับการรุกตลาดการโอนเงินระหว่างประเทศในไทย โดยจุดที่น่าสนใจก็คือพวกเขาจะนำเอาผลิตภัณฑ์ด้าน XRP เข้ามาเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการในปี 2020 นี้
ก่อนหน้านี้ทางเราเคยรายงานเอาไว้แล้วว่าธนาคารไทยพาณิชย์หรือ SCB ได้ใช้เทคโนโลยีของ Ripple ในแพลตฟอร์มการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านแอพ Easy Pay ซึ่งตอนนี้ SCB ก็ได้เปิดใช้งานฟีเจอร์โอนเงินข้ามประเทศบนแอปพลิเคชั่นแล้วโดยผู้ใช้งานสามารถโอนเงินระหว่างประเทศผ่านแอพได้อย่างรวดเร็วในระดับวินาที
ทั้งนี้นาย Miltenburg ชี้ว่าทางธนาคารไทยพาณิชย์นั้นได้เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Ripple มามากกว่า 2 ปีแล้วโดยใช้เครือข่าย RippleNet ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ทำให้สถาบันการเงินที่เข้าร่วมสามารถประสานงานระหว่างกันได้ โดยทั้งทาง SBI และไทยพาณิชย์นั้นได้ร่วมมือกันใช้เครือข่ายของ Ripple ในการช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นสามารถส่งเงินกลับบ้านผ่านทางตู้ ATM ได้อย่างรวดเร็ว
ล่าสุดทาง Ripple ได้ออกมาประกาศเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์ xRapid มาเป็น On-Demand Liquidity (ODL) แล้ว ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนั้นถือเป็นแพลทฟอร์มช่วยประมวลผลธุรกรรมระหว่างประเทศโดยใช้เหรียญ XRP เป็นตัวเสริมสภาพคล่อง ซึ่งต้องมีเว็บกระดานซื้อขายคริปโตมาเป็นตัวกลางในการดำเนินการแลกเงินเป็นเหรียญ XRP ไปมา
กระนั้นเองสถาบันการเงินในไทยนั้นก็ยังไม่มีใครที่เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ ODL ที่มีเหรียญ XRP เป็นส่วนประกอบ แต่อย่างไรก็ตาม นาย Miltenburg กล่าวว่า
“ ปีหน้าประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศในลิสต์ที่เราจะผลักดันให้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ ”
ซึ่งนั่นหมายความว่าเราอาจจะได้เห็นธนาคารในไทยเป็นจำนวนมากที่นำเอาเทคโนโลยี ODL เข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนทั่วไปที่ต้องการโอนเงินระหว่างประเทศสามารถโอนได้อย่างรวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก นอกจากนี้เว็บเทรดคริปโตในไทยก็จะได้เป็นผู้ประมวลผลสภาพคล่อง XRP อีกด้วย
ปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์นั้นใช้ผลิตภัณฑ์ xCurrent หรือที่เพิ่งถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Bilateral Settlement โดยจะเป็นการโอนเงินผ่านระบบของ Ripple แต่ยังไม่ได้ใช้เหรียญ XRP ซึ่งจะต่างจาก ODL
นาย Miltenburg เผยว่าจะเข้ามาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ODL ในไทยในปี 2020 นี้น นั่นหมายความว่าทาง Ripple จะต้องเลือกกระดานซื้อขายในไทยมาหนึ่งเจ้าเพื่อให้เป็นสภาพคล่องในการโอนเหรียญ XRP
โดย ทางเราก็ได้สอบถามไปว่า Ripple นั้นจะร่วมมือกับ Exchange รายใด จากสองเจ้าเท่าที่ได้รับอนุญาตและเปิดให้บริการอยู่ ซึ่งก็คือ Bitkub และ Satang Pro ทว่าเขายังไม่สามารถให้รายละเอียดที่แน่ชัดได้
นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า Ripple จำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับภาคผู้ออกกฎหมายก่อนเนื่องจากกฎหมายของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีปัญหากับรัฐบาลในภายหลังพร้อมเผยว่าหากทุกอย่างราบรื่นแล้ว Ripple อาจจะเข้ามาทำตลาดในไทยในปีหน้าอย่างแน่นอน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น