<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สาเหตุที่การซื้อขาย Bitcoin บนตลาดฟิวเจอร์นั้นดีกว่าตลาดธรรมดา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อย่างที่เราทราบกันดีว่า Bitcoin Futures หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับ Bitcoin เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่อันตรายในอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ที่มีความผันผวนมากอยู่แล้วตั้งแต่แรก 

เครื่องมือดังกล่าวมีความสามารถทั้งในการทำลายและรักษาความชอบธรรมมาสู่ระบบนิเวศของคริปโตเคอเรนซี่ แต่ในขณะที่บางคนเองก็ยังคงคัดค้านการนำ Bitcoin Future มาใช้อันเนื่องมาจากความผันผวนของมัน แต่ในความเป็นจริงดูเหมือนว่าบางทีมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับสำหรับ Bitcoin 

ก่อนที่จะไปเริ่มกันสำหรับใครที่ยังไม่ทราบสำหรับคำว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Future Contract) หมายความว่า เป็นความตกลงระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง ยกตัวอย่างเช่น Bitcoin ในราคาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าในอนาคต 

จริงอยู่ที่แนวคิดของการซื้อขายล่วงหน้ามีอยู่ในตลาดการเงินแบบดั้งเดิมมานานแล้วกว่าหลายศตวรรษ โดยมันเป็นตราสารอนุพันธ์เหล่านี้ได้กลายเป็นเครื่องมือที่จัดตั้งขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงของสินทรัพย์อ้างอิงและการควบคุมความเสี่ยงจากความผันผวนต่าง ๆ 

โดยความผันผวนของราคาถือได้ว่าเป็นเรื่องราวปกติในตลาดใด ๆ ก็ตามซึ่งตลาดซื้อขายล่วงหน้าอนุญาติให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถที่จะลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากความผันผวนของราคาโดยกำหนดราคาที่ตกลงกันสำหรับการซื้อและขายสินค้า นอกจากนี้เนื่องจากความผันผวนเป็นเครื่องหมายของการค้าขายที่แท้จริงของตลาด จึงไม่แปลกใจเลนที่มันจะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับนักซื้อขายจำนวนมากรวมถึงนักขุดเพื่อจัดการความเสี่ยงบนตลาด Crypto Futures  

Bitcoin Futures : การเริ่มต้นที่มั่นคง

ในขณะที่การบาง Exchange ไม่กี่รายการได้พยายามหันมาโฟกัสไปที่ตลาดซื้อขายล่วงหน้าเป็นหลัก 

แต่โดยส่วนใหญ่แล้วนั้นสัญญาณการซื้อขายล่วงหน้าของตราสารอนุพันธ์เหล่านี้มักจะรวมอยู่ที่ Chicago Board Options Exchange (Cboe) และ the Chicago Mercantile Exchange (CME) เป็นหลักเสียส่วนใหญ่ 

ในช่วงท้ายปี 2017 หลังจากตลาดหมี 2 ปีอันยาวนานของโลกคริปโตเคอเรนซี่ ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนทั้ง 2 แห่งที่เราได้กล่าวไปข้างต้นได้รับการคัดเลือกให้สามารถที่จะทำการซื้อขาย Bitcoin ล่วงหน้า (Bitcoin Futures) ได้อย่างถูกต้อง  

โดยหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ทั้ง 2 Exchage ได้รับการยอมรับอย่างฉับพลันทำให้เกิดพื้นที่ใหม่ ๆ ให้กับ Bitcoin และการเข้ามามีส่วนร่วมของสถาบันการเงินได้เข้ามาเติมเต็มและกระโดดลงมาในตลาดอีกหลายรายจากจุดนี้ 

ซึ่งผลจากการที่เริ่มมีผู้เล่นรายใหญ่ของโลกเข้ามาในตลาดคริปโตเคอเรนซี่จึงไม่แปลกใจเลยว่านี้เป็นสัญญาณที่ใหญ่มากของสภาพคล่องทางการเงินใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาสู่ Bitcoin ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนั้นเราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของระดับราคา Bitcoin อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในปลายปี 2017 ช่วงเดือนธันวาคม แม้ว่าช่วงเวลาของมันจะสั้นมากและใน 2 ปีถัดมาจะกลายเป็นปีเห็นตลาดหมีอย่างที่ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น 

