ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin ก็ดลงอย่างเห็นได้ชัด มันมีเทรนด์เป็นทิศทางขาลงจนทำให้นักลงทุนและชุมชนคริปโตต่างเป็นกังวลกันว่ามันจะเป็นอย่างไรกันแน่ และก็ได้มีนักวิเคราะห์มากมายออกมาชี้ว่า ในอนาคตข้างหน้า ราคาของมันจะเป็นอย่างไรกันแน่
Bitcoin อาจถึงจุดกลับตัวแล้ว
ตั้งแต่ต้นปี 2020 ยาวมาจนตลอดช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ราคาของ Bitcoin ก็ทะยานอย่างต่อเนื่องกว่า 46 เปอร์เซ็นต์ จาก 7,172 ดอลลาร์ ไปแต่ยังจุดสูงสุดที่ 10,500 ดอลลาร์ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่จากหลังจากที่ขึ้นไปแตะ All-time high ในรอบปีไม่นาน ราคาของมันก็ดิ่งลงมาเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ จนทำให้แตะถึงระดับ 8,455 ดอลลาร์เลยทีเดียว
อ้างอิงจากตัวชี้วัดอย่าง Crypto Fear and Greed Index (CFGI) แล้ว การเทขายครั้งล่าสุดของตลาดส่งผลให้นักลงทุนต่าง ๆ เกิดความกลัวมากขึ้น ตัวชี้วัดนี้จะทำการรวบรวมและวิเคราะห์อารมณ์ พร้อมกับทิศทางของตลาดจากข้อมูลแหล่งต่าง ๆ เช่น ความผันผวน, ปริมาณการเทรด, Social Media, แบบสำรวจ และ Market Dominance จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาคำนวณเป็นตัวเลข โดย 0 แปลว่า ‘กลัวถึงขีดสุด’ และ 100 แปลว่า ‘โลภถึงขีดสุด’
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค่า CFGI ก็ได้แตะ 39 ซึ่งบ่งบอกว่า นักลงทุนเริ่มมีความกลัวในตลาดแล้ว และก็ถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบปีเลยก็ว่าได้
อ้างอิงจาก Glassnode แล้ว ในการปรับฐานของราคาครั้งนี้ ก็ได้มีจำนวนกิจกรรมในเครือข่าย Bitcoin ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน มันได้เผยว่าในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เครือข่าย Bitcoin ทำผลงานได้ดี แต่หลังจากที่ราคาร่วงลง กิจกรรมต่าง ๆ ก็ร่วงลงตาม เช่น ปริมาณการทำธุรกรรมหากันลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ และจำนวนของ Wallet ที่ใช้งานประจำก็ลดลงด้วยกว่า 4 เปอร์เซ็นต์
ยังคงไปต่อได้อยู่
ถึงแม้ราคาของ Bitcoin จะดิ่งลงอย่างหนัก แต่ Glassnode ก็ชี้ว่า กิจกรรมต่าง ๆ ที่ลดลงในเครือข่ายนั้นแค่ลดลงเฉย ๆ และยังมีโอกาสกที่เครือข่าย Bitcoin จะกลับมาคึกตักอีกรอบ ถ้ามีการกลับตัวในสัปดาห์ต่อ ๆ ไปข้างหน้า
ถ้าดูจากกราฟของ Bitcoin แล้ว ล่าสุด มันเพิ่งที่จะทำ Golden Cross ใน Time Frame รายวัน ซึ่งพฤติกรรมราคาแบบนี้เป็นที่รู้กันดีว่า เป็นสัญญาณของการกลับตัวที่พึ่งพาได้มาก ๆ
นอกจากนี้ Bitcoin ยังร่วงลงไปแตะเส้น Moving Average 50 และ 200 วันด้วย ทำให้มีโอกาสขึ้นไปอีกว่า ราคาของ BTC จะกลายเป็นขาขึ้นในเร็ว ๆ นี้
อ้างอิงจาก Glassnode แล้ว ดูเหมือนมันจะมีแนวรับที่ระดับ 8,200 และ 8,500 ดอลลาร์ ตรงส่วนนี้เองที่จะป้องกันไม่ให้ราคาของ Bitcoin ลงไปปรับฐานต่ำกว่านี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตลาดเองก็ควรจะคิดถึงความเป็นไปได้ที่ราคาของมันร่วงลงไปต่ำกว่า 8,000 ดอลลาร์ด้วย
มีตัวชี้วัดอย่าง MVRV Z-Score ก็ชี้ด้วยว่า ตอนนี้ Bitcoin ยังมีมูลค่าน้อยกว่าความเป็นจริง และยังมีพื้นที่อีกมากให้เติบโตก่อนที่ตลาดจะไปแตะจุดสูงสุดรอบต่อไป
และตัวชี้วัดอย่าง Short Term Holder MVRV เองที่นำพฤติกรรมของนักลงทุนในระยะสั้นมาคำนวณ ก็บอกด้วยว่า Bitcoin มีโอกาสกลับตัวอยู่:
“ถ้าดูข้อมูลจากในอดีตแล้วจะพบว่า มันมีความสัมพันธ์กับเทรนด์ขาขึ้นของ Bitcoin ที่จะมีแนวรับในราคาที่สูงขึ้น แต่ถ้ามีเหตุการณ์อะไรที่สำคัญเกิดขึ้น ก็อาจส่งผลกับความมั่นใจของนักลงทุนในตลาดได้ ซึ่งตัวชี้วัดนี้บอกว่า Bitcoin ยังมีพื้นที่อีกมากในการเติบโตแบบก้าวกระโดด”
เดินหน้าต่อไป
อ้างอิงจาก Rekt Capital นักวิเคราะห์ชื่อดังในชุมชนคริปโต ได้ทำการเขียนบทความล่าสุดอย่าง ‘Bitcoin Halving – ทุก ๆ เรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับมัน’ ขึ้นมา ซึ่งในบทความนั้นได้มีการบ่งบอกว่า 100 วันก่อนการ Halving ในปี 2012 ราคาของ Bitcoin ก็ร่วงลงไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ และ 24 วันก่อนการ Halving ในปี 2016 ก็มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นเช่นกัน ที่ทำให้มูลค่าลดลงกว่า 38 เปอร์เซ็นต์
ถึงแม้ในการปรับฐานแต่ละรอบก่อนการ Halving นั้นจะเป็นคนละช่วงเวลากัน แต่ในตอนนี้ก็เหลือเพียง 87 วันก่อนการ Halving ครั้งต่อไปแล้ว ไม่แน่ว่า การร่วงลงในรอบนี้อาจเป็นจุดปรับฐานครั้งสำคัญ ที่ต่อไปราคาของมันจะทะยานอย่างไม่หยุดแล้ว
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ Bitcoin มีมูลค่าอยู่ที่ 8,727 ดอลลาร์ ลดลง 1.58 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 44,400 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin มีมูลค่าโดยรวมที่ 159,218 ล้านดอลลาร์
โดยภาพรวมแล้ว Bitcoin เองยังคงมีความหวังอยู่ทั้งในแง่ของด้านกราฟ และด้านพื้นฐาน ไม่ได้กลายเป็นขาลงแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะงั้นนักลงทุนควรเตรียมพร้อมกลยุทธ์ให้ดีต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขาลง หรือเป็นขาขึ้นก้ตาม และอย่าให้อารมณ์ชักนำให้ทำการเทรดแบบไร้สติ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น