การ Halving นั้นเป็นระบบการปรับลดการออกเหรียญภายในระบบเครือข่าย Blockchain ของ Bitcoin ลงครึ่งหนึ่งตามแผนการรักษาปริมาณเหรียญโดยรวมซึ่งมีจำนวนจำกัดตามที่ผู้สร้างเหรียญอย่าง Satoshi Nakamoto ได้วางโปรแกรมไว้ตั้งแต่แรกนั่นเอง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนั้นได้ส่งผลต่อระดับราคาของเหรียญอย่างที่เคยได้เกิดขึ้นมาก่อนแล้วในการ Halving ครั้งแรกและครั้งที่สองนั่นเอง
ดังนั้นแล้วเหตุการณ์สำคัญของวงการคริปโตอย่างการ Havling จึงเป็นที่กล่าวถึงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในขณะนี้ไม่จำกัดอยู่แต่เพียงผู้คนในวงการคริปโตเท่านั้นที่ให้ความสนใจกับกรณีดังกล่าว แต่สื่อและผู้คนนอกวงการต่างเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นด้วย ซึ่งระดับความสนใจนั้นแสดงให้เห็นได้จากข้อมูลทางสถิติของผลการค้นหาคำว่า “Bitcoin Halving” ในช่วงนี้ซึ่งคิดเป็นปริมาณสองเท่าของอัตราที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทางบริษัท Google นั้นไม่ได้เปิดเผยตัวเองอย่างชัดเจนถึงปริมาณการค้นหาดังกล่าวหากแต่ได้เปิดเผยถึงอัตราความนิยมซึ่งมีระดับสูงสุดที่ 100 โดยการค้นหาคำว่า “Bitcoin Halving” นั้นอยู่ในระดับ 35 จากเดิมที่ระดับ 15 ในช่วงเดือนก่อนนั่นเอง ซึ่งอัตราดังกล่าวนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับที่สูงสุดตลอดการซึ่งสูงกว่าในช่วงการ Halving ครั้งก่อนในปี 2016 เสียอีก
นอกจากนี้แล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นยังได้ถูกคาดการณ์ไว้ผ่านการคำนวนของ Bitcoinblockhalf ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 12 เดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งหากยึดตามวันดังกล่าวแล้วนั้นจะหมายความว่าเราเหลือเวลาเพียง 105 วันเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวนั้นขึ้นอยู่กับอัตราการขุดที่เกิดขึ้นภายในตลาด ซึ่งอาจมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ทุกเมื่อตามปริมาณการขุดเหรียญที่เปลี่ยนแปลงในระบบ
บริษัทด้านการวิเคราะห์ตลาดสกุลเงินคริปโตอย่าง Arcane Research นั้นได้มีการรายงานถึงสภาพการณ์ของตลาดในช่วงแต่ละสัปดาห์ โดยในรายงานล่าสุดนั้นก็ได้มีการกล่าวถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นทั้งภายในและภายนอกตลาดคริปโตผ่านอัตราการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับการ Halving ผ่าน Google Search อีกด้วย ซึ่งทางรายงานนั้นได้กล่าวว่าอัตราดังกล่าวนี้เป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนที่สุดว่าความสนใจในสินทรัพย์คริปโตนั้นกระจายออกไปในวงกว้างมากขึ้นแล้วนั่นเอง
นอกจากนี้แล้วนาย Tom Lee จากบริษัท Fundstrat นั้นยังได้กล่าวถึงภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงราคา Bitcoin ว่าจริงๆ แล้วนั้นการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้ต่อราคาของเหรียญนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักอย่างเช่น ความไม่มั่นคงของสภาวะทางการเมืองระหว่างประเทศ เหตุการณ์ความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงเหตุการณ์สำคัญอย่างการ Halving นั้นจะเข้ามาตัวกำหนดทิศทางนั่นเอง แต่ทั้งนี้ตัวเขาก้ได้เชื่อว่าราคา Bitcoin นั้นกำลังมุ่งหน้าไปในช่วงขาขึ้นอยู่
นาย Travis Kling จากบริษัทด้านการวิเคราะห์ตลาดคริปโตในชื่อ Ikigai นั้นยังได้แสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่าราคาของเหรียญดังกล่าวนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นหในช่วงที่มีเหตุการณ์การ Halving เกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดนตัวเขาได้อ้างอิงกราฟซึ่งแสดงให้เห็นว่าเส้นทะแยงมุมระหว่างเส้นแนวต้านและเส้นแนวรับนั้นจะเข้าตัดกันอย่างพอดีในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2020 นี้ประกอบกับหลักความหายากที่จะส่งผลให้ปริมาณเหรียญที่ถูกขุดขึ้นมานั้นมีจำนวนน้อยลง ส่งผลให้ราคานั้นพุ่งสูงขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นอาจส่งผลกระทบต่อตลาดโดยเฉพาะราคาของตัวเหรียญเองในหลายด้าน ซึ่งกรณีอาจไม่ใช่ขาขึ้นเสมอไปเนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆที่จะตามมาหลังการ Halving อย่างเช่นความเป็นไปได้ที่เหล่าผู้ประกอบการด้านการขุดเหรียญรายใหญ่ๆอาจตัดสินใจในการเลิกกิจการโดยการขายเหรียญที่ได้ถืออยู่เนื่องจากการดำเนินการขุดเหรียญหลังจากการ Halving นั้นจะมีต้นทุนที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า
นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถพบเห็นเหล่านักลงทุนซึ่งได้ตั้งเป้าการลงทุนในระยะยาวว่าตลาดนั้นจะยังคงเป็นขาขึ้นต่อไปในจำนวนมาก ซึ่งการกลับตัวลงของตลาดดังกล่าวจะส่งผลกับนักลงทุนกลุ่มนี้อย่างมากแน่นอน โดยจังหวะนี้เองที่เป็นโอกาสสำคัญในการเข้าเตรียมพร้อมลงทุนสำหรับขาลงที่จะทำให้เหล่านักลงทุนระยะยาวนั้นต้องทุบหม้อข้าวตัวเองทิ้งนั่นเอง
เพื่อเป็นการสนับสนุนความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ขาลงที่อาจเกิดขึ้นได้นั้น เราจึงควรย้อนไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างการ Halving ครั้งก่อนในปี 2016 ซึ่งส่งผลกระทบให้ราคาของเหรียญนั้นร่วงลงไปอย่างฉับพลันจากระดับ 663 ดอลลาร์ไปสู่ 465 ดอลลาร์จากการเทขายเหรียญของนักลงทุนในตลาด ซึ่งหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกครั้งในรอบนี้ การกลับตัวลงของราคา Bitcoin เป็นตลาดขาลงก็อาจเป็นไปได้อย่างมากนั่นเอง
ที่มา : Coinspeaker
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น