อย่างที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมาจนถึงปี 2020 แล้วแต่ทว่า Libra ของ Facebook ก็ยังคงไร้วี่แววที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ดูเหมือนว่าวันและเวลาในปฏิทินอาจไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนโปรเจคของ Facebook โดยในช่วงกลางปี 2019 ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่โปรเจค ‘GlobalCoin’ ของ Facebook ซึ่งถูกตั้งชื่อในเวลาต่อมาว่า ‘Libra’ ซึ่ง Libra นั้นถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสกุลเงินที่ไม่ต้องขึ้นตรงกับทางธนาคาร แต่ทว่าความตั้งใจอันสูงส่งของ Facebook นั้นกลับทำให้ผู้คนต่างเกิดความกังวลมากมาย
Libra จะได้รับการเงินค้ำประกันหนุนหลังจากสินทรัพย์ของรัฐบาลแต่ละประเทศ ซึ่งเงินสดเหล่านี้จะถูกตรึงมูลค่าเอาไว้และรัฐบาลจะไม่สามารถควบคุมดูแลพวกมันได้ ดังนั้นสิ่งนี้จึงเป็นเหมือนกับฝันร้ายของหน่วยงานกำกับดูแล พวกเขาจึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการตัดสินใจและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน จนกระทั่งตอนนี้เวลาก็ได้ล่วงเลยมานานกว่า 6 เดือนแล้ว
ในปี 2020 มันจะเป็นปีที่สำคัญสำหรับตลาดคริปโตเคอเรนซี่อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเหตุการณ์ Halving ที่กำลังจะมาถึงในอีก 6 เดือนข้างหน้าและการมาของสกุลเงินธนาคารกลาง CBDC สิ่งเหล่านี้จะเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญอย่างมากให้กับวงการคริปโต ในขณะที่ Libra กำลังค่อย ๆ ถอยหลังลงคลองและเปิดตัวล่าช้าไปอีกหลายปี กล่าวโดยนาย Ryan Selkis ผู้ร่วมก่อตั้ง Messari
นาย Selkis ได้ดูถูกดูแคลนนาย Zuckerberg, Marcus, และลูกเรือของพวกเขาว่าโปรเจค Libra ในปี 2020 นั้นจะไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจาก Visa, Mastercard และ PayPal เพิ่งได้ถอนตัวออกไปจากโปรเจคก่อนหน้านี้ โดยเขาแนะนำว่า Facebook ควรจะต้องจัดการกับเนื้อหาที่เหลืออยู่และเพิ่มบางสิ่งบางอย่างให้มันดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกันความทะเยอทะยานของ Facebook สำหรับความพยายามที่จะเปิดตัวตระกร้าสกุลเงินของรัฐบาลและเงินฝากต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นเขากล่าวว่า :
“การเปิดตัวกองทุนเงินสำรองระหว่างประเทศแบบตะกร้าสกุลเงินนั้นแน่นอนว่ามันจะยังไม่เกิดขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า”
อีกหนึ่งทางเลือกที่นาย David Marcus ได้เสนอไว้ก็คือ ‘สกุลเงินคริปโตที่ได้รับการค้ำประกันจากสกุลเงินเฟียต’ โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Libra ต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านกฎระเบียบอย่างหนัก เนื่องจากพวกเขาได้ทำการเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนของ Libra โดยนาย Marcus กล่าวว่าเราสามารถสร้างความ “แตกต่าง” นี้ได้ ซึ่งแทนที่ทางสมาคม Libra จะสร้าง “หน่วยเงินสังเคราะห์” พวกเขาก็จะเริ่มสร้าง “ชุดซีรีย์ของเหรียญ Stablecoin แทน”
นาย Selkis เองก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นในครั้งนี้ของนาย David Marcus โดยเขากล่าวว่า
“มันเป็นไปได้ว่าทีม Libra กำลังจะเริ่มพัฒนาระบบเงินตราสกุลเดียว (Single Currency) ในรูปแบบของเหรียญ Stablecoin ให้กับตลาดในปัจจุบัน”
แม้ว่า Libra จะไม่ได้มีความทะเยอทะยานใด ๆ เพิ่มเติมในปี 2019 แต่ถึงกระนั้นมันก็ได้จุดประกายให้เกิดการแข่งขันสำหรับการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของแต่ละประเทศ จนได้ทำให้ประเทศจีนขึ้นมาเป็นผู้นำในการแข่งขันครั้งนี้และเริ่มให้การยอมรับเทคโนโลยี บล็อกเชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับว่าเป็น “เรื่องที่สำคัญที่สุดของวงการคริปโตในปี 2019 ” นาย Selkis กล่าว
ด้วยความสัมพันธ์ของธนาคารในประเทศจีนสำหรับการแจกจ่ายเงินหยวนดิจิทัลและด้วยการควบคุมเงินทุนที่กำหนดไว้แล้ว สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้จีนวางโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเพื่อเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลายคนเชื่อว่ามันอาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ ยิ่งไปกว่านั้นนาย Selkis ยังกล่าวด้วยว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้ค่าเงินหยวนแซงหน้าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ในที่สุด
“โปรเจค DCEP จะช่วยให้จีนมีโอกาสในการควบคุมระบบการเงินได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันพวกเขาก็จะเสนอสิ่งที่ดีกว่าเงินดอลลาร์ถึง 10 เท่าในด้านความโปร่งใสและอรรถประโยชน์”
ที่มา : eng.ambcrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น