<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดูเหมือนว่าประเทศจอร์เจียจะกังวลเรื่องการใช้ไฟฟ้าเพื่อขุด Bitcoin ในประเทศมากจนเกินไป

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าประเทศที่มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมเหมืองขุด Bitcoin นั้นจะมีปัญหาในเรื่องของการจัดการอยู่ 2 ประเด็นใหญ่ ๆ ซึ่งนั่นก็คือเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงาน โดยในตอนนี้มีหลายประเทศที่กำลังดำเนินการจัดการปัญหาดังกล่าว แต่ถึงกระนั้นก็มีหลายประเทศที่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใด ๆ 

ปัญหาการใช้พลังงานในการขุด Bitcoin

ในปีนี้อัตราแรงขุดบนเครือข่าย Bitcoin มีการเติบโตรวดเร็วอย่างก้าวกระโดด ซึ่งต้องขอบคุณการฟื้นตัวของราคา cryptocurrency ที่ทำให้การขุดเหมืองกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง

เมื่อเร็ว ๆ นี้สื่อข่าวของยุโรป Intellinews รายงานว่าจอร์เจีย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงไฟฟ้าสำหรับการขุด Bitcoin กำลังสูญเสียพลังงานไฟฟ้ากว่าหนึ่งในสิบไปกับการทำเหมือง

อ้างอิงจากพอดคาสต์ของนาย David Chapashvili (ตัวแทนของกลุ่มสิ่งแวดล้อมพลังงานสีเขียว) ที่กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวนั่นส่งผลกระทบที่รุนแรงในภูมิภาคของ Svaneti โดยนาย Chapashvili ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการทำเหมืองขุดที่ดำเนินการโดยบริษัท BitFury เพียงอย่างเดียวนั่นกินพลังงานไปถึง 4 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในจอร์เจีย หรือประมาณ 389.7 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมด้วยว่า แม้จะมีการดำเนินการขุดเหมืองเกิดขึ้น แต่รัฐบาลก็ไม่เคยชี้ให้เห็นเลยว่ามีนักขุดเหมืองจำนวนมากน้อยแค่ไหนที่ดำเนินการขุดในจอร์เจีย

จอร์เจียสามารถทำอะไรได้บ้าง ?

อย่างไรก็ตามการหาจำนวนนักขุดเหมืองในภูมิภาคนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยกฎระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้มาตรการในเรื่องใบอนุญาต ซึ่งจะกำหนดให้บุคคลหรือบริษัทใด ๆ ที่สนใจเปิดเหมืองขุดในประเทศทำการยื่นขอการอนุมัติจากกระทรวงพลังงาน ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานด้านพลังงานสามารถระบุได้ว่าพลังงานกำลังจะไปที่ใด

นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกด้วยว่า อิหร่านได้มีการพิจารณาอีกครั้งในเดือนกันยายนสำหรับการอนุญาตให้ทำการขุด Cryptocurrency ได้ โดยมีเงื่อนไขว่านักขุดจะไม่ได้รับเงินอุดหนุนค่าไฟฟ้าใด ๆ จากรัฐบาล ซึ่งหากข่าวลือนี้เป็นเรื่องจริง มันก็อาจจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไม่ทั้งใดก็ทางหนึ่ง

โดยสำหรับปัญหาเรื่องการใช้พลังไฟฟ้านั้นมีความซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งจอร์เจียไม่ใช่เพียงประเทศเดียวที่ประสบปัญหานี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมสมาคมพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้มีการรายงานว่าการขุด Bitcoin ใช้พลังงานไฟฟ้าสูงเทียบเท่ากับประเทศขนาดกลาง แต่ก็ยังมีข่าวดีที่ว่าพลังงานส่วนใหญ่นั่นได้มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน

สถิติจาก IEA แสดงให้เห็นว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นในจอร์เจียนั้นมาจากพลังงานน้ำและประเทศก็ยังมีพลังงานเหลือมากพอ ดังนั้นใช้พลังงานไฟฟ้าไปกับการขุดเหมืองจึงไม่ใช่ประเด็นที่เป็นปัญหา

แต่สำหรับประเทศอื่น ๆ นั้นมันยังคงเป็นประเด็นที่สำคัญ เนื่องจากพวกเขาต้องการควบคุมดูแลพื้นที่การทำเหมืองเพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในชีวิตประจำวันของพวกเขา

ที่มา : beincrypto

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น