ในท้ายที่สุดนั้นดูเหมือนว่านักลงทุนสภาบันรวมถึงรายใหญ่ต่าง ๆ จะไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าที่ควรนักแลดูเหมือนว่านักเทรดทั่วไปจะให้ความสำคัญกับมันมากกว่าซึ่งส่งผลต่อตลาดโดยตรงและกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย

หากให้เราไม่คำนึงถึงในช่วงเวลาที่ผ่านมาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา Bitcoin Futures กลับมามีบทบาทมากขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ตลาดซบเซาไปนาน แต่ปัจจุบันนักลงทุนรายย่อยทั้งหลายได้เริ่มต้นกลับมาซื้อขายกันอีกครั้ง และความต้องการเทรดในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของคริปโตเคอเรนซี่กำลังพุ่งสูงขึ้น 

โดยอ้างอิงจากตามข้อมูลที่สงมาจากเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซี่ชั้นนำของโลกทั้ง 13 แห่ง  ได้มีการออกมาอ้างอิงว่าตลาดซื้อขายล่สงหน้ากินพื้นที่ของการเทรดไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของการเทรดแบบทั่วไป (Spot Trade) และมันยังเป็นตัวช่วยในการลดความผันผวนและยังเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดอีกด้วย 

Bitcoin Vs. Bitcoin Futures 

ดูเหมือนว่าตลาดซื้อขายล่วงหน้าของ Bitcoin จะสามารถช่วยสร้างประโยชน์อย่างมากมายให้กับซื้อขายแบบทั่วไป  แต่อย่างไรก็ตาม มันยังมีในเรื่องของการขยายฐานข้อมูลนักลงทุนรวมถึงความวิตกกังวลในด้านกฎระเบียบที่ดูเหมือนว่า Bitcoin Futures จะมีผลมากกว่าการซื้อขาย Bitcoin แบบธรรมดา 

ลดความเสี่ยงของการจัดการให้น้อยที่สุด

ระบบการซื้อขายของตลาดซื้อขายล่วงหน้านั้นจะแตกต่างจากระบบการซื้อขายแบบทั่วไป โดยพวกเขาจะตั้งค่าสมดุลที่สุดซึ่งเรียกกันว่า Mark Price ซึ่งโดยทั่วไปแล้วค่าดังกล่าวจะคำนวนจากราคาของหลาย ๆ Exchange และราคา Mark price จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการควบคุมตลาดเกิดขึ้น

ในทำนองเดียวแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ Futures อย่าง OKEx มักใช้ระบบที่เรียกว่า margins ซึ่งพวกเขามีสิ่งที่เรียกว่า Tiered Maintenance Margin Ratio (TMMR) ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดหลักประกันที่จำเป็นสำหรับการเพิ่ม Leverage นอกจากนี้มันยังช่วยเป็นตัวกำหนดความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการเกิด ล้าง (liquidations) ให้เสียหายน้อยที่สุดได้อีกด้วย 

สุดท้าย OKEx ยังมีระบบที่ชื่อ Forced Partial Liquidation Mode เพื่อปกป้องตลาดทั่วไปจากการโดนล้างพอร์ตด้วยเช่นกัน 

ไม่จำเป็นต้องเก็บหรือโอนย้ายคริปโต 

อีกหนึ่งในอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้เล่นหรือนักลงทุนหน้าใหม่เลยก็คือมันมีความยุ่งยากและต้องใช้ความเข้าใจที่มากในหลาย ๆ เรื่องเพื่อเข้าใจการทำงานและใช้งานระบบต่าง ๆ ของโลกคริปโตเคอเรนซี่ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเงินดิจิตอล , ที่เก็บคริปโตเคอเรนซี่แบบ Cold Storage และไหนจะยังมี public กับ private keys ดังนั้นมันจึงมักเป็นปัญหาของมือใหม่ที่เชื่อว่าทุกคนจะต้องเคยเจอ

แต่กลับกันสำหรับในตลาดการซื้อขายแบบล่วงหน้าปัยหาต่าง ๆ เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับเลยเพราะพวกเขามีระบบการทำงานที่ใกล้เคียงในลักษณะเดียวกันกับการค้าแบบดั้งเดิม และใช้งานง่ายกว่า 

