นิตยสารด้านการเงินที่ทุก ๆ คนรู้จักกันดีอย่าง Forbes นั้นได้ออกมาเผยแพร่บทความว่าราคาของเหรียญอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Bitcoin นั้นมีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นทะลุ 10,000 ดอลลาร์ก่อนการ halving ที่จะถึง ซึ่งก็คือวันที่ 12 พฤษภาคมในเดือนนี้
ปัจจุบันนักลงทุน Bitcoin นั้นต่างก็กำลังแห่กันมากักตุน Bitcoin ของพวกเขาก่อนการ havling ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนนี้ โดยภายหลังจากนั้นแล้วเหรียญที่เกิดใหม่ต่อ block นั้นก็จะถูกลดลงไปเหลือเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น
นอกจากนี้ราคาของ Bitcoin นั้นก็ได้พุ่งไปเกือบ 20% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มันทะลุ 9,000 ดอลลาร์ต่อ BTC ไปได้เป็นครั้งแรกหากนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งความตื่นเต้นนั้นก็กำลังคืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ
โดยทาง Forbes เผยว่านักลงทุนและนักวิเคราะห์ในตลาดรายหนึ่งนั้นคาดการณ์ว่าราคาของ Bitcoin นั้นมีแนวโน้มที่จะพุ่งทะลุจุดราคาแนวต้านจิตวิทยาที่ 10,000 ดอลลาร์ก่อนวันที่ 12 พฤษภาคมที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
“พวกเราคิดว่าราคาของ Bitcoin นั้นมีแนวโน้มที่จะพุ่งทะลุ 10,000 ดอลลาร์ก่อนที่การ halving จะเกิดขึ้นเสียอีก” กล่าวโดยนาย Simon Peters นักวิเคราะห์ Bitcoin จากแพลทฟอร์มเทรดฟอเร็กชื่อดัง eToro พร้อมชี้ให้เห็นถึงความบ้าคลั่งของตลาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
“ในขณะที่การ halving นั้นมักจะผลักดันให้ราคาขึ้นเป็นปกติ แต่ดูเหมือนว่านักลงทุน Bitcoin นั้นจะรอไม่ได้ และพวกเขานั้นกำลังพยายามทำตัวเองให้มีความล่วงหน้าก่อนเวลาตลอด” เขาเสริม
เราเหลือเวลาอีกแค่ 10 วันเท่านั้น เราก็จะเข้าสู่ยุคใหม่ของ Bitcoin ที่การจ่ายรางวัลนั้นจะลดลงจาก 12.5 BTC เหลืออยู่แค่ 6.25 BTC ซึ่งนั่นหมายความว่าอัตราการเกิดใหม่ของ Bitcoin นั้นจะลดลงจาก 1,800 BTC ต่อวันเหลืออยู่แค่ 900 BTC ต่อวันเท่านั้น ส่งผลทำให้ความหายากของมันนั้นเพิ่มมากขึ้นไปอีก
การ halving ของ Bitcoin นั้นจะเกิดขึ้นในทุก ๆ 4 ปีไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง Bitcoin นั้นถูกขุดขึ้นมาจนครบทั้งหมดที่ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกเป็นศตรววษเลยทีเดียว
นาย Peters ยังเอ่ยถึงตัวแปรที่จะทำให้ราคาของ Bitcoin นั้นพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในอีกสองสัปดาห์ที่จะถึงนี้อีกด้วย ซึ่งนั่นก็คือการที่นักขุด Bitcoin กำลังพยายามถือ Bitcoin ที่พวกเขาขุดขึ้นมาได้โดยไม่ขาย, การเข้ามาในตลาดของหน้าใหม่ และความกลัวในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อของเงินจริงที่ทำให้ผู้คนหันมาซื้อคริปโต
“ในด้านของระยะยาวที่มีคำถามว่าราคานั้นจะพุ่งไปถึงระดับไหน ท่ามกลางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่กำลังแย่ลงเรื่อย ๆ บวกกับการพิมพ์เงินออกมาเรื่อย ๆ อย่างไม่มีวันสิ้นสุดที่ทำให้เงินดอลลาร์นั้นกำลังอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นกำลังทำให้ความกลัวในเรื่องของเงินเฟ้อกำลังมีมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเราเชื่อว่าราคามันสามารถที่จะพุ่งไปแตะจุดสูงสุดเดิมได้ที่เหนือ 19,000 ดอลลาร์ เมื่อนักลงทุนนั้นเริ่มมองหา safe haven ที่นอกเหนือจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิมในตอนนี้” กล่าวโดยนาย Peters
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น