<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

The Sandbox เกมแนว Minecraft แต่ให้คุณซื้อขายที่ดินและไอเท็มในเกมได้ผ่าน Blockchain

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บทความนี้จะมาพูดถึงเกม The Sandbox ที่สร้างขึ้นเอาใจแฟนๆ ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งสินทรัพย์ที่อยู่ในเกมจะสร้างอยู่บนบล็อกเชนและเชนที่ The Sandbox เลือกใช้ก็คือของ Ethereum นั่นเอง แล้วความพิเศษของ The Sandbox มีอะไรบ้างล่ะ?

ดีไซน์เกม The Sandbox

เกม The Sandbox มีลักษณะคล้ายกับเกม Minecraft ซึ่งภาพต่างๆ บนเกมจะเป็นแบบสามมิติทั้งหมดให้อารมณ์เหมือนเกมในสมัยก่อนแต่ก็มีความทันสมัยเพราะลักษณะพิเศษของเกม The Sandbox คือนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ประโยชน์มันเป็นแพลตฟอร์มที่ Decentralized และขับเคลื่อนด้วยกลุ่มชุมชนที่อยู่ในระบบนิเวศดังนั้นผู้เล่นจึงเป็นผู้สร้างคอนเท็นต์โดยตัวเกมนี้จะทำให้ผู้เล่นสร้างโมเดล Voxel สามมิติในเกมได้

ผลิตภัณฑ์หลักๆ ของ The Sandbox นั้นประกอบไปด้วยเครื่องมือสำหรับสร้าง Voxel 3D, Marketplace ให้ผู้คนมาค้าขายสินค้ากันและสภาพแวดล้อมในเกมที่ให้คนเล่นมาเล่นไอเท็มที่สร้างขึ้น

ดังนั้นความตื่นเต้นของเกมส์ดังกล่าวก็คือการที่คุณสามารถทำอะไรก็ได้ในเหมือนกับในเกมส์ Minecraft แต่สิ่งที่แตกต่างนั้นก็คือ ไอเท็มในเกมนั้นจะไม่มีโอกาสซ้ำกันได้เลย เนื่องจากว่ามันรันอยู่บน Blockchain และใช้ฟีเจอร์อย่าง ERC-721 ที่ทำให้คุณสามารถนำไอเท็มในเกมส์ไปขายแลกเป็นเหรียญคริปโต ก่อนที่จะนำไปแลกเป็นเงินจริงได้ ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่าเราอาจจะได้เห็นการกำเนิดอาชีพใหม่ในเกมส์ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามต้องขอบอกผู้ที่สนใจทุกท่านว่าในตอนนี้ทาง The Sandbox เปิดลงทะเบียนล่วงหน้าซึ่งยังไม่ได้เปิดให้เล่นจริง ดังนั้นแล้วจึงอาจไม่สามารถรีวิวตัวเกมได้ว่าเป็นอย่างไรซึ่งหากตัวเกมเปิดตัวออกมาแล้วอาจจะมีรูปร่างหน้าตาเกมที่แตกต่างไปจากวีดีโอที่แนบมานี้ก็ได้

การสมัครใช้งาน

ก่อนอื่นเลยที่จะสมัครสมาชิกเพื่อเข้าลงทะเบียนเล่นเกมล่วงหน้าได้ผู้ใช้งานจะต้องมีการติดตั้งวอลเล็ทเพื่อเอาไว้เก็บเหรียญคริปโตก่อนซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะลงทะเบียนแบบ Beginner หรือ Expert ก็ได้ ซึ่งขั้นตอนการสมัครนั้นมีหลายขั้นตอน ผู้สมัครต้องจด username, password,  Backup Phrase (ในกรณีสมัครแบบ Expert) และห้ามทำหาย

อันดับแรกเราเลือกกดไปที่ช่อง sign up with wallet ก่อน

ในส่วนของ Beginner จะใช้ Bitski Wallet และในส่วนของ Expert จะให้เลือกติดตั้งเป็น MetaMask หรือ Opera ก็ได้ ซึ่งทางผู้เขียนได้ลงทะเบียนกับ  Bitski Wallet