ที่สำคัญเลยก็คือระบบการซื้อขายล่วงหน้าไม่สามารถที่จะหายไป ถูกแฮ็กหรือถูกขโมยได้ ซึ่งแตกต่างจากคริปโตเคอเรนซี่ทั่วไปที่เราคงได้ยินเรื่องราวมาเยอะกันแล้วเกี่ยวกับการถูกขโมยหรือ Exchage ถูกปล้น ดังนั้นการที่เทรดแบบสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจึงเป็นอีกหนึ่งในทางออกมาที่ดีและลดการเจอปัญหาเหล่านี้ได้ 

นอกจากนี้อย่างเช่นในเว็บเทรด OKEx  สัญญาตราสารอนุพันธ์จะถูกชำระเป็น USDT ซึ่งหมายความว่าเมื่อถึงเวลาที่จะต้องจ่ายเงินออกผู้ค้าสามารถทำได้โดยใช้สกุลเงินที่เสถียรและหลากหลายได้อีกด้วย 

Perpetual Options

หลาย ๆ เว็บเทรดรวมถึง OKEx อนุญาตให้ทำสัญญาหรือสัญญาแลกเปลี่ยนได้ตลอด (perpetual contracts หรือ swaps) 

จุดสำคัญของพวกเขาเหล่านี้เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ไม่มีวันหมดอายุ ซึ่งหมายความว่าสัญญาหรือการแลกเปลี่ยนสามารถเปิดได้อย่างต่อเนื่องโดยการให้ผู้ค้าสามารถลงทุนในตำแหน่งได้แบบไม่ต้องปิด 

โดยสิ่งนี้จะช่วยให้ได้เปรียบเช่นเดียวกับการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงโดยจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเท่านั้น

การแลกเปลี่ยนแบบต่อเนื่องของ OKEx นำเสนอคู่สกุลเงินดิจิตอลที่หลากหลายซึ่งตลาดอื่น ๆ มักจะขาด โดยพวกเขามีตั้งแต่ BTC, EOS, ETC, ETH, LTC, BCH, BSV, TRX และ XRP แต่ละคู่สามารถใช้  leverage ตั้งแต่ 0.01 ถึง 100x 

ค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าการซื้อขายทั่วไป 

บ่อยครั้งที่ในเว็บเทรดต้องเก็บค่าธรรมเนียมในการเทรดแต่ละครั้งที่มีราคาที่เราไม่อาจละเลยได้และต้องนำมาคำนวรในการเทรดทุกครั้งเพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งในต้นทุนและปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการเทรด และมันมักจะมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าการเข้าเทรดแบบสัญญาณซื้อขายล่วงหน้า 

ยกตัวอย่างเช่นใน Exchage ชื่อดังมักจะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ระหว่าง 0.1 – 1.49 เปอร์เซ็นต์ แต่ในทางตรงกันข้ามค่าธรรมเนียมของผู้ที่ทำการซื้อขายแบบล่วงหน้ามักจะมีอัตราค่าธรรมเนี่ยมอยู่ที่ 0.02  0.5 เปอร์เซ็นต์  

ให้เห็นภาพมากกว่านี้ยกตัวอย่างไปที่เว็บเทรด OKEx พวกเขามีอัตราค่าธรรมเนี่ยมที่ต่ำมาก ๆ สำหรับการซื้อขายล่วงหน้าอยู่ที่ 0.03 เปอร์เซ็นต์ 

และสำหรับการถือแบบต่อเนื่อง (Swap) 0.05 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับการเทรดแบบธรรมดา 

สามารถทำเงินในตลาดขาลงได้ 

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าในตลาดแบบทั่วไป นักลงทุนสามารถทำเงินได้จากการที่ซื้อของถูกและต้องขายได้แพงกว่าเท่านั้น 

แต่สำหรับการซื้อขายแบบล่วงหน้าทำให้ผู้เทรดสามารถเลือกข้างที่จะเล่นได้ทั้ง 2 ฝั่งตามความต้องการ 

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะบอกเชื่อว่าน่าจะทำให้หลาย ๆ คนเห็นภาพมากขึ้นว่าทำไมการซื้อขาย Bitcoin Future ถึงจะสามารถเอาชนะ Bitcoin แบบธรรมดาได้ โดยในราคาปัจจุบันอ้างอิงจาก Coinmarketcap ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 7,174 ดอลลาร์และคาดว่าจะอยู่ในระดับดังกล่าวไปอีกสักพัก

ที่มา Cryptoglobe

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น