แก๊งเรียกค่าไถ่คริปโตได้ขโมยข้อมูลลับทางด้านกฎหมายที่มีขนาดความจุเกือบ 1TB จากอุตสาหกรรมวงการบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยพวกเขาได้เรียกค่าไถ่เป็นเงินคริปโตมูลค่าสูงถึง 42 ล้านดอลลาร์
แก๊งหัวขโมยได้ปล่อยเอกสารทางด้านกฎหมายของนักร้องชื่อดัง ‘Lady Gaga’ ที่มีขนาดความจุเกือบ 2GB รวมถึงข้อมูลสื่อต่าง ๆ ที่ส่งไปโจมตีสำนักงานกฎหมายนิวยอร์ก Grubman Shire Meiselas & Sacks เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกเหนือจาก Lady Gaga แล้ว บริษัทกฎหมาย Grubman Shire Meiselas & Sacks ยังมีลูกค้าที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ รวมถึง Elton John, Robert DeNiro และ Madonna โดยแก๊งนี้ ได้ทำการแฮกและถอดรหัสข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลไปได้เป็นกว่า 756GB ที่ประกอบไปด้วยสัญญาลับ , หมายเลขโทรศัพท์ , ที่อยู่ , อีเมล , การติดต่อส่วนตัว , ข้อตกลงที่ไม่เปิดเผยและอื่น ๆ อย่างไรก็ตามบริษัทได้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเหล่านั้น
เพิ่มเงินเรียกค่าไถ่เป็นสองเท่า
กลุ่ม ransomware ของ REvil ซึ่งรู้จักกันในนาม ‘Sodinokibi’ ได้โพสต์ข้อความล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า พวกเขาจะเพิ่มเงินเรียกค่าไถ่เดิมขึ้นเป็นสองเท่าและขู่ว่าจะเผยแพร่ข้อมูลการฟอกเงินของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ :
“คนต่อไปที่เราจะประกาศก็คือ Donald Trump บุคคลที่กำลังจะเข้ารับเลือกตั้งในเร็ว ๆ นี้และเราพบว่าช่วงเวลาหนึ่งเขาได้มีการฟอกเงินที่สกปรกเป็นจำนวนมาก”
แก๊งก่อการร้ายนี้ได้ส่งสารโดยตรงถึงประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ให้เขาทำการบุกค้นสำนักงานกฎหมายภายในหนึ่งสัปดาห์ หากเขาต้องการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไปและสำหรับผู้ลงคะแนนเสียงโหวตให้ทรัมป์ REvil กล่าวว่า :
“หลังจากข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกไป คุณจะไม่ต้องการเห็นเขาในตำแหน่งประธานาธิบดีอีกต่อไป”
แฮกเกอร์ขู่ว่าจะปล่อยข้อมูลที่ถูกขโมยมาทั้งหมด 9 ครั้งเว้นแต่ว่าบริษัทจะยอมจ่ายเงินเรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero
อย่างไรก็ตามมันยังไม่ชัดเจนว่าทรัมป์จะเกี่ยวโยงกับบริษัทกฎหมายนี้อย่างไร เพราะเขาเชื่อว่าเขาไม่เคยเป็นลูกค้ากับบริษัทดังกล่าว
สำนักงานกฎหมายตอบโต้
อ้างอิงรายงานจาก The New York Post ที่เผยว่านาย Grubman ปฏิเสธที่จะเจรจาต่อรองกับแฮกเกอร์แม้ว่าพวกเขาจะขู่ว่าจะ “เข้าโจมตี [สำนักงานกฎหมาย] ให้ลงไปกองอยู่ที่พื้นหาก [พวกเขา] ไม่ได้รับเงิน” เขาเชื่อว่าแฮกเกอร์อาจจะยังปล่อยเอกสารต่อไป แม้ว่าเขาจะจ่ายเงินไปแล้วก็ตามและ FBI พิจารณาว่าการแฮกข้อมูลนั่นถือว่าเป็นการก่อการร้ายและสหรัฐ ฯ นั่นก็ขึ้นชื่อในเรื่องการไม่เจรจาต่อรองกับผู้ก่อการร้าย
นาย Brett Callow จากบริษัทรักษาความปลอดภัยของข้อมูล Emsisoft ได้พูดถึงการเรียกเงินค่าไถ่ในครั้งนี้ว่า “มันหนึ่งในการเรียกค่าไถ่ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา” และสะท้อนความเชื่อมั่นของนาย Grubman โดยเขากล่าวว่า :
“ในสถานการณ์นี้บริษัทไม่ได้มีตัวเลือกที่ดีมากนัก ซึ่งแม้ว่าพวกเขาจะจ่ายเงินค่าไถ่ไปแล้ว มันก็ไม่ได้รับประกันว่าแฮกเกอร์จะทำลายข้อมูลที่ขโมยมาทิ้งไป และหากมันมีมูลค่าในตลาดที่สูงขึ้น ข้อมูลเหล่านี้อาจยังคงมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนต่อไป”
ที่มา : cointelegraph