<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักกฎหมายเผยถึงสาเหตุที่ YouTube เริ่มไล่แบนช่องที่ทำรายการเกี่ยวกับ Bitcoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในช่องทวิตเตอร์ตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา เราจะได้ยินว่านักยูทูปที่ทำช่องเกี่ยวกับ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีนั้นถูกปิดช่องไปตามๆ กัน

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานเอาไว้ว่าคลิปวิดีโอเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลหรือ Bitcoin ของนาย Chris Dunn ถูกถอดออกจากเว็บไซต์ด้วยข้อหาหลายประการ โดยนาย Chris Dunn เป็นยูทูปเบอร์ชื่อดังที่มียอดผู้ติดตาม 210,000 คน เขาเป็นยูทูปเบอร์มาได้มากกว่า 10 ปีแล้วและมียอดวิวรวมกันถึงกว่า 7 ล้านวิว ซึ่งทาง Youtube ถอดถอนวิดีโอส่วนมากของนาย Dunn ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้นักสร้างคอนเทนต์และยูทูปเบอร์หลายๆ คนได้รายงานว่าตนนั้นถูกบล็อกไม่ให้โพสต์วิดีโอมาหลายสัปดาห์แล้ว เช่น ช่อง “Nugget News” ของนาย Alex Saunders ได้กล่าวว่าช่องของตนนั้นกำลังถูกลบออกจากแพลตฟอร์มยูทูปทั้งหมด ส่วนช่องของนาย Nicholas Merten ผู้ที่ทำช่องยูทูป “DataDash” ที่มีผู้ติดตามกว่า 328,000 คน ก็ได้รับผลกระทบไปด้วยจนกระทั่งเขาต้องออกมาโพสต์ทวิตเตอร์พูดถึงประเด็นนี้

ทำไมยูทูปถึงไล่ปิดช่องเกี่ยวกับคริปโต?

ในประเด็นนี้นักกฎหมาย Jake Chervinsky ของ Compound Finance ก็ได้ออกมาแชร์มุมมองของเขาด้วยเช่นกัน โดยเขาคาดว่ามันมาจากการละเมิดข้อกฎหมายของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ Securities Act § 17(b) ซึ่งให้บรรดาผู้มีอิทธิพลจะต้องเปิดเผยค่าชดเชยที่พวกเขาได้รับสำหรับการโปรโมทหลักทรัพย์

ส่วนอีกคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการไล่ปิดช่องยูทูปนี้ Omar “Crypt0” Bham ก็ได้ออกมากล่าวว่าที่ทางยูทูปออกมาไล่ปิดช่องคริปโตเพราะมันลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอกหรือเว็บเทรดภายนอกที่อยู่ในวิดีโอต่างหาก

ด้านของนาย Eric Crown ก็ได้ออกมาสันนิษฐานว่ามันมีกลุ่มคนที่ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือรายงานปัญหาของช่องยูทูปแล้วไล่ report ช่องของยูทูปเบอร์ต่างๆ ซึ่งอาจจะต้องการความสนใจหรืออะไรก็ตามแต่

บทสรุปแล้วเราก็ยังไม่อาจทราบได้ว่าที่ทางยูทูปออกมาปิดช่องของเหล่ายูทูปเบอร์นั้นสาเหตุเกิดจากอะไรเนื่องจากที่ยูทูปนั้นไม่ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นนี้ตรงๆ ทำให้หลายคนก็ได้สันนิษฐานแตกต่างกันไปซึ่งด้านของนักกฎหมายก็ออกมาแชร์มุมมองประเด็นของกฎหมายที่อาจมีการละเมิดเกิดขึ้นและทำให้ทางยูทูปต้องไล่ปิดช่องเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีไปซึ่งเราก็ยังไม่สามารถรู้คำตอบที่แน่ชัดได้

ที่มา : newsbtc

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น