เมื่อลงทะเบียนใส่อีเมลและพาสเวิร์ดเสร็จสิ้นแล้วกดเข้าใช้งานมันก็จะล็อกอินให้เราอัตโนมัติ

ส่วนการสมัครวอลเล็ทแบบ Expert นั้นสามารถเลือกได้ว่าจะสมัครของ MetaMask หรือของ Opera

เนื่องจากทางผู้เขียนได้สมัครแบบ Beginner เอาไว้แล้วและจะมาทำการรีวิวขั้นตอนของการสมัครเข้าใช้งานด้วยวอลเล็ทแบบ Expert กันซึ่งทางผู้เขียนเลือกใช้วอลเล็ทของ MetaMask การเลือกติดตั้งวอลเล็ทแบบ Expert นี้แตกต่างจากอันแรกคือมีขั้นตอนที่มากกว่าและมี  Backup Phrase ให้เราด้วยซึ่งตรงนี้ต้องเขียนหรือถ่ายเก็บเอาไว้ซึ่งผู้เขียนจะอธิบายต่อภายหลัง

 อันดับแรกผู้ใช้งานต้องดาวน์โหลด Metamask ก่อน

จากนั้นก็กด Add to Opera

แล้วก็จะมีหน้าต่างส่งมาขออนุญาตให้ The Sandbox เชื่อมต่อกับบัญชีของเราจากนั้นเราก็กด Connect

พอกด Connect เสร็จสิ้นก็ให้เรากด Get Started

จากนั้นเราก็กดไปที่สร้างวอลเล็ท (Create Wallet) สำหรับคนที่ยังไม่มีวอลเล็ทของ MetaMask แต่หากมีอยู่แล้วก็กดนำเข้าวอลเล็ทได้เลย (Import Wallet)

จากนั้นก็จะมีหน้าตาสอบถามเราให้กดเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยในวิธีการจัดการข้อมูลของ MetaMask

เมื่อกดเรียบร้อยก็เข้ามาสร้างรหัสผ่านซึ่งต้องสร้างอย่างน้อย 8 ตัวอักษรขึ้นไป

เมื่อสร้างรหัสผ่านแล้วคราวนี้ก็มาดู Backup Phrase ของเราซึ่งอันนี้สำคัญมากๆ เราต้องจดเอาไว้หรือถ่ายรูปเอาไว้ห้ามทำหายเด็ดขาดเพราะตัว  Backup Phrase นี้จะเอาไว้สำรองข้อมูลและกู้คืน (restore) ข้อมูลให้เรา และห้ามเปิดเผย Backup Phrase นี้ให้กับใคร

พอเปิดดู  Backup Phrase ของเราแล้วเราก็ต้องกด Backup Phrase นั้นลงในกรอบด้านล่างนี้ซึ่งจะมีคำต่างๆ ปรากฏขึ้นให้เรากดเรียงตาม

เมื่อยืนยัน Backup Phrase เสร็จเรียบร้อยก็จะมีหน้าต่างส่งมายืนยัน

จากนั้นเมื่อได้รับข้อความตามภาพด้านบนก็สามารถเข้าไปเช็คดูกระเป๋าของ MetaMask สามารถกดฝากหรือส่ง ETH ได้ทันที

โดยสามารถเลือกฝากเหรียญ ETH ผ่านกระเป๋าอื่นของเราที่มี ETH อยู่แล้วหรือผ่านทางทาง Wyre หรือ CoinSwitch ก็ได้

หลังจากนั้นเมื่อทำทุกขั้นตอนเสร็จสิ้นก็กลับมาที่หน้าเว็บไซต์ The Sandbox แล้วก็รีเฟรชที่หน้าเว็บไซต์ The Sandbox กระเป๋า MetaMask ก็จะถูกเพิ่มเข้าไปที่ Google Extension

