หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ ทางประเทศจีนได้มีการเปิดตัวแผนการสร้างเหรียญดิจิทัลในชื่อDigital Currency DCEP (Digital Currency Electronic Payment, DC/EP) ซึ่งกับกำดูแลโดยรัฐบาลกลางเพื่อที่จะนำเข้ามาใช้แทนเงินหยวนแบบกระดาษ โดยโครงการดังกล่าวนั้นได้อยู่ในขั้นเริ่มการเตรียมการภายในและยังมีเป้าหมายที่จะเปิดให้ประชาชนใช้งานภายในปี 2020 นี้แล้วอีกด้วย
ทั้งนี้ข้อมูลการดำเนินการเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวนั้นยังได้รับการเปิดเผยไม่มากนัก โดยมีเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นที่ได้รับการเผยแพร่จากรัฐบาล ซึ่งกรณีก็ได้สร้างความกังวลอย่างมากให้กับวงการคริปโต เนื่องจากการที่ประเทศมหาอำนาจนั้นกำลังจะเปลี่ยนแปลงสกุลเงินของตนเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่จะมีคนใช้มากที่สุดในโลกในไม่ช้านี้
หนึ่งในบุคคลสำคัญของวงการคริปโตอย่างนาย Vitalik Buterin ซึ่งเป็นผู้บริหารของโครงการ Ethereum นั้นยังได้ออกมากล่าวตั้งข้อสังเกตุถึงรูปแบบการดำเนินการของสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ของเขาว่าตัวเขานั้นไม่แน่ใจว่าสกุลเงินดิจิทับของจีนนั้นจะมีคุณสมบัติของความโปร่งใส่ในการติดตามรายการธุรกรรมต่างๆได้อย่างที่มีในสกุลเงินคริปโตอื่นๆอย่าง Ethereum หรือไม่
Important tech question about these CBDCs that are starting to pop up (CC @mg0314a): will transactions be cryptographically provable? That is, if I send you N coins, can I generate a cryptographic proof that this happened that can be verified on the ethereum chain? …
— vitalik.eth (@VitalikButerin) February 4, 2020
ข้อมูลเบื้องต้นจากรายงานของโครงการดังกล่าวนั้นได้มีการพูดถึงระบบในการติดตามรายการธุรกรรมภายในเครือข่ายสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวซึ่งออกแบบโดยประเทศจีนและมีการนำการวิเคราะห์ Big Data มาใช้งานกระกอบกันในการวิเคราะห์และประมวลผลธุรกรรมที่เกิดขึ้นในระบบ อีกทั้งยังจะเข้าช่วยในการปรับใช้มาตรการทางการเงินจากฝั่งรัฐบาลแก่ตลาดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย แต่ทั้งนี้กรณีดังกล่าวนั้นก็ไม่ได้มีการระบุว่าระบบนั้นจะมีคุณสมบัติอย่างเดียวกับเหรียญคริปโตแต่อย่างใด
สำหรับคำถามดังกล่าวของนาย Buterin นั้นก็ได้มีการโต้ตอบโดยนาย Matthew Graham ซึ่งเป็นทั้งผู้บริหารของบริษัท Sino Capital และผู้จัดการทั่วไปของสหพันธ์การลงทุนของประเทศจีนนั้นได้อาศัยเส้นสายของเขาในการสอบถามข้อมูลจากหนึ่งในผู้นำโครงการสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวของประเทศจีน โดยแม้ว่าเนื้อหาที่ได้รับการตอบกลับมานั้นจะมีไม่มากนัก แต่ก็เป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญที่มีความน่าสนใจ
2) “In the first step, CBDC will be not necessarily related to blockchain. It will be designed to a substitute for M0, with attributes similar to cash, and will be interest-free, while a cash-like CBDC may lead to the disappearance of paper-based cash.”
— Matthew Graham (@mg0314a) February 8, 2020
นาย Graham นั้นได้เปิดเผยถึงคำตอบดังกล่าวผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ของเขาซึ่งกล่าวว่าสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวนั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแทนที่เงินตราประเภท M0 หรือเงินกระดาษซึ่งไหลเวียนอยู่ภายในระบบเศรษฐกิจนอกเหนือจากที่รัฐบาลได้ถือไว้ ซึ่งจะมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับเงินปกตินั่นเอง โดยจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่มีการคิดดอกเบี้ยบนตัวสกุลเงิน อีกทั้งจะไม่เป็นสินทรัพย์ซึ่งสร้างมูลค่าในการลงทุนเพิ่มเติมอีกด้วย
สกุลเงินดังกล่าวนั้นเมื่อได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะกลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลซึ่งมีผู้ใช้งานจำนวนมากที่สุดในโลกเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่บังคับให้ผู้ซื้อขายทุกรายต้องยอมรับสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวในการดำเนินการค้าขาย ดังนั้นแล้วเมื่อสกุลเงินดังกล่าวนั้นถูกควบคุมโดยรัฐบาลกลาง จึงเรียกได้ว่ามันเป็นการพลิกวงการคริปโตซึ่งมีแนวคิดที่จะปลดแอกตัวเองออกจากการควบคุมของรัฐ ซึ่งเราต่างต้องจับตาดูกันต่อไปว่าสกุลเงินที่ทรงอำนาจนี้จะส่งผลอย่างไรต่อวงการคริปโต
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น