<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Deutsche Bank เผย ไวรัสโคโรน่ากำลังผลักดันให้เกิดการปฏิวัติทางการเงินให้เป็นดิจิทัลทั้งหมด

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาง Marion Laboure นักวิเคราะห์จากธนาคารอันดับต้น ๆ ในเยอรมัน Deutsche Bank ได้ออกมาเผยถึงเอกสารฉบับหนึ่งที่เธอมีส่วนช่วยในการเขียนขึ้นมา โดยเอกสารดังกล่าวนั้นได้มีการเผยว่าวิกฤตโรคระบาดไวรัส COVID-19 ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้มีเงินสดหรือธนบัตรเป็นส่วนช่วยในการทำให้มันเกิดการระบาดได้ง่ายขึ้น และนั่นอาจส่งผลทำให้ความสนใจในการสร้างเหรียญ Cryptocurrency ของรัฐบาลนั้นมีสูงขึ้นตามมาด้วย

ผู้ว่าธนาคารกลางจากหลาย ๆ ประเทศนั้นเริ่มที่จะออกมาชี้ถึงข้อเสียและภัยคุกคามของเงินกระดาษ ที่มีส่วนช่วยเพิ่มความเสี่ยงในการทำให้ผู้คนติดไวรัสโคโรน่ามากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้กำลังผลักดันให้เกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ของระบบการเงินไปสู่การใช้สกุลเงินดิจิทัลเต็มตัว โดยจากที่เราได้เห็นมาในรายงานข่าวหลาย ๆ ครั้งว่าธนาคารกลางในหลายประเทศทั่วโลกกำลังแสดงความสนใจในการทดสอบเจ้าเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

เงินสดนั้นถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ล้าหลังในหลาย ๆ ประเทศ โดยตัวอย่างที่มีให้เห็นอย่างชัดเจนมาแล้วก็คือประเทศจีนที่มองว่ามันเริ่มไม่จำเป็นอีกต่อไปในยุคดิจิทัล เมื่อร้านค้าหลายแห่งในประเทศจีนนั้นต้องเกาหัวหากคุณยื่นธนบัตรให้พวกเขา ก่อนที่จะได้รับคำตอบมาว่าไม่มีเงินทอน เพราะพวกเขาไม่ได้เก็บเงินสดไว้ในแคชเชียร์เลยแม้แต่หยวนเดียว

คำพูดของนาง Laboure นั้นถูกนำมากล่าวบนทวีตของธนาคาร Deutsche Bank ว่า

“โรคระบาดจากไวรัส COVID-19 นั้นกำลังช่วยกระตุ้นการมาของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง เมื่อรัฐบาลหลาย ๆ แห่งทั่วโลกกำลังมองเห็นถึงความเสี่ยงในด้านการถือเงินสด และนี่จะกลายเป็นตัวแปรหลัก ๆ ที่ทำให้พวกเรามุ่งหน้าไปสู่ยุคของสกุลเงินดิจิทัล”

ไวรัสโคโรน่าถือเป็นตัวเร่งระบบการเงินแห่งอนาคต?

ก่อนหน้านี้ธนาคาร Deutsche Bank ได้ออกมาเผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับแนวคิดของพวกเขาเกี่ยวกับอนาคตของการเงิน และการจ่ายเงินในอีกบทความหนึ่งที่มีนาง Laboure เป็นผู้ช่วยประพันธ์อีกด้วย โดยเนื้อหาส่วนใหญ่นั้นพูดถึงว่าเงินสดนั้นจะสามารถเอาตัวรอดได้อย่างไรในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม เนื้อหาดังกล่าวนั้นถูกเผยแพร่เมื่อตอนช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงที่ไวรัสนั้นยังไม่ระบาดรุนแรงเท่าตอนนี้

ในขณะเดียวกันการเติบโตในด้านของการพัฒนาของสกุลเงินคริปโตของธนาคารกลางหรือ CBDC นั้นก็เริ่มที่จะมากขึ้นแล้วด้วยเช่นกัน โดยมีตัวบ่งชี้หลัก ๆ ก็คือเนื้อหาในงานสัมนา World Economic Forum ที่ถูกจัดขึ้นที่เมือง Davos ก่อนหน้านี้ ได้เผยให้เห็นว่าธนาคารกลางใหญ่ ๆ นั้นกำลังสำรวจศักยภาพในการทำให้เงินสดทั้งหมดอยู่ในรูปแบบของดิจิทัลหมด

ตามที่นาง Laboure ได้กล่าวเอาไว้แล้ว การผลักดันเพื่อยกเลิกการใช้เงินสดนั้นจะช่วยผลักดันการใช้สกุลเงิน CBDC ของธนาคารมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือจีนที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าพวกเขาเริ่มที่จะทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบนเงินสด ท่ามกลางการระบาดของไวรัสดังกล่าว

นอกจากนี้จีนนั้นยังเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ อีกด้วยที่ออกมากล่าวเปิดตัวสกุลเงินคริปโตของพวกเขาเองหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ซุ่มพัฒนามาอยู่นานพอสมควร

ผู้คนต้องได้รับการกระตุ้น

ส่วนหนึ่งของการที่ยังทำให้การเลิกใช้เงินสดทั่วโลกยังถือเป็นเรื่องยากนั้นก็เป็นเพราะว่าเรื่องวัฒนธรรม, นิสัย และพฤติกรรมของประชาชนในหลาย ๆ ประเทศที่ยังคงไม่สามารถหยุดใช้เงินสดได้อยู่ โดยอ้างอิงจากผลสำรวจของธนาคาร Deutsche Bank นั้น 1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างที่อยู่ในประเทศที่เศรษฐกิจเจริญแล้วเลือกที่จะใช้เงินสดมากกว่า เพราะพวกเขาเชื่อว่าเงินสดนั้นจะยังคงอยู่ตลอด ไม่ไปไหน

อย่างไรก็ตาม เมื่อวิกฤตไวรัสโคโรน่านั้นเริ่มที่จะแสดงความน่ากลัวมากขึ้นทั่วโลก มันเริ่มที่จะผลักดันให้ร้านค้าหลาย ๆ ร้านในหลาย ๆ ประเทศเลือกที่จะไม่รับเงินสดแล้วในขณะนี้ และพฤติกรรมเหล่านี้อาจช่วยทำให้ผู้คนเริ่มเห็นคุณค่าในสกุลเงินดิจิทัลขึ้นมา เนื่องจากว่ามันมีด้านดีในเรื่องของความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงการที่มันทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องไปเสี่ยงติดเชื้อในภาวะเช่นนี้อีกด้วย

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น