ข้อมูลจากทีมนักวิจัยของ Glassnode เผยว่าค่า hashrate หรือค่าแรงขุดของ Bitcoin ที่เป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการแก้ไขสมการในเครือข่ายของเหรียญดังกล่าวนั้น ได้พุ่งแตะจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยมันได้พุ่งสูงกว่า 140 EH/s ซึ่งเกิดขึ้น 8 วันก่อนการ halving ของ Bitcoin ที่กำลังจะถึงในเร็ว ๆ นี้
ค่าแรงขุดของ Bitcoin พุ่งตามราคา
หลังจากที่ราคาของ Bitcoin นั้นร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา หรือที่หลาย ๆ คนเรียกมันว่า Black Thursday ส่งผลทำให้หลังจากนั้นมีนักขุด Bitcoin เป็นจำนวนมากที่ต้องดึงปลั๊กออกเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน
นั่นส่งผลทำให้ค่าแรงขุดนั้นร่วงลงกว่า 44% ในเวลาต่อมา ซึ่งส่งผลทำให้มีการปรับค่าความยากในการขุดที่ใหญ่เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
ทว่าตั้งแต่ตอนนั้นมา ค่าแรงขุดของ Bitcoin นั้นก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับราคา โดยเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมานั้น ราคาได้พุ่งแตะ 9,481 ดอลลาร์อย่างรุนแรง
นักขุดหันมาเสียบปลั๊ก
อีกหนึ่งในสาเหตุที่เราทราบกันดีถึงสาเหตุการพุ่งขึ้นของราคานั้นก็คือการที่นักขุดนั้นกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการขุด Bitcoin ก่อนที่จะเกิดการ halving ในวันที่ 12 มีนาคมที่จะถึงนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถูกตั้งไว้เพื่อทำให้อัตราการจ่ายรางวัลนักขุด Bitcoin ลดลง 50% ในทุก ๆ 4 ปี หรือทุก ๆ 210,000 บล็อก ซึ่งหลังจากการ halving ครั้งนี้จบลง อัตราการจ่ายรางวัลนั้นก็จะลดลงจาก 12.5 BTC เหลืออยู่แค่ 6.25 BTC
ก่อนหน้านี้ เหรียญก็อปปี้อย่าง Bitcoin Cash (BCH) และ Bitcoin SV (BSV) นั้นได้ทำการ halving ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 8 เมษายน และวันที่ 10 เมษายนตามลำดับ แต่ดูเหมือนว่าค่าแรงขุดนั้นจะดูไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่นักวิเคราะห์นั้นคาดการณ์ว่าเหรียญต้นฉบับอย่าง Bitcoin (BTC) นั้นจะมีผลลัพธ์จากการ halving ที่แตกต่างออกไป
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น