<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อัตราแรงขุด Bitcoin ทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในตอนนี้ค่าอัตราการขุดหรือ Hashrate ของ Bitcoin (BTC) ทำสถิติใหม่อีกครั้งแล้ว เป็นสัญญาณว่าในปัจจุบันนี้ความนิยมในการขุด Bitcoin กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าการ Halvening ครั้งหน้าที่จะลดผลตอบแทนในการขุดลงครึ่งนึงกำลังจะมาถึงในเดือนพฤษภาคมปีนี้ก็ตาม 

ในวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ค่าอัตราการขุด Bitcoin เพิ่มขึ้นถึงระดับ 120 exahashes ต่อวันเลยทีเดีย อ้างอิงจากทวิตเตอร์ของ The Moon เขาได้ออกมาโพสต์เผยว่าค่าอัตราการขุด Bitcoin มันได้พุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลอีกครั้งโดยคราวนี้มันแตะ 119,354,000 Th/s มากกว่าค่าอัตราแรงขุดในช่วงของปี 2017 ถึง 7 เท่าและเขายังคาดอีกด้วยว่าการที่ค่าอัตราแรงขุดมันเพิ่มขึ้นเช่นนี้แสดงว่าโครงสร้างพื้นฐานของ Bitcoin มันพัฒนาขึ้น เป็นไปได้ว่าเราอาจเห็นราคาพุ่งต่อในเร็วๆ นี้

เราจะสังเกตุได้ว่าค่าอัตราการขุดของ Bitcoin นั้นเพิ่มสูงขึ้นทีละนิดในทศวรรษที่ผ่านมา จนกระทั่งในปีที่แล้วค่าอัตราขุดเพิ่มขึ้นมาถึงสามเท่า

หากเราดูจากตัวเลขในวันที่ 6 มกราคมมีอัตราแรงขุดบนเครือข่าย Bitcoin ทะลุ 119,354,000 Th/s ซึ่งมันมากกว่าของปี 2017 ที่ราคา Bitcoin พุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาลเราอาจจะมองได้ว่าตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานของ Bitcoin นั้นดีกว่าปี 2017 เอามากๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราก็ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ว่าปรากฎการณ์นี้จะส่งผลต่อราคา Bitcoin มากน้อยแค่ไหน มันอาจจะส่งผลดีหรือร้ายก็ได้เนื่องจากมีนักวิเคราะห์หลายท่านออกมากล่าวว่าราคา Bitcoin ในตอนนี้อยู่ในช่วงชี้ชะตาครั้งใหญ่ว่ามันจะเคลื่อนเข้าสู่ตลาดขาขึ้นหรือลง

เราเห็นตัวอย่างอัตราการขุดที่สูงขึ้นแต่ราคา Bitcoin ไม่สูงขึ้นตามจากสภาพตลาดในปี 2018 เมื่ออัตราการขุดสูงขึ้นมากแต่ราคา Bitcoin กลับซบเซา แต่ปรากฎการณ์ในตอนนี้แสดงให้เห็นว่าตอนนี้มันมีการนำ Bitcoin ไปใช้งานมากขึ้นจริง มีการขุดยังคงทำกำไรให้กับนักขุดอยู่และดึงดูดนักขุดหน้าใหม่ๆ เข้ามาในตลาดด้วย 

แม้ว่าค่าอัตราแรงขุดบนเครือข่ายมันอาจจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับราคา Bitcoin หรือส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งทะยานขึ้นเสมอไปแต่มันก็เป็นตัวบ่งบอกที่ดีว่าตอนนี้มีการใช้งาน Bitcoin เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

การวัดอัตราแรงขุดอยู่เป็นประจำนั้นเอาไว้ใช้ดูการใช้งาน Bitcoin คือการที่นักขุดยอมจ่ายหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อทำการขุดต่อและรางวัลที่ได้จากการขุดมันก็ต้องสมเหตุสมผลด้วยจึงจะคุ้มค่า

อาจจะสรุปได้ว่าผลประกอบการของบริษัท Mining นั้นไม่ได้สัมพันธ์กับเงื่อนไขในการขุดหรือการ Halvening แต่อย่างใดเพราะมีทั้งบริษัทที่ยังคงมั่นใจเดินหน้าทำการขุดต่อและบริษัทที่ถอนตัวออกจากการแข่งขัน ปัจจัยที่สำคัญกว่าอาจจะมาจากสภาพตลาด Mining ที่มีการแข่งขันสูงเสมอมา เพราะฉะน้ั้นแล้วอาจจะคิดได้ว่าการ Halvening ของ Bitcoin ที่กำลังจะมาถึงในปีนี้จะลดรางวัลการขุดต่อบล็อกลงเหลือ 6.25 BTC แต่มันอาจจะไม่ได้ส่งผลในด้านลบต่อปริมาณการขุดเลย

Bitcoin จะมีราคาสูงขึ้นหลังการ Halvening

นาย Josh Roger นักเทรดและวิเคราะห์คริปโตมีความเชื่อว่านักลงทุนที่เข้าซื้อ Bitcoin ในช่วงราคา 7,000 ดอลลาร์จะสามารถได้กำไรเกิน 1,000 เปอร์เซ็นในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งราคา Bitcoin ต้องขึ้นไปเหนือ 100,000 ดอลลาร์ถึงจะเติมเต็มคำทำนายของนาย Josh Roger

และยังมีคำทำนายชื่อดังของนาย Tim Draper มหาเศรษฐีร้อยล้านผู้เชื่อมั่นใน Bitcoin เขาเชื่อมั่นว่าราคา Bitcoin จะพุ่งไปถึง 250,000 ดอลลาร์ภายในครึ่งปีหรือ 1 ปีหลังจากการ Halvening ครั้งต่อไปในเดือนพฤษภาคม 2020 ซึ่งก่อนหน้านี้นาย Draper ก็เคยออกมาทำนายราคาเช่นนี้ตามที่ทางสยามบล็อคเชนรายงาน เขาเคยแนะนำด้วยว่า Bitcoin จะครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกมากกว่า 5% ภายใน 2023 โดยเมื่อย้อนกลับไปในปี 2014 เขาคาดการณ์ว่าราคาเหรียญจะจบลงที่ตัวเลขห้าหลักภายในสามปี ซึ่งนั่นเป็นการคาดการณ์ที่โด่งดังอย่างมากในวงการคริปโต

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น