<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

คลังสหรัฐฯ กำลังทดสอบเอา Blockchain มาตรวจสอบการจ่ายเงินของหน่วยงานรัฐฯ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เทคโนโลยี Blockchain นั้นเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกคาดหวังให้กลายเป็นแก่นของโลกดิจิทัลยุคใหม่ มันมีศักยภาพมากมายที่จะเข้าไปปฏิวัติในหลากหลายอุตสาหกรรมไม่ใช่แค่เฉพาะวงการการเงินเท่านั้น

นอกเหนือจากการที่บริษัทหรือสตาร์ทอัพต่าง ๆ จะนำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ ทางฝั่งของหน่วยงานต่าง ๆ ในรัฐบาลมากมายหลายประเทศก็นำมันมาใช้งานเช่นกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรของพวกเขา

แพลตฟอร์ม Blockchain เพื่อตรวจสอบการจ่ายเงินของหน่วยงานรัฐบาล

ล่าสุด มีรายงานจาก FCW ว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ นั้นกำลังทำการทดสอบและสรุปผลลัพธ์จากการทดสอบแพลตฟอร์ม Blockchain ในการตรวจตราการจ่ายเงินอยู่

นาย Craig Fischer ผู้จัดการของโครงการนี้เผยว่า กำลังจะทำการทดสอบแบบ Proof-of-concept ในการติดตามตราสารเครดิตเรียบร้อยแล้ว

แพลตฟอร์ม Blockchain นี้จะทำการแปลงตราสารเครดิต (Letter of Credit) ให้อยู่ในรูปแบบโทเคน ซึ่งมันสามารถนำไปโอนให้กับผู้รับด้วยการทำธุรกรรมแบบ Peer-to-peer หรือ P2P ได้

กระบวนการนี้จะทำให้กระทรวงการคลังสามารถตรวจตราการจ่ายเงินออกของหน่วยงานรัฐบาลไปยังผู้รับได้นั่นเอง โทเคนเหล่านั้นยังเก็บข้อมูลที่สำคัญของผู้รับไว้ด้วย เช่นจำนวนเงินที่โอนและข้อมูลอื่น ๆ และการที่ผู้รับจะได้รับเงินอย่างปลอดภัย ผู้รับจะต้องมี Wallet ที่เชื่อมกับบัญชีธนาคารด้วย

อ้างอิงจากบทความบน Nextgov นาย Fischer ได้อธิบายเกี่ยวกับ Blockchain นี้ว่าจะสามารถนำมาใช้กับหน่วยงานรัฐบาลหรือองค์กรที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ได้อย่างไร

เขาเผยว่า ถึงแม้มันจะใช้เทคโนโลยีหลักซึ่งก็คือ Blockchain เหมือนกัน แต่นาย Fischer ยืนยันว่า แพลตฟอร์ม Blockchain ของกระทรวงการคลังนี้จะไม่ได้ Decentralized ในขนาดที่สาธารณะสามารถเข้ามาตรวจสอบได้

“นี่ไม่ใช่เครือข่าย Bitcoin ที่ทุก ๆ อย่างสามารถถูกมองเห็นได้ด้วยทุก ๆ คน”

ไม่เห็นด้วยกับคริปโต

อย่างไรก็ตาม นาย Steven Mnuchin เลขาของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ก็ได้ออกมากล่าวด้วยว่า สินทรัพย์ดิจิทัลเช่น Bitcoin, Libra และคริปโตสกุลอื่น ๆ นั้น ‘เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ’

Cryptocurrency เช่น Bitcoin ได้ถูกใช้งานในการทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว เช่น การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cybercrime), การหนีภาษี, การกรรโชก, ไวรัส Ransomware ที่เรียกค่าไถ่, การค้ายาแบบผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์”

“ล่าสุด อย่างที่คุณรู้กันว่า ประเด็นของสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความสนใจอย่างมาก เช่น Bitcoin และ Libra มันก็มีคำถามมากมายด้านกฎหมายและการควบคุมเกี่ยวกับ Libra, สินทรัพย์ดิจิทัล และสกุลเงินดิจิทัล”

“ผู้ใช้งานมากมายได้พยายามที่จะใช้ Cryptocurrency ในการหาเงินแบบผิดกฎหมาย มันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติอย่างแท้จริง”

ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นาย Mnuchin ได้ยืนยันในงานประชุมด้วยว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ นั้นจะไม่สร้างสกุลเงินดิจิทัลเหมือนที่หลาย ๆ คนคิด:

“นาย Chair Powell และผมได้หารือเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เราทั้งสองคนต่างเห็นด้วยว่า ในอนาคตอันใกล้นี้หรือในประมาณ 5 ปีข้างหน้า เรายังมองไม่เห็นว่าธนาคารกลางควรที่จะสร้างสกุลเงินดิจิทัล”

ดูเหมือนหน่วยงานเช่น กระทรวงการคลังนั้นจะเปิดรับเทคโนโลยี Blockchain แบบเต็มที่ แต่ยังคงไม่เห็นด้วยกับการใช้งาน Cryptocurrency อยู่ดี ก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Cryptocurrency นั้นจะกลายเป็นสิ่งที่ผลักดันสังคมของเราให้ไปข้างหน้า หรือกลายเป็นเครื่องมือของเหล่ามิจฉาชีพในการทำสิ่งผิดกฎหมาย

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น