เมื่อกดรีเฟรชเรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ให้ผู้ใช้งานกรอกอีเมลและชื่อเล่นที่เราต้องการให้ปรากฏอยู่ในเกม The Sandbox

เมื่อกดสร้างอีเมลและชื่อเล่นเสร็จแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ในแง่ของความปลอดภัยนั้นหากติดตั้งแบบ Beginner ก็จะมีการเข้ารหัสแบบ 2 ขั้นตอนเอาไว้ (2FA) โดยเมื่อ Log in เข้าใช้งานแล้วกรอกรหัสผ่านเรียบร้อยก็จะมีรหัสอีกตัวส่งเป็นข้อความมาให้เรากรอกอีกรอบ ส่วนกระเป๋าของ MetaMask ก็จะมีกล่องเด้งขึ้นมาให้เรากดเซ็นชื่อ

ฟีเจอร์บนแพลตฟอร์ม The Sandbox

เมื่อเข้ามาแพลตฟอร์มของ The Sandbox ในหน้าแรกที่แถบด้านซ้ายมือเราจะเห็นปุ่ม Home, Shop (เป็นสถานที่ที่ให้คนมาซื้อไอเท็มสามมิติกัน), Create (เป็น VoxEdit เวอร์ชั่น Beta ที่เอาไว้สร้างโมเดลต่างๆ ในเกม), Play (เข้าเล่นเกมซึ่งต้องลงทะเบียนล่วงหน้า), Me (บัญชีของฉัน), Land (ที่ดินในเกม) และ Sand (เป็นโทเค็น erc-20 สร้างบน Ethereum Blockchain ที่เอาไว้ใช้ทำธุรกรรมในเกม)

เมื่อเปิดเข้ามาที่เว็บไซต์หน้าแรกเราก็จะเห็นว่าทางเว็บได้ดีไซน์ทุกอย่างไว้อย่างเรียบง่าย อย่างไรก็ตามโหมดภาษาที่ใช้บนเว็บนั้นไม่มีภาษาไทยให้เลือกเพราะฉะนั้นแล้วคนที่จะใช้งานได้อาจจะต้องมีความเข้าใจภาษาอังกฤษพื้นฐานระดับหนึ่ง

โดยส่วนตัวผู้เขียนเห็นว่าการออกแบบแพลตฟอร์มของ The Sandbox นั้นทำออกมาได้น่ารักและดูเรียบง่ายไม่ซับซ้อนค่อนข้างที่จะลื่นไหลในระดับหนึ่ง สีสันที่เน้นสีดำทำให้มันไม่แสบตาและตัวโมเดลในเกมก็น่าเล่นมากๆ

การซื้อขายที่ดินในเกม

อีกจุดเด่นในเกมนี้ก็คือการที่เกมนั้นให้คุณสามารถจับจองที่ดินในเกมได้แบบจริง ๆ โดยใช้เหรียญ Ethereum มาซื้อ

ทว่าที่ดินในเกมดังกล่าวนั้นได้ทำการเปิดให้ pre-sale ไปแล้วถึงสามครั้งด้วยกัน และดูเหมือนว่าครั้งที่ 4 นั้นกำลังใกล้เข้ามาแล้ว โดยที่ดินในเกมดังกล่าวนั้นจะไม่มีวันซ้ำกัน เนื่องจากว่ามันใช้มาตรฐาน ERC-721 ในการควบคุม

ที่ดินบนแผนที่ที่เห็นด้านบนนั้นจะใช้เป็นตัวที่แสดงถึงดินแดนในเกมที่คุณจะได้จับจองมันจริง ๆ ตอนที่เกมเปิดตัวแล้ว ซึ่งคุณจะใช้มันในการสร้างอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ร้านค้า หรือแม้แต่สวนสาธารณะ

หน้าตาของที่ดินในเกมจริง ๆ

ระบบนิเวศ

ระบบนิเวศของ The Sandbox จะประกอบไปด้วย Land, Asset, Sand, Gem และ Game ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นโทเค็นที่อยู่ในเกม The Sandbox และใช้บล็อกเชนของ Ethereum

