ในตอนล่าสุดของพอสคาสต์ The Scoop ที่จัดขึ้นโดยนาย Frank Chaparro และนาย Alex Gladstein หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายยุทธศาสตร์ของมูลนิธิสิทธิมนุษยชน พวกเขาได้พูดคุยกันถึงเรื่องการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงและ bitcoin จะสามารถเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการประท้วงในเมืองได้อย่างไร
นาย Gladstein ได้เข้าร่วมมูลนิธิสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหากำไรในนิวยอร์กที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 และได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ตั้งแต่รัสเซียไปจนถึงเวเนซุเอลา เขากล่าวว่าประสบการณ์บนภาคพื้นดินของเขา ทำให้เขาเชื่อมั่นว่า Bitcoin จะสร้างผลกระทบในเรื่องสิทธิมนุษยชนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
“บางสิ่งบางอย่างจะมีความสามารถในการกระจายอำนาจ ซึ่งหมายความว่าการผลิตเงินและการเข้าถึงเงินจะมีประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคที่ไร้เงินสด เมื่อถึงตอนนั้นเงินทั้งหมดก็จะกลายเป็นอิเล็กทรอนิกส์”
เขาได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์การประท้วงในฮ่องกงที่ได้ต่อต้านการร่างกฏหมายเกี่ยวกับการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของจีน โดยเขากล่าวว่ากลุ่มชุมนุมผู้ประท้วงที่เป็นนักศึกษาได้ใช้บัตรเติมเงินในการชำระเงินค่าสินค้า แทนที่จะใช้บัตรชำระเงินตามปกติเพื่อปกปิดตัวตนของพวกเขาจากนายจ้างและหน่วยงานของรัฐบาล
“พวกเขาต่อแถวเข้าคิวยาวเหยียดเพื่อเข้าซื้อบัตรเติมเงินแบบใช้ครั้งเดียว” เขากล่าวต่อว่า “สิ่งนี้ได้กระตุ้นให้ผมคำนึงถึงสิ่งสำคัญของเงินสดในความสามารถของเราที่จะประท้วงสภาพแวดล้อมในเมืองและทำให้รัฐบาลของเราต้องรับผิดชอบ”
แต่ในอีก 15 ถึง 20 ปี เมื่อเงินสดเริ่มไม่เป็นที่นิยม ผู้คนเหล่านี้จะต่อสู้เพื่อสิทธิของพวกเขาโดยไม่เปิดเผยตัวตนว่าพวกเขาเป็นใคร? นาย Gladstein ได้ตอบอย่างชัดเจนว่า : “เราต้องการเงินสดในเวอร์ชั่นดิจิทัลเช่นเดียวกับ Bitcoin” รูปแบบการชำระเงินที่ต่อต้านการเซ็นเซอร์ของรัฐบาลและสามารถให้ความคุ้มครองต่อสิทธิมนุษยชนในความเป็นส่วนตัวที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมารับผิดชอบ
นาย Gladstein ยอมรับว่า Bitcoin อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ทั้งหมด เนื่องจากตอนนี้ยังคงไม่ชัดเจนว่าพลังของเงินดิจิทัลนั้นเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี อย่างไรก็ตามเขาเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะช่วยให้เรามีพลังในการกระจายอำนาจและส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากร แต่อีกนัยหนึ่งนาย Gladstein ก็กังวลว่าสินทรัพย์ดิจิทัลอาจจะอยู่ในรูปแบบที่ควบคุมได้และทรยศพวกเราในอนาคต
แต่ถึงกระนั้นนาย Gladstein ก็ยังคงมองโลกในแง่ดี โดยเขากล่าวว่า “สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าความเป็นส่วนตัวทางการเงินจะมีความสำคัญต่อระบอบประชาธิปไตย” เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมเชื่อว่ามันจะเป็นสังคมที่ดีกว่า”
ที่มา : theblockcrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น