เมื่อไม่นานมานี้ CEO ของกองทุนเพื่อสังคม The Social Capital ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าคนร่ำรวยที่สุดในอเมริกาไม่ควรได้รับความช่วยเหลือทางด้านภาษีและพวกเขาสมควรได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ชัดเจนแล้วว่ามันเป็นมาตรการรักษาความ ‘สมดุล’ สำหรับการให้ความสนับสนุนกับชาวอเมริกันในทุก ๆ ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือบริษัทเอกชนต่างๆ อย่างไรก็ตามการพิมพ์เงินที่ไม่มีหยุดมีหย่อนของ Fed นั้นได้บอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนี่จะเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมตลาดการเงินและให้การสนับสนุนองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนว่าจะมีการให้ความสำคัญก่อนเป็นอันดับแรก
ปล่อยให้พวกเขาตายไปซะ
นาย Chamath Palihapitiya CEO ของกองทุนเพื่อสังคม The Social Capital ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ว่า ตอนนี้เขามีความกังวลอย่างมากว่า ตอนนี้รัฐบาลใช้วิธีการเยียวยาบริษัทและชาวอเมริกันที่ร่ำรวยในช่วงวิกฤตนี้ผิดไป
เขากล่าวว่า “ใครสน? ปล่อยให้พวกเขาตายไปซะ”
โพสต์นี้ได้ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วโดยชาวเน็ตและดูเหมือนว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับเรื่องนี้
นอกจากนี้นาย Palihapitiya ยังได้กล่าวเน้นย้ำอีกว่า “มีการโกหกมากมายเกิดขึ้นที่วอลล์สตรีท” เมื่อบริษัทล้มละลาย พวกเขามักจะพูดว่าบริษัทจำเป็นต้องไล่พนักงานทุกคนออกไป แต่ในความเป็นจริงแล้วการล้มละลายส่วนใหญ่มักจบลงด้วยการที่บริษัทได้เงินของพวกเขาคืน ส่วนผู้คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือนักเก็งกำไรและผู้ที่ถือหุ้น
คำพูดของนาย Palihapitiya ต้องการชี้ให้ว่าบุคคลและกองทุนเหล่านี้ไม่สมควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ พวกเขาไม่ใช่กลุ่มคนที่ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นและนั่นคือการลงทุนที่พวกเขาเลือก ซึ่งเมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจไปแล้วพวกเขาก็ต้องพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในฐานะนักลงทุนคนหนึ่ง
ยังคงเชื่อมั่นใน Bitcoin
ความคิดเห็นล่าสุดของ Palihapitiya มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าไม่มีใครในตลาดที่สมควรได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ
CEO ของกองทุนเพื่อสังคม กล่าวว่าเขาได้ซื้อ Bitcoin จำนวนมากกลับคืนในปี 2013 เมื่อมันมีซื้อขายกันอยู่ที่ระดับ $ 80 เขาอ้างว่าเขาเป็นเจ้าของประมาณ 5% ของ BTC ของหมุนเวียนอยู่ทั้งหมด ณ ช่วงเวลานั้น
เนื่องจากระบบการเงินดูอ่อนแอกว่าที่เคย Bitcoin ก็อาจจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยในสักวันหนึ่ง แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกเส้นทางของสังคม ด้วยเหตุนี้นาย Palihapitiya จึงยืนยันว่า “มันอาจมีมูลค่าเหลือศูนย์หรือมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นล้านก็อาจเกิดขึ้นได้”
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แนะนำว่าการลงทุนใน Bitcoin จะได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้นในทันที หากวิกฤตเศรษฐกิจเลวร้ายลงไปอีก ในความเป็นจริงแล้วมันยังคงเป็นการเก็งกำไรรูปแบบหนึ่งที่จะยังคงมีความผัวผวนมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางช่วงวิกฤตในครั้งนี้ แต่ถึงกระนั้นนาย Palihapitiya ยังเชื่อมั่นว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะมีแสงสว่างรออยู่ที่ปลายอุโมงค์สำหรับ Bitcoin
ที่มา : beincrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น