โทเค็น Land สร้างโดยใช้ ERC-721 เป็นโทเค็น NFTs (non-fungible token) ก็คือเป็นที่ดินที่อยู่ในเกมซึ่งในเกมจะมีชื่อเรียกว่าจักรวาล Metaverse และ Land จะเปิดขายทั้งหมด 5 รอบด้วยกันโดยตอนนี้เปิดรอบ pre-sale ครั้งที่ 3 นี้ก็มีผู้จับจองเต็มแล้ว Land จะมีที่ดินให้ทั้งหมด 166,464 ด้วยกัน ที่ดินนี้สามารถรวมกันเพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมได้ (Estate) ซึ่งคนที่มีที่ดินถือไว้ก็จะสามารถ:

  • รักษาความปลอดภัยสถานที่ที่ต้องการ
  • มีส่วนร่วมในการเล่นเกมใน The Sandbox
  • โฮสต์เกมหรือประสบการณ์บนที่ดินของคุณ
  • รับเหรียญ SAND ด้วยการเป็นเจ้าภาพการเล่นเกมหรือให้เช่า LAND
  • จัดแข่งขันและกิจกรรมบนที่ดินของคุณ
  • มีส่วนร่วมในการกำกับดูแล Metaverse

โทเค็น Asset ใช้ ERC-1155 เป็นโมเดล Voxel ซึ่งสร้างโดยผู้เล่นและเมื่อสร้างแล้วก็สามารถทำการซื้อขายกันได้ใน Marketplace 

โทเค็น Sand ใช้ ERC-20เป็นโทเค็นที่เอาไว้ใช้ทำธุรกรรมภายในเกม เช่น เอาไว้ซื้อขายที่ดิน (Land) และโมเดล (Asset) ในเกม, ไว้ให้รางวัลผู้สร้างเกม/ เจ้าของที่ดิน, สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการระดมทุนได้และผู้ที่ถือจะมีส่วนร่วมในการกำกับดูแล โดยในตอนนี้ Sand ยังไม่เปิดขายแต่สามารถไปลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อให้มีแจ้งเตือนเข้ามาเมื่อ Sand เปิดขายแล้วได้ 

โทเค็น Gem ใช้ erc-20 เอาไว้ใช้สร้าง Assest ที่หายาก

โทเค็น Game เป็นชุดของ Asset และการเขียนสคริปต์ให้ผู้ใช้งานสามารถเล่นและสร้างเกมได้ด้วย ใช้ ERC-1155

บทสรุป

The Sandbox เป็นเกมที่จับเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง  Blockchain Technology มาปรับให้เป็นเกมที่น่าเล่นซึ่งมันจะช่วยให้การเข้าถึงเทคโนโลยีนั้นง่ายขึ้น ไม่ต้องพูดถึงผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีและบล็อกเชนอยู่แล้ว สายเกมก็ต้องชื่นชอบ ลักษณะของเกม The Sandbox ถูกออกแบบมามีความคล้ายคลึงกับเกมชื่อดัง Minecraft ที่หลายๆ คนคุ้นหูคุ้นตากันดี โมเดลและตัวเกมเป็นรูปแบบสามมิติคล้ายเกมสมัยก่อนโดยระบบเศรษฐกิจของเกมสร้างอยู่บนบล็อกเชนของ Ethereum ทั้งหมดซึ่งให้ผู้เล่นมีส่วนในการสร้างเกมได้ อย่างไรก็ตามตัวเกมนั้นยังอยู่ในขั้นตอนลงทะเบียนล่วงหน้าส่วนตัว VoxEdit ก็อยู่ในเวอร์ชั่น Public Beta ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าเมื่อเกมเปิดให้เล่นแล้วจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับวีดีโอพรีวิวมากน้อยเพียงใดก็ต้องติดตามกันต่อไป

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น