แม้ว่าในช่วงวันที่ผ่านมานี้เหล่าสาวกคริปโตจะรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างแล้วจากการเพิ่มขึ้นของราคาของเหรียญคริปโตบางสกุลอย่างเช่น Tezos และ Bitcoin Cash โดยสภาพตลาดโดยรวมนั้นได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาจากในช่วงวันก่อนมากถึง 14.93% โดยเหรียญคริปโตหลักของตลาดอย่าง Bitcoin นั้นได้มีราคาอยู่ในช่วงกึ่งกลางของระดับ 5,000 ดอลลาร์นั่นเอง
อ้างอิงข้อมูลจากนักลงทุนรายหนึ่งซึ่งใช้ชื่อบัญชีบนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ว่า “Joker” นั้นได้มีการเปิดเผยถึงกราฟที่แสดงการเปลี่ยนแปลงราคาของ Bitcoin ซึ่งมีการวิ่งลงไปแตะเส้นแนวต้าน (เส้นสีน้ำเงิน) ซึ่งได้ถูกร่างไว้บนกราฟและได้มีการกลับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับปัจจุบัน โดยระดับดังกล่าวนั้นได้มีการเน้นย้ำถึงช่วงราคาที่ 4,800 ดอลลาร์ซึ่งหากมีการลดลงไปต่ำกว่าระดับดังกล่าวแล้วเหรียญดังกล่าวนั้นเสี่ยงต่อการร่วงลงกว่า 50% ไปอยู่ที่ระดับ 2,300 ดอลลาร์ได้เลยทีเดียวนั่นเอง
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของเหรียญหลักของตลาดนั้นได้ส่งผลกระทบต่อเหรียญคริปโตอื่นๆอย่างมาก โดยเฉพาะเหรียญอย่าง XRP ซึ่งในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงลดลงของสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากดัชนีชี้วัดจากสามแหล่งพื้นที่หลักซึ่งได้มีการให้บริการในตัวแพลทฟอร์มที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ Ripple ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญ XRP โดยตรงอย่าง On-Demand Liquidity หรือ ODL
การเปลี่ยนแปลงปริมาณสภาพคล่องของเหรียญดังกล่าวบน ODL ของพื้นที่แล้วเป็นดังนี้คือ แพลตฟอร์ม Bitso ในประเทศเม็กซิโกนั้นอยู่ที่ 11,475,819 เหรียญจากระดับก่อนหน้าที่ 20,391,941 เหรียญ หรือแพลตฟอร์ม Coins.ph ในประเทศฟิลิปินส์ที่ระดับ 4,498,011 เหรียญเมื่อเทียบกับระดับก่อนหน้าที่ 7,992,120 เหรียญ รวมถึงแพลตฟอร์มอย่าง BTC Markets ซึ่งมีระดับปัจจุบันที่ 4,941,278เหรียญจากระดับก่อนหน้าที่ 7,164,301 เหรียญนั่นเอง
ดังนั้นแล้วการเปลี่ยนแปลงลดลงดังกล่าวของปริมาณสภาพคล่องของเหรียญในตลาดประกอบกับการร่วงของราคาเหรียญคริปโตหลักอย่าง Bitcoin นั้นได้ส่งผลให้เหรียญอย่าง XRP นั้นมีราคาลดลงจากเดิมที่ 0.19 ดอลลาร์มาสู่ 0.15ดอลลาร์ และ 0.13 ดอลลาร์ในที่สุด โดยหากกรณียังเป็นเช่นนี้ต่อไปอาจส่งผลให้เหรียญดังกล่าวร่วงลงไปได้มากถึงระดับที่ 0.05 ดอลลาร์ได้เลยทีเดียว
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น