ดูเหมือนว่าการที่ราคา Bitcoin ลดลงต่ำกว่า 8,500 ดอลลาร์เมื่อเร็ว ๆ นี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเหรียญ tether ตามข้อมูลจาก Santiment ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิเคราะห์คริปโตที่ชี้ให้เห็นว่า Bitcoin นั่นไม่ได้ผูกติดอยู่กับ tether แต่ตรงกันข้ามมันได้ถูกผูกติดอยู่กับอายุโดยเฉลี่ยของ tether
อ้างอิงจากข้อมูลของ Santiment ที่เผยให้เห็นว่าการที่ราคา Bitcoin ได้ร่วงกว่า 600 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้นอาจถูกผูกติดอยู่กับ “อายุเฉลี่ยของ USDCoin ที่ใช้เป็นวัน ๆ” ซึ่งพุ่งสู่จุดสูงสุดใหม่ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยพวกเขากล่าวว่า :
“ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงต่ำกว่า 8,500 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาและเป็นไปได้ว่า USDCoin [USDC] ที่ใหญ่ที่สุดจะมี ‘อายุเฉลี่ยที่ใช้เป็นวัน ๆ’ พุ่งสู่จุดสูงสุดใหม่อยู่ตลอดเวลา”
แม้ว่าตัวชี้วัดนี้จะไม่ได้ถูกใช้บ่อยมากนักในการวิเคราะห์กราฟ เนื่องจากว่าส่วนใหญ่มันมักจะถูกใช้เพื่อกำหนดอายุเฉลี่ยในแต่ละวันว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะไม่ได้ถูกใช้ก่อนการทำธุรกรรมในวันที่ดังกล่าว (วันที่ระบุไว้บนเว็ปไซต์ Santiment ในแต่ละวัน) โดยตัวชี้วัดนี้จะคอยเฝ้ามองการใช้งานบล็อกบนเครือข่ายคริปโตในทุก ๆ วัน
Santiment กล่าวว่าองค์ประกอบสามอย่างสำหรับการเคลื่อนไหวราคาในครั้งนี้ก็คือ Bitcoin, Stable coin และปลาวาฬตัวใหญ่ โดย Bitcoin จะถูกเคลื่อนย้ายอยู่ระหว่างสองกระดานแลกเปลี่ยน ซึ่งการเคลื่อนไหวของเหรียญ stablecoin นั้นจะสามารถบ่งบอกได้ว่าในอนาคตราคาจะลดลงหรือไม่ โดยตัวชี้วัดจะทำการ “แสดงตัวอย่าง” กิจกรรมของวาฬ พวกเขาชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดสำหรับการเทขาย โดยมีผู้ซื้อรออยู่จำนวนมากในตลาด Santiment กล่าวว่า :
“การที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นมาก่อนหน้านี้อาจจะเป็นผลพ่วงมาจากการเคลื่อนย้ายเหรียญ BTC จำนวนมากที่ถูกโอนระหว่างกระดานแลกเปลี่ยนและเหรียญ stablecoins แต่ทว่าหลังจากที่ราคาได้มีการพุ่งขึ้นในลักษณะนี้ มันมักจะมีราคาลดลงในเวลาต่อมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าเคลื่อนย้ายธุรกรรมของวาฬส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับการเทขาย”
ในขณะที่เขียนบทความนี้ Bitcoin มีการซื้อขายต่ำกว่า $ 8,500 เป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้มันได้ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นถึง 40% ในวันที่ 23 ตุลาคม เนื่องจากความคิดเห็นของประธานาธิบดี Xi Jinping ที่ประกาศผลักดันเทคโนโลยี blockchain เพื่อกระตุ้นการออกสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกติดอยู่กับเงินหยวนของจีน
ที่มา : ambcrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น