Bitcoin ร่วงลงที่ระดับ 9,000 เหรียญสหรัฐอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าการเริ่มต้นของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนครั้งใหม่อาจมีส่วนทำให้ตลาดคริปโตพังทลาย
คริปโตเคอเรนซี่เบอร์หนึ่งของโลกมีมูลค่าลดลงกว่า 3.09% แตะระดับ 8,633 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของวันนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งวันหลังจากที่มันได้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ 9,203 ดอลลาร์ การร่วงลงของราคาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าระดับราคาที่ $ 9,000 ไม่สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นแนวรับที่สำคัญได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนช่วง Halving ที่กำลังจะมาถึง
ในวันที่ 12 พฤษภาคม เครือข่าย bitcoin จะทำการปรับลดอัตราการผลิตลงจาก 1,800 BTC เหลือ 900 BTC ซึ่งนักเทรดคิดว่ามันจะทำให้จำนวนอุปทานของ Bitcoin ลดน้อยลงและมีค่ามากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีโมเดลการทำนายราคาตัวใหม่ที่ทำนายว่าราคา bitcoin จะพุ่งแตะระดับ $ 100,000 ภายในสิ้นปี 2021 อีกด้วย
ดูเหมือนว่าตอนนี้นักเทรดส่วนใหญ่ได้เปิดออเดอร์ Short ของพวกเขาเพื่อทำกำไรในระยะสั้น หลังจากที่มีความเชื่อมั่นในเชิงลบเกิดขึ้น โดยนาย Mike Pompeo รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่าบทบาทของรัฐบาลจีนมีการปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า
ความตึงเครียดการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานาย Pompeo กล่าวกับสื่อข่าว ABC ว่าปักกิ่งได้ทำการจัดหาเวชภัณฑ์ในเดือนมกราคม แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่สนใจที่จะแบ่งปันข้อมูลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่อาจส่งผลกระทบกับทั่วโลก
“เราสามารถยืนยันได้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าโลกจะไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม” เขากล่าวเสริม
คำแถลงการณ์ของนาย Pompeo บอกเป็นนัย ๆ แล้วว่า ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีนกำลังเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง เห็นได้ชัดจากอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินหยวนในเช้าของวันจันทร์ ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง 0.3% ลงมาอยู่ที่ 7.1561 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 45 วัน นาย Robert Carnell หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ING กล่าวว่าการร่วงลดลงในครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
“มันเป็นไปได้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯรู้สึกกล้าที่จะเริ่มต้นสงครามการค้าครั้งใหม่ ที่ส่งผลให้หุ้นปรับตัวพุ่งสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา” เขากล่าวให้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อช่าว FT
ดัชนีหุ้น S&P 500 จนถึงขณะนี้ดูเหมือนจะตอบสนองเชิงลบต่อข่าวดังกล่าว มูลค่าของมันร่วงลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง ในขณะที่ตลาดฟิวเจอร์กำลังจะเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยกราฟสีแดง
การปรับฐานราคาของ Bitcoin
ความเสี่ยงที่จะกลับเข้าสู่ช่วงขาลงของดัชนีหุ้น S&P 500 อาจทำให้ bitcoin ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากความสัมพันธ์เชิงบวกที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น
นาย Liz Ann Sonders หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนของ Charles Schwab & Co ได้ตั้งข้อสังเกตในเดือนพฤษภาคมว่า มาตรฐานในสหรัฐนั่นเต็มไปด้วยบริษัท ‘ซอมบี้’ มีหุ้นเพิ่มขึ้น แม้จะไม่มีรายได้เพิ่ม ซึ่งนั่นคือการปั๊มมูลค่าของหุ้นที่เรียกว่า ‘ฟองสบู่หนี้’ ขององค์กร และไม่ช้าสิ่งนี้จะทำให้ดัชนีหุ้น S&P 500 พังทลาย
มูลค่าของตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ได้ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนสินทรัพย์ทุกอย่างที่พวกเขาถืออยู่ไปเป็นเงินสด รวมถึง Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 50% ในช่วงระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม ซึ่งภาพที่น่ากลัวเกี่ยวกับอิทธิพลของตลาดแบบดั้งเดิมนี้อาจจะหวนกลับมาหลอกหลอนเราอีกครั้ง
ที่มา : bitcoinist
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น